พรรคการเมืองขานรับเลือกตั้ง24มี.ค.
พรรคการเมืองขานรับเลือกตั้ง24มี.ค. : เมื่อวันที่ 23 ม.ค. รัฐบาลได้นำพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2562 ประกาศใน ราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับแล้ว
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ประชุมด่วน จากนั้น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. แถลงผลว่า กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง คือ วันที่ 24 มี.ค.2562
โดยเปิดรับสมัครส.ส.วันที่ 4-8 ก.พ. ประกาศรายชื่อผู้สมัคร วันที่ 15 ก.พ. ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรวันที่ 4-16 มี.ค. ลงคะแนนนอกเขตเลือกตั้งวันที่ 17 มี.ค.
ส่วนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งยังยึดกรอบ 150 วัน คือ ภายในวันที่ 9 พ.ค. เพื่อตัดปัญหาการร้องเรียนเรื่องกรอบเลือกตั้ง 150 วันรวมการรับรองผลส.ส.ด้วยหรือไม่
ขณะที่พรรคการเมืองต่างขานรับการเลือกตั้งกันถ้วนหน้า
สำนักนายกรัฐมนตรี ออกแถลงการณ์
ในวันที่ 23 ม.ค.2562 สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้นำพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ.2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับแล้ว
ผลก็คือภายใน 5 วันนับแต่วันนี้ กกต.จะได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดวันเลือกตั้งและรับสมัครเลือกตั้งแบบแบ่งเขต จำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตที่แต่ละจังหวัดจะพึงมี จำนวนเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด และสถานที่ที่พรรคการเมืองจะส่งบัญซีรายชื่อผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรา 12 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ.2561
นอกจากนั้นวิธีการหาเสียงเลือกตั้งตลอดจนระยะเวลาในการคำนวณค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง จะต้องปฏิบัติและเริ่มนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตามมาตรา 173 ซึ่งน่าจะเป็นการยุติความลังเลสงสัยได้ว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่และเมื่อใด
ทั้งนี้ การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นอำนาจของ กกต. แต่การประสานงานระหว่างรัฐบาลกับ กกต.เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานเพียงเท่าที่จำเป็นต่อการแจ้งข้อมูลให้กกต.ทราบถึงกำหนดการและกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่จะมีขึ้นก่อน ระหว่างพระราชพิธี และภายหลังพระราชพิธี
เพื่อไม่ให้กิจกรรมเกี่ยวกับการเลือกตั้งที่จะต้องดำเนินการภายหลังเลือกตั้ง ซึ่งบางเรื่องปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสมอยู่แล้ว ไม่ทับซ้อนหรือเสี่ยงต่อการทับซ้อนกับกำหนดการพระราชพิธีดังกล่าว หรือพระราชพิธีประจำปีในเรื่องอื่นๆ เช่น พระราชพิธีสงกรานต์ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลวิสาขบูชา
ตลอดจนเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับรู้เพื่อจะได้ช่วยกันรักษาบรรยากาศในระหว่างนั้น ไม่ให้เกิดความสับสน ความขัดแย้งหรือเสียความตั้งใจดีและการมีจิตอาสาสาธารณะ เพราะประชาชนทั่วไปคงปลื้มปีติยินดีสมานฉันท์ในอันที่จะได้มีโอกาสร่วมในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ อันหาได้ยากอีกคราหนึ่ง นับตั้งแต่พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อพ.ศ.2493 เป็นต้นมา
อย่างไรก็ตามรัฐบาลเชื่อว่า วันเลือกตั้งที่กกต.จะกำหนดขึ้นนี้ จะไม่กระชั้นชิดเกินควรจนกระทบต่อระยะเวลาหาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองและผู้สมัคร และไม่ทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ใด ทั้งจะไม่ช้าเกินควรจนเกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ประเทศชาติและประชาชน เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ยาวนานกว่า 150 วันนับจากวันที่พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.พ.ศ.2561 มีผลใช้บังคับอยู่แล้ว
ซึ่งหมายความว่าการมีส.ส.และรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะเกิดขึ้นในราวกลางปีนี้ อันเป็นไปตามกำหนดการที่วางไว้เมื่อหลายเดือนก่อน
ขณะเดียวกันรัฐบาลขอให้ประชาชนช่วยกันรักษาบรรยากาศความสงบเรียบร้อยและความสามัคคี ปรองดองดังที่ปรากฏตลอดระยะเวลา 4 ปีเศษที่ผ่านมา ให้ยั่งยืนต่อไปจนผ่านพ้นการเลือกตั้งและการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อความเป็นสวัสดิมงคลแก่บ้านเมืองและเป็นที่ชื่นชมยินดีของนานาชาติ
การหาเสียงเลือกตั้ง การเสนอโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนย่อมทำได้ตามวิถีทางประชาธิปไตย เพื่อนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดและเป็นไปได้จริงแก่ประชาชน แต่ความขัดแย้ง ข้อพิพาทบาดหมางจนนำไปสู่วิกฤตของบ้านเมืองดังในอดีต ไม่ควรจะกลับมาหลอกหลอนเราอีก
ขณะเดียวกันขอให้พี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ช่วยกันออกไปใช้สิทธิให้มากที่สุดให้สมกับที่รอคอย โดยขอให้มีความรู้เท่าทันผู้สมัคร และมีความเข้าใจวิธีการเลือกตั้งแบบใหม่ซึ่งแตกต่างไปจากเดิม รัฐบาลหวังว่ากกต.และทุกฝ่ายจะช่วยกันใช้ระยะเวลาที่มีอยู่นับแต่นี้ไป สร้างความรับรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเหล่านี้แก่ประชาชน
เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างเรียบร้อย บริสุทธิ์และยุติธรรม สมตามความประสงค์ของพวกเราทุกคน
ภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย
วันที่ 28 ม.ค. พรรคเพื่อไทยจะเรียกประชุมว่าที่ผู้สมัครของพรรคเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้ง นโยบาย ทิศทาง รวมถึงข้อควรระวังในทางกฎหมาย
ในวันนั้นจะเห็นหน้าตาของว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้งหมด
ส่วนกรณีกกต.ระบุมีพรรคประชาธิปัตย์และพรรคประชาธิปไตยใหม่ ที่ทำขั้นตอนต่างๆ พร้อมสำหรับการเลือกตั้งนั้น เข้าใจว่าอาจเป็นการคลาดเคลื่อนของข้อมูล
เพราะพรรคเพื่อไทยทำขั้นตอนต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งการตั้งสาขาพรรคในทุกภาคและตั้งผู้แทนจังหวัดครบถ้วนแล้ว อาจมีเพียงบางจังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเท่านั้น ยืนยันเราพร้อมหมดแล้ว
จึงอยากให้ กกต.ระมัดระวังในการประกาศอะไรออกมา เพราะถ้ามีการคลาดเคลื่อนจะเกิดความเสียหายได้
นิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา
พรรคชาติไทยพัฒนาดีใจที่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการเลือกตั้งเกิดขึ้นหลังจากรอกันมานาน
ทางพรรคเตรียมความพร้อมไว้อยู่ก่อนแล้ว จะดำเนินการตามแผนงานต่างๆ ที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายที่จะนำเสนอต่อประชาชนที่ได้ปรับปรุงชัดเจนแล้ว และจะประสานกับกกต. เกี่ยวกับข้อกำหนดเรื่องนโยบายในการหาเสียงต่อไป
ส่วนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ยืนยันว่าเกิน 300 เขตแน่นอน ขณะนี้กำลังเตรียมนำรายชื่อที่เสนอมาจากสาขาพรรคและตัวแทนพรรคประจำจังหวัด เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค เพื่อนำเสนอต่อไปยังคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อให้ความเห็นชอบโดยเร็วต่อไป
ส่วนการปฐมนิเทศผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ในกรณีมีการประกาศวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 มี.ค. และกำหนดวันรับสมัครรับเลือกตั้งวันแรก 4 ก.พ. ทางพรรคได้กำหนดวันปฐมนิเทศผู้สมัครเป็นวันศุกร์ที่ 1 ก.พ.นี้
ส่วนการหาเสียงเลือกตั้ง ทางพรรคจะหาเสียงไม่ให้เกิดความขัดแย้งกับใคร โดยจะยึดหลัก “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ร่วมแรงปฏิรูปประเทศไทย” ตามสโลแกนที่ประกาศไว้
และจะเน้นนโยบายที่เห็นว่ามีความสำคัญต่อประชาชนและพรรคสามารถกระทำได้จริง
ธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
กกต.ได้กำหนดวันรับสมัครส.ส.และวันเลือกตั้งแล้ว ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง เนื่องจากเตรียมบุคลากรทั้งผู้สมัคร และนโยบายที่จะแก้ปัญหาของประชาชนและประเทศชาติได้
พรรคจะเป็นทางเลือกหลักนำประเทศสู่ความเจริญที่ยั่งยืน ด้วยสโลแกน แก้จน สร้างคน สร้างชาติ และภายในสัปดาห์นี้ น่าจะได้ผู้สมัครครบทั้ง 350 เขต
จากนั้นในสัปดาห์หน้าจะประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่ออนุมัติส.ส.เขตทั้งหมด รวมถึงส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย คาดว่าในวันดังกล่าวจะอนุมัติบุคคลที่จะเสนอชื่อเป็นนายกฯด้วย
ส่วนการเสนอชื่อบุคคลใดเป็นนายกฯนั้น บอกได้ว่าอันดับ 1 คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส่วนจะเสนอชื่อบุคคลอื่นเป็นอันดับ 2 และ 3 หรือไม่ อยู่ที่ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณา
และจากที่แกนนำพรรคลงพื้นที่ในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ เชื่อมั่นว่าพรรคจะได้ส.ส.เพิ่มแน่นอนทั้งภาคเหนือ กลาง อีสาน ส่วนกทม.บางพื้นที่ที่มีปัญหาขัดแย้งภายในพรรค เช่น เขตคลองสามวา ก็เป็นเรื่องปกติ
การคัดสรรบุคคลลงสมัครส.ส.เราดูจากความพร้อมและความเหมาะสม รวมถึงความต้องการของประชาชนในพื้นที่ด้วย
ธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อกกต.ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งแล้ว จึงฝากถึงทุกพรรคการเมืองให้หาเสียงอย่างสร้างสรรค์ นำนโยบายมาเสนอแข่งกันให้ประชาชนพิจารณา เพราะที่ผ่านมาเริ่มมีการสาดโคลน ใส่ร้าย โจมตีกันตลอดเวลา จนไม่สามารถเดินหน้าไปสู่ความปรองดองได้
และไม่เห็นด้วยที่บางพรรคงใช้วาทกรรมแบ่งข้างพรรคประชาธิปไตยและพรรคเผด็จการ เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการเลือกตั้งเท่าเทียมกัน วาทกรรมที่หวังผลการเลือกตั้งในอดีตของบางพรรคที่บอกว่าเป็นประชาธิปไตย แต่อำนาจการตัดสินใจอยู่ที่คนเพียงคนเดียว แล้วจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่างไร
วันนี้พรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรคการเมืองของคนไทยทุกคน ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก จะเป็นพรรคที่จะเข้าไปเดินหน้าประเทศไทย
มุ่งไปสู่การสร้างความมั่นคงและมั่งคั่งให้คนในประเทศ
