เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) เป็นประธานการประชุมเพื่อชี้แจงนโยบายบริหารและการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วม อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.อ.ทวีป เนตรนิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.อักษรา เกิดผล ที่ปรึกษนายกรัฐมนตรี

พล.อ.ประวิตร กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่ง ว่า นโยบายการบริหารราชการปี 2560-2562 เป็นกรอบการทำงานเพื่อให้เป็นระบบซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ ที่คสช.และรัฐบาล รับผิดชอบร่วมกัน โดยทิศทางนโยบายการบริหารชายแดนใต้ฉบับนี้ยังน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา รวมถึงปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้ความสำคัญเรื่องเอกภาพและบูรณาการงานของทุกหน่วยงานเพื่อนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ตามแนวนโยบาย 23 ข้อ รองรับ 6 วัตถุประสงค์ ของการทำงาน

จึงขอให้ทุกฝ่ายดำเนินการร่วมกันบูรณาการแผนงานโครงการและงบประมาณ เพื่อเชื่อมโยงภารกิจนโยบายยุทธศาสตร์หลักที่เกี่ยวข้องตามข้อสั่งการของนายกฯ ให้ตรงตามเป้าหมายและทำให้พื้นที่ดังกล่าวสงบ สันติสุข ประชาชน มีความสุข ลดปัญหาความรุนแรงให้ได้โดยสิ้นเชิง ส่วนการพูดคุยสันติสุขนั้น ทางคณะพูดคุยฯยังเดินหน้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อไป ทั้งนี้ ทุกอย่างต้องบูรณาร่วมกันเพื่อให้เกิดความชัดเจนด้วยการสร้าง 3 จ.ชายแดนภาคใต้เป็นดินแดนที่เกิดความปลอดภัย สันติสุข มีความศิวิไลซ์ พร้อมกับรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไว้ให้ได้

“ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหา 3 จ.ชายแดนภาคใต้ และได้ทำนโยบายเรื่องการบริหารและพัฒนาที่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างไร ทั้งเรื่องศาสนา และความเป็นอยู่ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธและมุสลิม ตลอดจนภาษาต่างๆที่ใช้ใน 3 จ.ชายแดนภาคใต้ รัฐบาลทุกรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาภาคใต้จึงใช้กำลังทหาร ตำรวจและข้าราชการมาตลอด เราไม่ได้เข้าไปต่อสู้กับผู้เห็นต่าง แต่เข้าไปเพื่อป้องกันคนในพื้นที่ให้ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถประกอบอาชีพได้ ลดความเหลื่อมล้ำ” พล.อ.ประวิตร กล่าว

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ที่เข้ามาจัดการกว่า 2 ปี เห็นว่าจะต้องมีคณะกรรมการขับเคลื่อนและพัฒนาแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ชัดเจน จึงตั้งคปต.ขึ้นมาเพื่อดูแลเรื่องงบประมาณที่เกี่ยวข้องของแต่ละกระทรวงที่จะไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ว่าต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้รองรับความต้องการของคนในพื้นที่ โดยให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือกอ.รมน.ภาค 4 แม่ทัพภาคที่ 4 ไปสำรวจทุกพื้นที่ว่าประชาชนต้องการอะไร และจะบูรณาการงานระหว่างหน่วยงานได้อย่างไร และช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทุ่มเทการทำงานทุกอย่างให้ประชาชนอยู่ดีกินดี มีการศึกษาที่ดี มีสวัสดิการที่ดีขึ้น และลดปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรง เห็นได้ชัดเจนว่ามีการลดความรุนแรงตามลำดับ จนองค์การความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) ชื่นชมการทำงานของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่แสดงให้เห็นถึงการบูรณาการการทำงานอย่างชัดเจน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน