พท. แนะบัตรเดียวเบอร์เดียวดีต่อรัฐบาล ย้อนกลัวอะไรไม่ให้ต่างชาติสังเกตการณ์
เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย ( พท. ) นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคพท. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสมชัย ศรีสุทิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีข้อเสนอถึง กกต.และนายกฯให้ใช้มาตรา 44 แก้กฎหมายเพื่อให้พรรคการเมืองใช้พรรคเดียวเบอร์เดียวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ที่ใช้บัตรใบเดียวนั้น สะท้อนการตัดสินใจ 3 เรื่องด้วยกันคือ
1.เลือกนายกฯ 2.เลือกพรรคการเมืองที่จะไปกำหนดนโยบายและแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน และ 3.เลือกผู้แทนราษฎร ดังนั้นการเลือกครั้งเดียวได้ทั้ง 3 อย่าง ตรงนี้จึงสำคัญ การให้ผู้สมัครแต่ละคนมีเบอร์ของตัวเองนั้นสร้างความสับสน ไม่สะท้อนเจตนารมณ์ของพี่น้องประชาชนได้ การมีเบอร์เดียวนั้นจะทำให้ง่ายทั้งการปฏิบัติ การจัดการ การพิมพ์บัตร และการที่พี่น้องประชาชนจะตัดสินใจ จะเลือกพรรคไหนก็ง่ายเหมือนกัน
ส่วนที่มีการห่วงว่าการจะใช้เบอร์เดียวอาจจะต้องไปเกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย แล้วทำให้การเลือกตั้งเลื่อนออกไปนั้น ตนเห็นว่าในแง่เทคนิคทางกฎหมาย รัฐบาลมีช่องทางที่จะดำเนินการอยู่แล้ว สามารถนำเข้าสภาฯ เพื่อพิจารณาทั้ง 3 วาระก็ได้ และ กกต.ควรทำหน้าที่นี้ อย่าให้คนรู้สึกว่า กกต.ไม่เห็นประโยชน์ของประเทศ และไม่เป็นกลาง ถ้ารัฐบาลมั่นใจว่าที่ผ่านมาท่านบริหารประเทศได้ดี มีพี่น้องประชาชนสนับสนุนจำนวนมาก ยิ่งใช้เบอร์เดียวจะยิ่งดีสำหรับรัฐบาล
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เมื่อถามถึงกรณีการไม่ให้ต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนฟังข่าวแล้วไม่เข้าใจเหตุผลของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศของไทยมากที่สุด เพราะการที่เปิดให้ต่างชาติเข้ามาไม่ใช่เรื่องผิดปกติของประเทศประชาธิปไตย การที่องค์กรต่างๆ อยากเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้ง ยิ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจ เป็นผลดีกับประเทศโดยรวม จะทำให้ผลการเลือกตั้งที่จะออกมาได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
ตนไม่ทราบว่านายดอนกลัวอะไร เขาไม่ได้เข้ามาแทรกแซง เพียงแต่เขาเข้ามาดู และประเทศอื่นๆ ที่เป็นประชาธิปไตยก็ยอมรับ ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นเป็นสินทรัพย์สำคัญที่จะสร้างมูลค่าให้กับประเทศต่อไปในอนาคต ตนคิดว่าควรจะเปิดโอกาสให้เขาเข้ามา โดยเฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันที่รัฐบาลไม่มีการตรวจสอบ ไม่มีการถ่วงดุล ยิ่งต้องทำให้ความโปร่งใสตรงนี้ชัดเจน การพยายามปกปิดต่างหากที่สร้างความหวาดระแวง
เมื่อถามถึงรายละเอียดการเชิญผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศของพรรคมาประชุมในวันที่ 21 ธ.ค. นายภูมิธรรม กล่าวว่า จะมีการทำความเข้าใจกับผู้สมัครในเรื่องที่เราได้ไปพูดคุยกับ กกต.เรื่องกฎระเบียบต่างๆ เช่น เรื่องป้าย เรื่องการหาเสียง และจะเปิดผลการศึกษา เปิดเอกสารและข้อมูลต่างๆ ว่าเศรษฐกิจ และสถานการณ์ต่างๆ ของประเทศเป็นอย่างไร อยู่ในภาวะแบบไหน เพราะหลายปีที่ผ่านมาพี่น้องประชาชนมีความเดือดร้อนมาก
วันนี้แบงก์ชาติประกาศขึ้นดอกเบี้ยอีก สะท้อนให้เห็นว่าหนี้ครัวเรือนกำลังสูงมาก เป็นสัญญาณที่ส่ออันตราย พี่น้องประชาชนกำลังเผชิญปัญหา เราจะสรุปให้เห็นว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร เกิดจากความไม่เข้าใจในการบริหารประเทศ และวิสัยทัศน์ที่ไม่ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และความไม่เป็นมืออาชีพ
ทั้งนี้ สำหรับตัวผู้สมัครของพรรค จะเป็นการเอารายชื่อเซ็ตแรกมาดูในวันที่ 21 ธ.ค. และช่วงบ่ายจะมีประชุมคณะกรรมการสรรหาเพื่อพิจารณารอบที่ 2 คาดว่าอย่างช้าต้นปีหน้าจะตอบได้ว่าเราจะส่งงผู้สมัครกี่เขต และเมื่อมีกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมา เราจะประกาศ 3 รายชื่อ แคนดิเดตนายกฯ
เมื่อถามถึงการระดมทุนของพรรคพท. นายภูมิธรรม กล่าวว่า จริงๆ เป็นเรื่องที่ควรทำ และควรมีรูปแบบที่หลากหลาย แต่การระดมทุนที่เราจะทำคงไม่เหมือนกับที่รัฐหรือพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ทำ เพราะเหมือนเขาจะมีญานวิเศษที่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง จึงสามารถมีการจองที่จองทางก่อนจะมีการปลดล็อกได้ แต่พรรคการเมืองต่างๆ ทำได้ยากมาก เพราะเราไม่มีโอกาสรู้ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง พอเมื่อปลดล็อกก็ใกล้ช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ก็เต็มหมด และตามกฎหมายใหม่การระดมทุนครั้งนี้ตามรูปธรรมจะสามารถทำได้ก่อนที่กฤษฎีกาเลือกตั้งจะออกหรือไม่ รูปแบบเฉพาะหน้าเราจึงต้องทำในรูปแบบของการบริจาค
หลังจากนี้ก็จะดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง แต่คงไม่มีศักยภาพพอที่จะทำได้เท่ารัฐบาลที่ขายโต๊ะละ 3 ล้านบาท ซื้อบัตรเข้ามานั่งทานอาหารที่ละ 3 แสนบาท อันนี้สวนทางกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่กำลังยากลำบาก ยิ่งชี้ให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำ
เมื่อถามว่ามีคนเสนอให้ ป.ป.ช.เข้าไปตรวจสอบข้าราชการที่เข้าไปซื้อโต๊ะ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็เป็นสิ่งที่ควรเข้าไปตรวจ เพราะเป็นสิ่งที่ผิดปกติ ตนนึกถึงตัวเองที่ไม่ใช่คนยากลำบาก จะให้ควักเงิน 3 แสนบาทไปนั่งทานอาหารยังคิดเยอะเลย แต่นี่สามารถทำได้ถึง 200 โต๊ะ มีคนถึง 2 พันคนที่ยอมควักเงิน 3 แสนไปนั่งทานอาหารมือหนึ่ง ก็เป็นเรื่องพิเศษที่ กกต.ควรเข้าไปตรวจสอบ
อ่านข่าว เพื่อไทยชี้ประชาธิปไตยคือจุดเริ่มต้นรัฐสวัสดิการที่ดี จี้ไม่สร้างภาระปชช.