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
เมื่อกกต.ประกาศวันเลือกตั้งชัดเจนแล้ว นี่คือก้าวแรกของการเปลี่ยนผ่าน นำประเทศกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย พรรคอนาคตใหม่พร้อมเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้น
ในฐานะหัวหน้าพรรคขอประกาศว่า พร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้ง ทั้งว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั้ง 350 เขต และส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน รวมถึงนโยบายในทุกมิติ
พวกเราขอโอกาสจากประชาชน ให้ความไว้วางใจเราเข้าไปทำงานในสภา เพื่อผลักดันวาระที่ก้าวหน้า จัดการปัญหาของประเทศที่ต้นตอได้จริง
การเลือกตั้งครั้งนี้ คือ การกำหนดอนาคตของประเทศว่าเราจะอยู่กับความล้าหลังหรือความก้าวหน้า เราจะอยู่กับความกลัวหรือความหวัง เราจะอยู่กับการเมืองแบบเดิมหรือแบบใหม่ อนาคตอยู่ที่ปลายปากกาของทุกคน
ผมไม่ขอสัญญาทิ้งๆ ขว้างๆ จะไม่สัญญาในสิ่งที่ทำไม่ได้ แต่ขอสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่ออุดมการณ์ และจะทำให้ถึงที่สุดด้วยความสามารถทั้งหมดที่ผมและทีมงานมี โดยไม่ประนีประนอมกับสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
เพื่อสร้างสังคมที่คนไทยเท่าเทียมกันและประเทศไทยเท่าทันโลก ดังที่เราฝันไว้ร่วมกัน
ศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย
พรรคภูมิใจไทยพร้อมเลือกตั้งมานานแล้ว โดยจะส่งส.ส. 350 เขต บัญชีรายชื่อ 150 คน รวม 500 ที่นั่ง และจะเสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคอยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคเพียงคนเดียว และตั้งเป้าเป็นพรรคแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนกรณีมีรายงานจาก กกต.ถึงการแจ้งเตือนพรรคการเมืองให้เร่งปฏิบัติใน 4 เรื่องตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ให้ครบถ้วน ซึ่งมีพรรคประชาธิปัตย์และพรรคประชาธิปไตยใหม่ ที่ทำครบถ้วนว่า อาจเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและยังไม่ปรับปรุงข้อมูลล่าสุด
ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยตั้งสาขาพรรคครบ 4 ภาค 4 สาขามาตั้งแต่ปลายเดือนธ.ค.2561 และมีการประชุมเลือกตัวแทนพรรคประจำจังหวัดแล้วรวม 68 จังหวัด ซึ่งได้แจ้งกับกกต.แล้ว ส่วนอีก 5 จังหวัดจะดำเนินการแล้วเสร็จในวันที่ 25 ม.ค.
ขณะที่การทำไพรมารีโหวตพรรคจะเสร็จภายในวันที่ 31 ม.ค.
เทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา
พรรคชาติพัฒนาเตรียมความพร้อมไว้แล้วทั้งนโยบายและแคมเปญหาเสียง รวมถึงผู้สมัครส.ส. โดยวันที่ 28 ม.ค.จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.กทม. พร้อมนโยบายด้านกรุงเทพฯ และวันที่ 31 ม.ค.จะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศ พร้อมนโยบายระดับประเทศ
ผมไม่ห่วงว่าวันเลือกตั้งจะเป็นวันใด แต่สิ่งที่กังวลและขอเรียกร้องให้กกต. เร่งทำความเข้าใจกับประชาชน คือ กระบวนการจัดการเลือกตั้ง ได้แก่
1.การเลือกตั้งด้วยบัตรใบเดียว 2.การเสนอบัญชีบุคคลที่พรรคสนับสนุนให้เป็นนายกฯ 3.หมายเลขผู้สมัครส.ส.ของพรรคที่ต่างเขตจะได้ต่างหมายเลข และ 4.การนับคะแนนและผลการออกเสียงเลือกตั้ง
เพื่อให้ประชาชนเข้าใจ และป้องกันการเกิดบัตรเสียมากเกินไป
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง