‘ชวน’มั่นใจปชป.ได้คะแนนในอีสานเพิ่ม-หนุนเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลชู‘มาร์ค’นายกฯ

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 12 มี.ค. ที่ตลาดสดเทศบาล 1 ใจกลางเมืองอุดรธานี นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เดินทางมาช่วยลูกพรรคหาเสียง โดยช่วงแรกขึ้นรถกระบะเวียนรอบตลาดจากถนนศรีสุข แต่เนื่องจากรถติดกันมาก นายชวน เกรงว่าจะสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาด จึงลงจากรถเดินเข้าในตลาดพบปะประชาชน ซึ่งประชาชนต่างเข้ามาสวมกอดด้วยความดีใจและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันจำนวนมาก


นายชวน กล่าวกับชาวบ้านว่า ถ้านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นนายกฯหลังเลือกตั้ง พรรคประชาธิปัตย์จะผลักดันเงินเบี้ยผู้สูงอายุจาก 600 เป็น 1,000 บาททันที โดยเฉพาะประชากรของอุดรธานีมีทั้งหมด 1 ล้าน 5 แสนคน ซึ่งในนี้เป็นผู้สูงอายุถึง 211,976 คน ถ้าเพิ่มเบี้ยสูงอายุให้ทั้ง 2 แสนคนเศษนี้ คนละ 1,000 บาท เงินที่เพิ่มขึ้นมาลองคูณดู แล้วจะรู้ว่าเงินที่จะมาหมุนเวียนในจังหวัดนี้มีกี่ร้อยกี่พันกี่หมื่นล้าน พ่อค้าแม่ค้าที่บ่นเรื่องขายไม่ออก อาจจะสถานการณ์ค่อยดีขึ้น


นอกจากนั้น เด็กที่นี่จะได้กู้ยืมเงินเรียน ตนเป็นเด็กวัด ในสมัยก่อนไม่มีเงินกู้ยืมเรียนเลยต้องอยู่วัด แม่ก็ขายของอยู่ตลาดนัด ตนเป็นลูกแม่ค้าตลาดนัด พ่อเป็นครู ก็ให้ความสำคัญให้ลูกได้เรียนหนังสือ ตนเป็นนายกฯได้ไม่ใช่เก่งกว่าพี่น้องแต่เพราะเรียนหนังสือ เมื่อตนได้เป็นนายกฯ มาคิดว่าทำอย่างไรให้ลูกชาวบ้านได้เรียนหนังสือ จะให้ไปอยู่วัดอย่างเราก็ไม่มีวัดให้อยู่ เลยตั้งกองทุนกู้ยืมขึ้นมา บัดนี้เด็กทั่วประเทศได้กู้ยืมเงินเรียนแล้วทั้งหมด 5 ล้านกว่าคน ซึ่งในนี้เป็นเด็กในอุดรธานี 1 แสน 3 หมื่นกว่าคน ซึ่งถ้าไม่มีพรรคประชาธิปัตย์ เด็กอุดรธานี 1 แสน 3 หมื่นกว่าคนนี้อาจจะไม่ได้เรียนหนังสือเพราะพ่อแม่ยากจน


นายชวน กล่าวว่า หลายเรื่องที่พี่น้องอาจจะไม่รู้ว่าพรรคพรรคประชาธิปัตย์ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง เหมือนกับในขณะนี้เด็กอุดรธานี ขอนแก่นมีนักกีฬาเก่งๆหลายคน เด็กเหล่านี้ร่างกายดีขึ้นมาเพราะได้กินนม ที่ตนได้คิดเรื่องนี้ หลังจากที่เด็กได้ดื่มนมประชาธิปัตย์ แล้วเชื่อไหมว่าอีก 10 กว่าปี เด็กของเราโตขึ้นสูงใหญ่สามารถเป็นนักกีฬาทั้งแบดมินตัน วอลเลย์บอล ในระดับโลก สามารถแข่งขันกับคนระดับโลกได้ นี่ก็มาจากการดื่มนมทำให้สรีระดีขึ้นสูงขึ้น สิ่งนี้คือความภูมิใจที่พวกเราทำไว้ให้พี่น้อง ดังนั้นสิ่งที่เป็นนโยบายที่จะทำต่อไป หวังว่าคงจะมีประโยชน์กับพี่น้อง หวังว่าในวันเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.นี้เราจะมีตัวแทนที่ไปพูดแทนชาวบ้าน ไม่เหมือนผู้แทนในสภาปัจจุบันนี้ไม่เคยเอาเรื่องของพี่น้องไปพูดในสภาเลย ซึ่งเขาเป็นคนดี แต่เขาไม่รู้เรื่องทุกข์สุขของเราเลย


นายชวน กล่าวว่า สำหรับบรรยากาศการเดินทางมาอุดรธานีครั้งนี้ดีมาก จริงๆแล้วเดินทางมาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4 วัน มาถึงอุดรธานีในช่วงดึกคืนวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา วันนี้จะอยู่ที่อุดรธานีทั้งวัน แล้วค่ำจะไปจ.สกลนคร สำหรับในภาคอีสานนั้นคิดว่าคะแนนรวมจะดีขึ้น แต่จำนวนส.ส.อาจจะยังไม่แน่นอน ที่มีการหยั่งเสียงได้ไม่มากนัก แต่คะแนนโดยรวมมีแนวโน้มว่าจะได้มากขึ้น เมื่อนำไปรวมทั่วประเทศแล้วอาจจะได้ผู้แทนมากพอที่จะตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งถ้าตั้งรัฐบาลได้ นโยบายที่กำหนดไว้จะได้นำมาใช้
ผู้สื่อข่าวถามว่าเกือบ 30 ปีแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถทวงคืนเก้าอี้ในอุดรธานีได้ ในครั้งนี้มีความมั่นใจขนาดไหน นายชวน กล่าวว่า มันไม่ง่าย เพราะคนที่เราเคยมีส่วนใหญ่เมื่อถึงเวลาเข้มแข็ง ก็ย้ายพรรคไป พูดง่ายๆคือถูกแรงดูดไป ทำให้การสร้างคนยาก พอคนที่เราสร้างแข็งปุ๊บก็มีคนเอาตัวไป มีค่าตัวไป


“พรรคประชาธิปัตย์คือพรรคที่ให้อุดมการณ์ ลูกแม่ค้าอย่างผมถ้าอยู่พรรคอื่นก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค เพราะต้องมีเงิน ต้องมีฐานะ แต่ที่นี่เขาให้พิสูจน์ ถ้าคุณพิสูจน์ได้ว่าคุณเก่งจริง คุณดีจริง เขาก็ให้เป็นหัวหน้า ผมได้พิสูจน์ 22 ปี เขาก็เลือกให้ผมเป็นหัวหน้ามาทำงานให้พี่น้อง ขอให้พี่น้องเลือกพรรคดี เลือกคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง อย่าให้คนไม่ดีมีอำนาจ อย่าให้บ้านเมืองอยู่ในมือคนโกง อย่าให้พวกโกงบ้านโกงเมืองลอยนวล”นายชวน กล่าว

นายชวน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)ไปปราศรัยที่ภาคใต้ว่านายอภิสิทธิ์ ได้เป็นนายกฯ เพราะนายสุเทพว่า ในสมัยนั้นนายสุเทพเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ มีหน้าที่ทำงานให้พรรค และทำงานให้กับหัวหน้าพรรค ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะร่วมทำงานกับพรรครวมพลังประชาชาติไทยหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า ตอนนี้ต้องรอผลของการเลือกตั้งว่าจำนวนส.ส.มีมากพอที่จะสามารถเป็นแกนตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ เพราะหลายพรรคก็มีความเข้มแข็ง ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าพรรคใดจะได้ที่ 1 ,2, 3


ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ ไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อนั้น นายชวน กล่าวว่า ความหมายสำหรับเรื่องนี้เราได้พูดกันมานานแล้วว่าแทนที่จะมีคำถามว่าจะไปร่วมกับใคร ควรจะมีคำถามว่าพรรคประชาธิปัตย์สามารถเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ซึ่งได้พูดกันว่าถ้าได้ส.ส.มากพอ ก็สามารถเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ ตอนนั้นจะมีคำถามพอที่จะถามว่าใครที่พรรคประชาธิปัตย์จะเอามาร่วมบ้าง สิ่งที่นายอภิสิทธิ์ พูดไป ความหมายคือไม่คิดว่าจะเป็นพรรคที่เป็นทางเลือกหลังสุด น่าจะเป็นทางเลือกแรกๆที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งที่เลือกและสามารถเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ ถ้าเป็นแกนนำตั้งรัฐบาลได้ ในระบบของพรรคนี้ต้องเลือกหัวหน้าพรรคเป็นนายกฯแน่นอน

 

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน