เครือข่ายทรัพยากรอีสาน ชี้ 5 ปีคสช. รับใช้นายทุน คนจนทุกข์หนัก ถูกข่มขู่-ปิดปาก จี้แก้รธน.

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 30 มี.ค. ที่ลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่นครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสาน ร่วมอ่านแถลงการณ์ “แก้รัฐธรรมนูญ คืนอำนาจให้ประชาชนอีสานกำหนดอนาคตของตนเอง” ความว่า

นับแต่รัฐบาล คสช. เข้ามายึดอำนาจ เป็นเวลากว่า 5 ปี และมีแนวโน้มจะสืบทอดอำนาจต่อ พี่น้องอีสานบ้านเราต่างถูกปิดปาก ถูกข่มขู่คุกคาม ข่มเหง ไม่ให้ส่งเสียง ในขณะที่รัฐบาล คสช. สถาปนาให้นายทุนใช้การเมืองและนโยบายประชารัฐเป็นเครื่องมือ

พวกเขาคือผู้อยู่เบื้องหลังในการแก้รัฐธรรมนูญ และกฎหมายนับร้อยๆ ฉบับ ผลิตแผนการและนโยบายจากศูนย์กลางอำนาจเพื่อเปิดทางเข้าช่วงชิงทรัพยากรของอีสานมาสนองความโลภของนายทุน

พวกเขาหมายมั่นปั้นมือจะสร้างฐานอำนาจและแสวงหาผลประโยชน์ระยะยาวจากฐานทรัพยากรทุกอย่างที่อีสานเรามี เพื่อสร้างศูนย์กลางอุตสาหกรรมชีวภาพ โดยเปิดทางให้นายทุนตั้งโรงงานน้ำตาล 29 โรงงานพ่วงโรงไฟฟ้าชีวมวล และพ่วงด้วยอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ อีกหลายประเภทในอีสานทั้ง 13 จังหวัด

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

แต่อุตสาหกรรมชีวภาพเป็นเพียงการหยั่งรากขั้นต้นของนายทุนรายใหญ่ไม่กี่รายที่จับมือกัน พวกเขาคิดการไกลกว่านั้นโดยตั้งเป้าหมายใหญ่ในการยึดป่าไม้ ที่ดิน ขุดใช้แร่ธาตุ ปล้นชิงผืนดิน ปิดกั้นผันแม่น้ำ

ทั้งหมดนี้อ้างว่าเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ แต่ผลประโยชน์ตกอยู่กับขั้วอำนาจของนายทุนภายใต้รัฐบาลทหาร โดยทิ้งให้พี่น้องอีสานทุกข์ทนอยู่กับความเดือดร้อน อยู่กับมลพิษและความเสื่อมทรามของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่นายทุนทิ้งไว้ไปชั่วลูกชั่วหลาน

จากนี้ไปพืชเชิงเดี่ยวอ้อยกำลังจะแทนที่นาข้าวและป่าหัวไร่ปลายนาอีกไม่น้อยกว่า 10 ล้านไร่ เขตเศรษฐกิจพิเศษ เขตอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เหมืองแร่ การบุกยึดที่ดินป่าไม้ สปก. การจัดหาน้ำจากโครงการโขง-เลย-ชี-มูล และเขื่อนเพื่ออุตสาหกรรม การจัดหาพลังงาน-ไฟฟ้าเพื่อให้นายทุนใช้และขาย

ทั้งหมดนี้ถูกบรรจุอยู่ใน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในรูปแบบ “ประชารัฐ” ซึ่งหน่วยงานราชการทุกหน่วยต้องปฏิบัติตาม นโยบายของพรรคการเมือง รวมถึงการจัดทำงบประมาณที่มาจากเงินภาษีของเราก็ต้องอยู่ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเพื่อรับใช้นายทุนด้วย

ในช่วงเวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันที่รัฐบาล คสช. และประชารัฐทำทุกวิถีทางที่จะสืบทอดอำนาจและคุกคามอีสานบ้านเราไปมากกว่านี้

พวกเราเครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมภาคอีสานในฐานะตัวแทนพี่น้องชาวอีสานขอประกาศว่า พวกเราจะหวงแหนปกป้องมรดกฐานทรัพยากร ถิ่นฐาน วิถีชีวิตของพวกเราให้ถึงลูกหลาน พี่น้องเราจะต่อต้านการสืบอำนาจของ คสช. ให้ถึงที่สุด

พี่น้องเราจะต่อต้านระบอบประชารัฐนายทุนให้หมดอำนาจ พี่น้องเรายืนยันว่าจะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 ที่ตัดบทบัญญัติ มาตรา 67 วรรคแรก ของรัฐธรรมนูญฯ 2550 ที่รับรองสิทธิของบุคคลที่จะมีส่วนร่วมกับรัฐและชุมชนในการอนุรักษ์ บำรุงรักษา และการได้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพ

และในการคุ้มครองส่งเสริม และรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ดำรงชีพอยู่ได้อย่างปกติและต่อเนื่องในสิ่งแวดล้อมที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัย สวัสดิภาพ หรือคุณภาพชีวิตของตน ย่อมได้รับความคุ้มครองตามความเหมาะสม

รัฐธรรมนูญฯ 2560 ยังเปลี่ยนแปลงและลดทอนสิทธิของพี่น้องเราในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและการมีส่วนร่วมในกระบวนการตัดสินใจด้านสิ่งแวดล้อม ในมาตรา 57 และ 67 ของรัฐธรรมนูญฯ 2550 ทำให้กระบวนการมีส่วนร่วมของพี่น้องในการเข้าถึงข้อมูลและการแสดงความคิดเห็นประกอบการตัดสินใจจำกัดอยู่แค่โครงการหรือการดำเนินการที่อาจมีผลกระทบอย่างรุนแรงฯ เท่านั้น

ในขณะที่รัฐธรรมนูญฯ 2550 รับรองสิทธิเอาไว้สำหรับโครงการหรือกิจกรรมที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมฯ ในทุกระดับ รวมทั้ง รัฐธรรมนูญฯ 2560 มาตรา 58 ยังตัดกลไกการให้ความเห็นประกอบก่อนการอนุมัติอนุญาตโครงการหรือการดำเนินการที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงฯ

โดยองค์การอิสระซึ่งประกอบด้วยผู้แทนองค์การเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ และผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมหรือทรัพยากรธรรมชาติหรือด้านสุขภาพซึ่งเคยมีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฯ 2550 มาตรา 67 วรรคสองทิ้งไปด้วย

ด้วยเหตุดังนี้ รัฐธรรมนูญจะต้องถูกแก้เพื่อให้อีสานได้สิทธิอันชอบธรรมที่เคยมี และพี่น้องอีสานต้องกำหนดอนาคตลูกหลานของเราเองได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน