ชี้แจงข้อกฎหมายโหวตโนผิดตรงไหน! ‘วรวัจน์’โพสต์ถามกกต.

 

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตผู้สมัครส.ส.แพร่ พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟซบุ๊กว่า จากกรณีที่พี่น้องชาวจ.แพร่ตื่นตัวเรื่องการจะใช้สิทธิ์ไม่เลือกผู้สมัครใดและได้มาพบผมที่บ้านเมื่อวันที่ 11 มี.ค.นั้น ในวันที่ 13 มี.ค. ได้ทราบข่าวว่าประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้สัมภาษณ์ว่าการที่ตนชี้แจงเรื่องสิทธิการลงคะแนนไม่เลือกผู้สมัครใดของประชาชนที่มาพบที่บ้านนั้น อาจจะผิดกฏหมายนั้น ตนค้นข้อกฎหมายทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องนี้และพบว่ามีมาตรา 73 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ไว้ว่ามาตรา 73 ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่นให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้


(1)จัดทำ ให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ ทรัพย์สิน หรือผลประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใด
(2)ให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดไม่ว่าจะโดยตรงหรือโดยอ้อมแก่ชุมชน สมาคม มูลนิธิ วัด สถานศึกษา สถานสงเคราะห์ หรือสถาบันอื่นใด
(3)ทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่างๆ
(4)เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด
(5)หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง


เพราะฉะนั้น ถ้าประชาชนไม่ทำผิดใน 5 ข้อนี้ ก็ย่อมจะสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายใช่มั้ยครับ แต่ถ้าเมื่อพี่น้องประชาชนมาพบผมแล้วแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ประสงค์จะเลือกผู้ใด แล้วถ้าผมบอกกับพี่น้องประชาชนว่าทำไม่ได้ ห้ามทำ จะผิดกฏหมายหรืออะไรก็แล้วแต่ นั่นแปลว่าผมจะกระทำผิดในมาตรา 73(5)ข้อหลอกลวง ใช่มั้ยครับ เมื่อพิจารณาข้อกฎหมายแล้วสามารถทำได้ ผมควรต้องทำอย่างไร ถึงจะถูกต้อง ตามที่ท่านกำหนด ผมถูกยุบพรรคไปแล้วหมดสิทธิเป็นผู้สมัครส.ส.ไปแล้ว ถ้าจะบอกว่าผมอาจจะมีความผิดเพราะชี้แจงข้อกฎหมายอีก ผมคิดว่าพี่น้องชาวแพร่พิจารณาเองได้ และคิดว่าการเมืองภาคประชาชนของคนแพร่ จะตัดสินใจอย่างไรในเรื่องนี้ วันที่ 24 มี.ค.คงทราบผล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน