เลขาฯ กกต. ย้ำ สมัครส.ส.ต้องมีหลักฐานเสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี แต่ผ่อนผันไม่ได้ให้รีบยื่น ยัน กกต. ให้อิสระหาเสียงเต็มที่
กกต. – วันที่ 25 ม.ค. ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีกกต.ให้ใช้หลักฐานการยื่นการเสียภาษีย้อนหลัง 3 ปี (2559-2561) เป็นหลักฐานในการสมัครรับเลือกตั้งส.ส. ว่า กกต.ได้พูดคุยกันแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องของข้อกฎหมายซึ่งเรามีข้อกังวล แต่เนื่องจากกฎหมายนี้กำหนดให้ใช้หลักฐานการเสียภาษีถึงปีที่รับสมัคร จึงมีมติว่าหลักฐานภาษีที่จะใช้ต้องใช้ย้อนหลัง 3 ปี คือปี 2559 ,2560 และ 2561
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ซึ่งการเสียภาษีของปี 2561 ทางกรมสรรพากรให้เสียภาษีตั้งแต่ 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 62 ดังนั้นผู้ที่จะสมัครสามารถยื่นเสียภาษีประจำปี 2561 ได้แล้ว และขอหลักฐานการเสียภาษีจากกรมสรรพากรเพื่อนำมายื่นสมัคร ส่วนที่มีบางคนอาจจะมีปัญหาในการรวบรวมหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย ก็ให้ไปยื่นเสียภาษีประจำปีกับกรมสรรพากรก่อนเพื่อให้ได้หลักฐานใบเสร็จการเสียภาษีมายื่นสมัครต่อกกต.ก่อน แล้วค่อยไปยื่นหลักฐานการหักภาษี ณ ที่จ่าย ภายหลังต่อกรมสรรพากร อย่างไรก็ตามการเสนอให้กกต.ผ่อนผันเกณฑ์ดังกล่าวไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องที่กำหนดอยู่ในกฎหมาย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวถึง การหาเสียงทางโซเชียลมีเดียว่า ขณะนี้ใครที่มีเฟซบุ๊ก ไลน์ ก็ไม่ต้องลบแอ๊กเคานต์ โดยสามารถแจ้งล่วงหน้าต่อผู้อำนวยการประจำเขตเลือกตั้งได้เลย แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการเปิดรับสมัครแต่เมื่อมี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้งแล้ว การหาเสียงต่างๆ ก็สามารถดำเนินการได้ตามปกติ ระเบียบกกต.ที่ออกมาในเรื่องดังกล่าวก็เพื่อที่จะปกป้องตัวของผู้สมัครที่จะใช้ช่องทางในการสื่อสารกับประชาชน ให้ไม่ถูกผู้อื่นปลอมแอ๊กเคานต์เพื่อใส่ร้ายป้ายสี
และเพื่อกกต.จะคำนวณเป็นค่าใช่จ่ายในการหาเสียง ยืนยันว่ากกต.ให้อิสระเสรีภาพในการหาเสียงเต็มที่ ทุกพรรคสามารถทำได้ตามปกติ เพียงแต่อย่าทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน และขอให้เก็บใบเสร็จค่าใช้จ่ายไว้เป็นหลักฐาน ตอนนี้กกต.ได้ประสานกับทุกมีเดีย ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ไปหารือกับผู้บริหารกูเกิ้ลเรื่องการคำนวณค่าใช้จ่าย และสัปดาห์หน้าก็จะไปคุยกับไลน์ประจำประเทศไทย เพื่อให้ความรู้ไม่ให้มีการเผยแพร่ข้อความที่ผิดกฎหมาย
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ผู้สมัครพรรคการเมืองตำหนิกกต.ล่าช้าเรื่องการกำหนดสถานที่ติดป้ายหาเสียงว่า กกต.กำลังเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ขณะนี้ยังไม่มีการรับสมัครจึงไม่ทราบตัวเลขที่ชัดเจนว่าแต่ละพรรคจะส่งผู้สมัครกี่เขต ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ผูกกับการคำนวณจำนวนป้าย และผู้ช่วยหาเสียง เช่นกำหนดให้มีได้ไม่เกิน 10 ของจำนวนเขตที่ส่งสมัคร เรื่องการหาเสียงสามารถดำเนินการได้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องการคำนวณค่าใช้จ่ายซึ่งเริ่มนับแล้ว
พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวถึงความคืบหน้าถึงการจัดทำบัตรเลือกตั้ง ว่า ในส่วนนี้มีการจัดงบประมาณสำหรับการพิมพ์บัตรเลือกตั้งแล้ว สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ของกกต. แต่ยังไม่มีการทำสัญญจัดจ้าง เพราะการดำเนินการจะต้องเริ่มเมื่อปิดรับสมัคร ซึ่งจะรู้จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งนอกเขต เลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร แต่ขอให้มั่นใจว่ารูปแบบของบัตรจะมีหมายเลขผู้สมัคร ชื่อและโลโก้พรรค เนื่องจากอยู่ในระเบียบที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ส่วนบัตรในแต่ละเขตจะมีกี่หมายเลขยังไม่สามารถตอบได้ เพราะจะต้องเป็นไปตามจำนวนพรรคที่ส่งสมัครในเขตนั้นๆ ซึ่งขณะนี้มีพรรคการเมืองในระบบจำนวน 105 พรรค แต่ถึงเวลาปิดรับสมัครจะมีกี่พรรคไม่สามารถตอบได้