ชัชชาติมาแล้ว! โชว์สปีชแรก ประกาศเป็นมืออาชีพ เหน็บแจกเงิน ไม่ช่วยแก้ความจน!

ชัชชาติมาแล้ว! โชว์สปีชแรก – เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. ที่พรรคเพื่อไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยมีการจัดประชุมเตรียมการเลือกตั้ง และรับทราบแนวปฏิบัติในการรณรงค์หาเสียงของพรรค โดยมีการเรียกผู้สมัครและสมาชิกพรรคจากทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมและรับฟัง

โดยมีแกนนำพรรค พท.เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรค นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม นายชัยเกษม นิติสิริ อดีตรมว.ยุติธรรม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค เป็นต้น

ทั้งนี้ บรรยากาศการประชุมเป็นไปอย่างคึกคัก นอกจากแกนนำพรรคที่มาร่วมประชุมแล้ว ยังมีนายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พาณิชย์ เดินทางมาร่วมประชุมด้วยตามปกติแม้ว่าจะมีเหตุภาพหลุดว่อนโซเชียลมีเดีย อยู่ในขณะนี้ก็ตาม

จากนั้นนายชัชชาติขึ้นกล่าวสปีชเป็นคนแรก โดยเป็นการกล่าวสปีชบนเวทีครั้งแรกในฐานะสมาชิกพรรคพท. ซึ่งนายชัชชาติ กล่าวตอนหนึ่งว่า จากการที่เราได้ไปลงพื้นที่สำรวจและทำโพลมา พบว่าพี่น้องประชาชนประสบปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง และเชื่อว่าภาคธุรกิจก็เห็นตรงกันว่าเศรษฐกิจไม่ได้ดีขึ้นโดยเฉพาะในระดับกลางและล่าง

วันนี้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมา ที่สำคัญคือหนี้เพิ่มเร็วกว่ารายได้ และรัฐบาลก็บอกเองว่าคนจนกำลังจะตายอยู่แล้ว ตนมีโอกาสลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อไปภารกิจส่วนตัว

แต่ชาวบ้านเข้ามาสะท้อนปัญหาตลอดทางเรื่องปัญหายาเสพติด อันเกิดจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ วันนี้เรามีเศรษฐกิจที่แข็งบนแต่อ่อนล่าง มีความเหลื่อมล้ำสูง ไม่เช่นนั้นจะมีงานโต๊ะจีนสามล้านบาทได้อย่างไร

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยถูกควบคุมด้วยปัจจัยภายนอกค่อนข้างมาก เพราะเราเน้นการส่งออกและการท่องเที่ยว ดังนั้นเมื่อมีปัญหาเรื่องการส่งออกและท่องเที่ยวขึ้นมา ก็กระทบกลายเป็นปัญหาประเทศขึ้นมาทันที เราจึงต้องสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศมากขึ้น โดยการสร้างพลังให้กับประชาชน ในอดีตจีดีพีเราเคยดีกว่านี้ แต่ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาเราใช้งบประมาณแบบขาดทุนทั้งหมด ซึ่งการใช้เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่เมื่อเราใช้เงินขนาดนี้เศรษฐกิจประเทศควรโตขึ้น ควรสร้างการหมุนเสียนทางเศรษฐกิจได้ดีกว่านี้ แต่ถามว่าสิ่งเหล่านี้หายไปไหน ยิ่งไปกว่านั้นกลับได้หนี้มากเพิ่มขึ้น

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า การที่เศรษฐกิจประเทศไทยไม่ดี ตนมองเป็น 4 ประเด็น คือ

1.ความไม่มั่นใจ เพราะเศรษฐกิจหัวใจคือความมั่นใจ ความไม่มั่นคงของรัฐบาลและกฎหมายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับไม่มีการตรวจสอบเรื่องคอร์รัปชั่น ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ หากมีการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเที่ยงธรรม ตนเชื่อว่าความมั่นใจจะกลับมาทันที และเศรษฐกิจก็จะไปต่อได้

2.ความไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นราชการ และ นโยบาย เมื่อก่อนเราจะมีรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมเมือง แต่ตอนนี้ กลายเป็นเชื่อมสนามบิน ซึ่งการเชื่อมสนามบิน ไม่ใช่การกระจายความเจริญ และความไม่เข้าใจอันนี้จะส่งผลกระทบในระยะยาวเพราะเป็นโครงการใหญ่ รัฐบาลเข้ามาก็ต้องมาแก้ปัญหานี้

3.ความไม่มีประสิทธิภาพ เช่น บัตรคนจนที่ ไม่ได้ทำให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ แต่เป็นการใช้เงินที่ไม่มีประสิทธิภาพ

และ 4.ความไม่ทันสมัย วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปไว ดังนั้นกฎระเบียบและราชการต้องเล็กลง โลกในวันข้างหน้าจะเป็นยุคตัวใครตัวมันมากขึ้น ดังนั้นรัฐบาลต้องเก่งต้องทัน เพราะการเจรจาการค้าจะเป็นเรื่องสำคัญ โดยตั้งแต่ปีหน้าเศรษฐกิจจะชะลอตัวและหนักมากกว่านี้

ดังนั้นเราจึงต้องการคนที่เป็นมืออาชีพเข้ามาบริหารประเทศ รัฐบาลหน้าจะต้องเป็นคนที่ทำเป็น เราต้องสร้างเกษตรกร สร้างเอสเอ็มอี และเศรษฐกิจประเทศให้เข้มแข็ง วันนี้สำคัญที่สุดคือประชาชน เราจะทำอะไรต้องคิดถึงคนเป็นสำคัญ การแจกเงินเป็นการช่วยเหลือเพียงระยะสั้น แต่การสร้างโอกาสจะทำให้คงอยู่ตลอดไป


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน