เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 22 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ระบุว่ารัฐบาล ใช้มาตรา 44 เพื่อยึดทรัพย์ในคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ไม่ใช่เป็นการใช้มาตรา 44 เพื่อเล่นงาน คำพูดนี้เป็นคำพูดที่บิดเบือนอย่างร้ายกาจที่สุด เพราะการเล่นงานหรือไม่ เป็นการใช้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ความรับผิดทางละเมิดปี 2539 ที่เคยใช้เล่นงานมาหลายคดี เช่น คดีรถดับเพลิง ที่รวมแล้วกว่า 3,000 คดี ซึ่งคดีจำนำข้าวนั้น ถ้าจะถูกเล่นงานก็เล่นงานโดยพ.ร.บ.นี้

ปัญหาคือเมื่อเขาบอกว่าผิดจะเข้าไปยึดทรัพย์ ใครจะเป็นคนไปยึด กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์นั้น ตั้งขึ้นมาเพื่อให้ทำเรื่องการเงินและการค้า ไม่มีวัตถุประสงค์จะไปยึดทรัพย์ ถ้าจะให้เขายึด เขายึดไม่เป็น ไม่มีเจ้าหน้าที่ แต่หน่วยงานที่มีหน้าที่ยึดทรัพย์ในประเทศไทยก็คือกรมบังคับคดี แต่กฎหมายระบุว่าจะยึดทรัพย์บังคับคดี ได้เฉพาะที่ศาลมีคำพิพากษา ฉะนั้นจะทำอย่างไรให้เขามายึดทรัพย์ในคดีที่ศาลยังไม่พิพากษา ก็คือยึดตามคำสั่งปกครอง

“เขาไม่ได้เพิ่งนึกได้ในวันนี้ ซึ่งกระทรวงยุติธรรมส่งหลักฐานมาให้ผมว่าสมัยรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ เขาเคยนึกกันขึ้นมาได้ว่า พ.ร.บ.รับผิดทางละเมิดมันมีมาตั้งแต่สมัยนายกฯบรรหาร แล้วสุดท้ายก็ต้องไปยึดทรัพย์โดยกรมบังคับคดีและสมัยนายกฯยิ่งลักษณ์ ก็เคยทำเรื่องขอตั้งกองยึดทรัพย์บังคับคดีตามคำสั่งปกครอง ขึ้นในกรมบังคับคดี เพื่อเตรียมแต่ว่าก.พ.ร.ไม่อนุญาต เหตุที่ไม่อนุญาตก็เพราะคุณยังไม่มีอำนาจตามกฎหมายจะไปยึด แล้วมาตั้งกองเตรียมยึดได้ยังไง” รองนายกฯ กล่าวและว่า และวันนี้เมื่อคำสั่งมาตรา 44 ออกมา ก็มีคำถามว่า ทำไมต้องรีบ ให้กรมบังคับคดีมีอำนาจก่อนที่จะสั่งในเรื่องนั้น ซึ่งจะก่อนหรือหลังนั้นไม่เกี่ยว เพราะกรมบังคับคดีไม่มีส่วนในการจะไปบอกว่าผิด และไม่ได้ไปตีปลาหน้าไซ เขาต้องรู้ว่าเขามีอำนาจเพื่อเตรียมการ และเขาเตรียมการแล้วแบบมืออาชีพ ติดต่อกรมที่ดิน ธนาคาร เพื่อให้รู้ว่าผู้ที่จะถูกยึดทรัพย์มีที่ดินตรงไหนเท่าไร มีเงินในธนาคารเท่าไร ถ้าจะต้องยึด ก็จะได้ยึดได้ ถ้าไม่ต้องยึด ก็หยุดไว้ไม่ต้องทำอะไร ขอย้ำอีกครั้งว่า ไม่ได้ใช้มาตรา 44 ไปยึด

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน