‘ชัชชาติ’ จี้ ทุกพรรคประกาศจุดยืน ฝั่งประชาธิปไตย หรือ ‘ลักไก่’ เข้ามา ไม่ก้าวล่วง 4 รมต.ลาออก ขึ้นกับวิจารณญาณ ไม่หวั่นถูกจ้องใช้ ‘คดี’ ขัดขา

ชัชชาติ – เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 ม.ค. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ คณะทำงานด้านเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย ว่า วันนี้พรรคจะมีความชัดเจนว่า ตนต้องทำหน้าที่อะไร เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องค่อนข้างมาก จึงต้องปรึกษาหารือกับผู้บริหารพรรค ว่าตนต้องวางตัวอย่างไร และต้องทำอะไรบ้าง

นับตั้งแต่ประกาศพ.ร.ฎ.เะลือกตั้ง ตนก็หยุดโพสต์ข้อความทุกอย่างในเฟซบุ๊ก ที่อาจเข้าข่ายว่าจะขัดต่อกฎหมาย และพรรคก็ให้สมาชิกทุกคนปฏิบัติไปในแนวทางเดียวกันด้วย ส่วนงานชัดๆ ของตน คืองานด้านของโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ ส่วนเสียงเชียร์ให้เป็นนายกฯ ยังถือเป็นเรื่องไกลตัว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. เรื่องของเวลาการหาเสียง ยอมรับว่าคงมีเวลาจำกัด พรรคคงจะแบ่งทรัพยากรบุคลากรเป็นทีมไปยังพื้นที่ต่างๆ บุคลากรของพรรคต่างมีความรู้ความสามารถทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การที่ตนเดินทางมาพรรควันนี้ เพื่อถามความชัดเจนว่าทางพรรคจะมอบหมายให้ตนทำหน้าที่ส่วนไหนบ้าง

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการประกาศวันเลือกตั้งแล้ว เชื่อว่าความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเริ่มกลับคืนมา ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ตอบรับ ส่งสัญญาณไปในทิศทางบวก นักลงทุนจะกลับมาลงทุน สำหรับนโยบายของพรรคเพื่อไทย แม้จะชูเรื่องการแก้ไขปัญหาปากท้องเป็นหลัก แต่เราไม่ได้เน้นเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว จะดูไปถึงเรื่องอื่นด้วย เช่น ราคาพืชผลการเกษตร การแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นต้น

เมื่อถามว่าสิ่งที่เคยพูดกับพี่น้องภาคอีสาน เรียกร้องให้เลือกพรรคฝ่ายประชาธิปไตยให้มาก เพื่อจะจับมือกันให้ได้ถึง 375 เสียง นายชัชชาติ กล่าวว่า ทุกวันนี้มี 2 แบบ คือ คนที่ยืนอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยจริง กับคนที่อาศัยความเป็นประชาธิปไตยเข้ามา ทั้งที่ในจิตวิญญาณแล้วไม่ใช่ ที่เคยพูดถึงเรื่อง 375 เสียงนั้น ไม่ได้หมายความว่าเราจะสู้เอาเป็นเอาตายกัน แต่ที่พูดเพราะกังวลว่าฝ่ายที่ไม่ศรัทธาประชาธิปไตยจะอาศัยความเป็นประชาธิปไตยเข้ามาบังหน้า ฝ่ายที่ยึดมั่นประชาธิปไตยควรร่วมมือกันส่วนตัวเห็นด้วยหากแต่ละพรรคการเมืองจะประกาศออกมาว่า ยืนอยู่ในฝ่ายใด

สำหรับประเด็น 4 รัฐมนตรีที่ไปร่วมงานพรรคพลังประชารัฐ ควรลาออกจากตำแหน่งหรือไม่นั้น คงไม่ขอพูดถึงคนอื่น แต่ในกรณีของตนที่ตัดสินใจมาทำงานการเมือง ได้ลาออกจากการบริหารงานในบริษัทเอกชน เพราะถือว่าคงไม่แฟร์ หากจะนำเวลาจากการทำงานภาคเอกชน แล้วแบ่งมาทำงานการเมืองด้วย เรื่อง 4 รัฐมนตรีจะลาออกหรือไม่ ไม่ขอก้าวล่วง ขอให้เป็นเรื่องวิจารณญาณแต่ละท่าน

เมื่อถามถึงกรณีมีผู้ตั้งข้อสังเกตถึงคดีความต่างๆ ของนักการเมืองพรรคเพื่อไทย และแม้แต่นายชัชชาติเอง ที่มีคดีในชั้นป.ป.ช. อาจถูกหยิบยกขึ้นมาในช่วงใกล้การเลือกตั้ง นายชัชชาติ กล่าวว่า เชื่อมั่นในระบบยุติธรรม แต่พรรคไม่ได้พึ่งบุคลากรคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ เราทำงานเป็นทีม อย่างกรณีของตนที่มีคดีความอยู่ หากโดนจริงๆ ก็ยังมีบุคคลอื่นที่พร้อมเข้ามาทำหน้าที่ต่อได้ ก่อนหน้านี้เคยชี้แจงไปแล้ว ไม่ได้ทำอะไรผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน