คนละขั้วกับทหาร! อนุทิน ฉุนถูกด่าเลอะเทอะ ขู่ใครทำเลือกตั้งโมฆะ เจอลอยอังคาร

อนุทิน ลั่นอยู่คนละขั้วทหาร-พปชร. ย้ำนายกฯต้องมาจากส.ส.-ได้เสียงข้างมาก แนะ 250 ส.ว.อย่าฝืนกระแสสังคม ขู่คนทำเลือกตั้งโมฆะ เตรียมถูกลอยอังคาร เผย ทูตต่างชาติอยากเห็นไทยมีเลือกตั้ง

• อ่านข่าว – ทูตจีนพบ อนุทิน ถกสถานการณ์เลือกตั้งไทย เผยชาติมหาอำนาจแห่ฟังอินไซต์
• อ่านข่าว – อนุทิน ลั่น ถ้าไม่มีการเลือกตั้ง 24 มี.ค. ผู้มีอำนาจอาจรับผิดชอบไม่ไหว!

อนุทิน – เมื่อวันที่ 6 มี.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงเสียงตอบรับจากการลงพื้นที่หาเสียงว่า ประชาชนให้การตอบรับอย่างอบอุ่น และพรรคได้รับการตอบรับเกินความคาดหมายในเรื่องนโยบาย ซึ่งเน้นแก้ปัญหาปากท้องประชาชนเป็นหลัก ทั้งนี้ ประชาชนต่างชื่นชอบนโยบายข้าวแบ่งปันกำไร รวมถึงการนำบุรีรัมย์โมเดลไปพัฒนาจุดเด่นของแต่ละจังหวัดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว

นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนนโยบายปลูกกัญชาเสรี แม้จะมีเสียงสะท้อนเป็นจำนวนมาก แต่พรรคยืนยันในนโยบายดังกล่าว ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงกัญชาได้ เพราะเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง

หัวหน้าภท. กล่าวว่า ยืนยันไม่ใช่การมอมเมาประชาชน นั่นเป็นวาทกรรมของคนที่คิดไม่ถึงว่านโยบายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน การที่พรรคเสนอนโยบายดังกล่าว ไม่ได้เสนอให้คนมาเสพกัญชา แต่ให้สิทธิประชาชนปลูกเพื่อสร้างรายได้ อีกทั้งนโยบายของพรรค ยังป้องกันการผูกขาดสัมปทานกัญชาจากนายทุนเพื่อให้ประชาชนได้พัฒนาหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์โดยไม่ติดลิขสิทธิ์ทางปัญญา

เมื่อถามว่าจากการหารือกับทูตหลายประเทศ มองสถานการณ์การเมืองไทยอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกชาติเห็นตรงกันว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีเลือกตั้ง จึงจะยืนอยู่บนเวทีโลกได้อย่างสง่างาม ไม่ถูกกดดัน ไม่ถูกเอาเปรียบ หรือถูกตั้งเงื่อนไขใดๆ จ้องหน้าใครก็ไม่ต้องก้มหน้าหลบสายตา ดังนั้น รัฐบาลต้องมาจากเสียงของประชาชน

เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยถูกมองว่าใกล้ชิดกับทหาร รวมถึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอนุทินกล่าวว่า ถ้าใกล้ชิดจริง ทำไมจึงถูกนายกฯด่าว่าเลอะเทอะ โดยเฉพาะนโยบายกัญชา ส่วนหลังเลือกตั้ง พรรคจะร่วมรัฐบาลกับใครได้หรือไม่นั้น เราจะยึดประชาชนเป็นหลัก วันนี้พิสูจน์ได้แล้วว่าเราไม่ได้ติดหนี้บุญคุณใครและไม่มีจับมือกับใครก่อน ต่างคนต่างแข่งขันเหมือนกับการตีกอล์ฟที่ต้องทำผลงานของตนเองให้ดีที่สุด และเชื่อว่าจะมีส.ส.มากพอที่จะเข้าไปผลักดันนโยบายและแก้ปัญหาได้ในสภา

เมื่อถามว่าพรรคตั้งเป้าได้ส.ส.กี่ที่นั่ง นายอนุทิน กล่าวว่า ขอเก็บไว้กับตัวเองและผู้บริหารพรรค ทุกคนทราบหมดว่าจะได้ส.ส.เข้ามากี่คน ซึ่งจะไม่เป็นไปตามผลการสำรวจที่บอกว่าได้ 31 ที่นั่ง ทั้งนี้ ตนเชื่อว่าภท.จะทำให้เกิดสิ่งที่ดี ส่วนแนวโน้มรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง จะมีเสถียรภาพหรือไม่นั้น ตนหวังว่าต้อง มีภท.ร่วมรัฐบาล จึงจะทำให้รัฐบาลมั่นคง ถ้ามีภท. ก็จะไม่มีขั้วและจะบอกทุกฝ่ายให้ไปในทางสายกลาง เชื่อว่าทุกพรรคมีความตั้งใจและอยากเห็นประเทศชาติก้าวหน้า แต่ที่ผ่านมามันไม่มีทางลง ดังนั้น ครั้งนี้ก็สามารถผ่านมาทางภท.ได้

“แคนดิเดตนายกฯที่ภท.จะสนับสนุน ต้องเป็นส.ส.และมาจากเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร เราไม่ยอมให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้มาจากประชาชนมาเป็นผู้กำหนด เรารับไม่ได้ที่จะให้คนที่ไม่ได้มาจากประชาชนมาเลือกนายกฯ และไม่เห็นด้วยที่ให้ 250 ส.ว.มาโหวตเลือกนายกฯ รวมถึงการเป็นนายกฯเสียงข้างน้อยที่มีคะแนนปริ่มๆ ประเทศจะเสียหาย” นายอนุทิน กล่าว

หัวหน้า ภท. กล่าวว่า ดังนั้น ส.ส.ต้องตระหนัก ทำให้นายกฯสง่างามและรัฐบาลทำงานได้ตามกลไกรัฐสภาที่มีฝ่ายบริหารและฝ่ายตรวจสอบ ที่ผ่านมาเราเสียโอกาสมามากแล้ว คน 500 คนจะไปเดินตามคน 250 คนได้อย่างไร แต่คน 500 คนต้องเป็นผู้นำคน 250 คน เพราะพวกเขาเป็นตัวแทนของคนไทย ต้องมีเสียงดังและสิทธิที่มากกว่า

เมื่อถามถึงกระแสข่าวพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. จะไม่ขึ้นเวทีปราศรัยในวันที่ 10 มี.ค.ที่จ.นครราชสีมา นายอนุทิน กล่าวว่า แต่ละพรรคมีกลยุทธ์กลเม็ด แต่วิธีการสร้างความนิยมนั้น ตนขอให้ทุกพรรคต่อสู้บนความยุติธรรม อย่าชกใต้เข็มขัด และตนไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ใคร

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่ต่อกระแสข่าวหากมีบางคนไม่ชนะเลือกตั้ง แล้วอาจทำให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะได้ นายอนุทิน กล่าวว่า คนตัดสินคือประชาชน คนสั่งการให้ใครเป็นอะไรคือประชาชน ดังนั้น ใครจะมา T.K.O. (แพ้น็อก) หรือจะไปน็อกประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศ ภาษาฝรั่งเขาเรียกว่า Be my guest (เชิญตามสบาย) ส่วนตนจะเป็นคนลอยอังคารให้