‘เต้น’ ย้ำจุดยืน ทษช. พร้อมเลือกตั้ง 24 ก.พ. 62 ชี้ ‘รบ.ชุดนี้’ หมดความน่าเชื่อถือไปแล้ว ถ้าจะเลื่อนกกต.ต้องแจงเหตุผลให้ประชาชน อย่ามาชี้นำ ยัน เลือกวันไหนก็พร้อม ขอแค่บางพรรคอย่าเอาเปรียบ
พร้อมเลือกตั้ง – วันที่ 5 ม.ค. ที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ แถลงข่าวถึงกรณี ที่มีกระแสข่าวเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้งออกไป พรรคไทยรักษาชาติขอย้ำจุดยืนว่า สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 เพราะเป็นที่รับรู้กันทั่วไปทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นหากจะมีการขยับหรือปรับเปลี่ยนเวลาก็อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น และที่สำคัญที่สุดคือการที่จะทำให้บ้านเมืองกลับคืนสู่ประชาธิปไตยเกิดความล่าช้าและไม่แน่นอนขึ้นอีก
ถึงแม้ว่าพรรคไทยรักษาชาติจะมีจุดยืนสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 แต่ก็เห็นว่าการที่รัฐบาลโดยนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เข้าหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในเรื่องรายละเอียดขั้นตอนการจัดการ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ เนื่องจากพระพิธีดังกล่าวเป็นเรื่องมหามงคลที่คนไทยทั้งประเทศจะได้หลอมรวมดวงใจ เพื่อให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยความสง่างามสมพระเกียรติ และเรียบร้อยอย่างที่สุด
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
และเมื่อรัฐบาลเข้าหารือกับกกต.ครบถ้วนแล้ว หลังจากนี้ขั้นตอนในการกำหนดวันเลือกตั้งจึงควรเป็นอำนาจหน้าที่ของกกต. โดยสมบูรณ์ รัฐบาลไม่ควรล้ำเส้นออกมาประกาศวันเวลาที่ต้องการล่วงหน้า เพราะจะถือเป็นการชี้นำ หรือเป็นการกดดันกกต.หรือไม่ พรรคไทยรักษาชาติจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลหรือบุคคลใดก็ตามในฝ่ายผู้มีอำนาจ ให้ยุติการดำเนินงานซึ่งจะทำให้กกต. ขาดความมีอิสระในการพิจารณากำหนดวันเลือกตั้งโดยรอบคอบตั้งแต่บัดนี้
พรรคไทยรักษาชาติประกาศลงทำงานในสนามเลือกตั้ง ภายใต้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายประกอบและธรรมนูญไม่ได้เป็นไปตามคำพูดของบุคคลในรัฐบาล เพราะรัฐบาลชุดนี้หมดความน่าเชื่อถือที่จะพูดเรื่องกำหนดเวลาเลือกตั้งไปนานแล้ว ดังนั้นเมื่อรัฐบาลไม่มีเครดิตในการพูดเรื่องดังกล่าวจึงควรให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายและให้กกต.เป็นผู้ประกาศเรื่องนี้ ซึ่งหากพิจารณาข้อมูลครบถ้วนแล้วยืนยันการเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ทางพรรคไทยรักษาชาติขอสนับสนุนและพร้อมลงแข่งขันตามกติกา แต่ถ้าจะมีการปรับเปลี่ยนวันเลือกตั้งเราก็คาดหวังว่ากกต. ควรมีเหตุผลในการอธิบายกับประชาชน เพราะเรื่องเหล่านี้สิ่งใดที่เปิดเผยได้ไม่ควรทำให้ประชาชนสับสน อยู่ในวิสัยที่ประชาชนพึงรับทราบเพื่อเข้าใจในเหตุผลที่มาที่ไปของการตัดสินใจนั้น
ทษช. ขอให้กำลังใจกกต. ให้ปฎิบัติหน้าที่โดยอิสระยึดถือความรับผิดชอบต่อประเทศชาติประชาชนและหลักการประชาธิปไตยเป็นที่ตั้ง ในเมื่อวันนี้ยังไม่มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งก็ต้องถือว่าประชาชนทุกคนรอกกต.อยู่ ส่วนกกต. คงไม่ต้องรอใคร เพราะรัฐบาลประกาศแล้วว่าได้พูดคุยรายละเอียดครบถ้วนแล้ว และ ควรยุติแสดงท่าทีเกี่ยวกับการกำหนดวันเลือกตั้ง
“พรรคไทยรักษาชาติมีความพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง ไม่ว่าจะวันใด เราทำงานหนักมากขึ้น เพื่อให้ได้รับการยอมรับจากประชาชน อยากให้รัฐบาลเข้าใจว่าเลื่อนหรือไม่เลื่อนเลือกตั้งนั้น แต่ที่ได้ตั้งคำถามและเป็นห่วงนั้นประชาชนไม่ได้ห่วง ว่าจะเลื่อนไปอีกครึ่งเดือน หรือเดือนหนึ่ง แล้วรัฐบาลได้อยู่ยาวขึ้นตามระยะเวลาที่เลื่อนออกไปเพราะเห็นอยู่แล้วว่า กติกานี้ฝ่ายผู้มีอำนาจต้องการอยู่ยาวอีกหลายปี ไม่มีใครมาคิดเล็กคิดน้อยกับเวลาแค่ 1 เดือนนี้
เพียงแต่ต้องการเห็นเจตนาบริสุทธิ์ที่แท้จริงของรัฐบาล ที่จะไม่แสดงความต้องการของรัฐบาลเองออกมาแต่ต้องให้อิสระกกต. ทำหน้าที่ เพราะเมื่อใดที่รัฐบาลแสดงความต้องการของตัวเองออกมา ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าประชาชนจะคิดเชื่อมโยงกับผลประโยชน์ทางการเมืองของพรรคการเมือง ซึ่งใกล้ชิดกับฝ่ายผู้มีอำนาจทันที ประชาชนไม่เคยคิดเล็กคิดน้อย เพราะรู้อยู่แล้วว่ากติกานี้ใครเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่ประชาชนก็ใจถึง พร้อมที่จะลงต่อสู้ภายใต้กติกาที่เสียเปรียบทุกประตู หวังเพียงอย่างเดียวว่าขอให้ฝ่ายผู้มีอำนาจแสดงความตรงไปตรงมากับประชาชนบ้าง”
ส่วนที่ถามว่าระยะเวลาการรณรงค์หาเสียงจะมีปัญหาหรือไม่นั้น ต่อให้มีเวลาหาเสียงเพียงแค่วันเดียว ถ้าหากจะเป็นวิถีทางทำให้ประเทศไทยกลับคืนมาสู่ประชาธิปไตยได้ พรรคไทยรักษาชาติก็พร้อม แต่ขอให้เป็นระยะเวลาที่เท่าๆ กัน อย่างเป็นธรรมไม่ใช่บางพรรคการเมืองมีเวลาหาเสียงมาตลอด 5 ปี แต่บางพรรคการเมืองยังไม่สามารถขับเคลื่อนได้เต็มสูบ อะไรที่เสมอภาคเท่าเทียมเรารับได้ แต่ถ้าไม่เสมอภาคแล้วมีเจตนาหาเศษหาเลย เอาเปรียบกันอยู่ตลอดเวลา คิดว่าเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องพิจารณา
ในสถานการณ์พายุปาบึก ที่กำลังส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายในหลายพื้นที่ในจังหวัดทางภาคใต้ ทางทษช. จึงกำชับไปยังสาขาพรรคในภาคใต้ รวมถึงผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัครส.ส.ของพรรค ทุกคนให้ลงพื้นที่เกาะติดสถานการณ์และออกเยี่ยมพบปะประชาชนตามชุมชนที่ได้รับความเสียหายหรือศูนย์อพยพต่างๆ และประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน เพื่อสนับสนุนปฎิบัติการอำนวยความสะดวกช่วยเหลือประชาชนให้ครบถ้วนอย่างทันท่วงที
และได้ย้ำแนวปฏิบัติในการเยี่ยมให้กำลังใจประชาชนคือ เคียงข้างอย่างจริงใจไม่ช่วยโอกาส โดยเราจะไม่ใช้พื้นที่ของสถานการณ์นี้รณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง หรือประกาศความเป็นพรรคการเมือง แต่ในเมื่อสถานการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ที่บุคลากรของพรรคกำลังปฎิบัติการอยู่จึงขอมีส่วนร่วมในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่จะร่วมบรรเทาความเสียหาย ความทุกข์ยาก
