พิชัย ห่วงเศรษฐกิจไทยทรุดยาว แซะรัฐบาลบิ๊กตู่เป็นแต่แจกเงิน หนุนกลุ่มทุนผูกขาด

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. นาย พิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า ตามที่ได้เตือนแล้วว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะย่ำแย่ และจะโตไม่ถึง 4 % ซึ่งยังไม่ทันไรก็เริ่มเป็นจริงแล้ว ขนาดธนาคารโลกและกระทรวงการคลังได้ลดการประเมินการเติบโตทางศรษฐกิจไทยปีนี้เหลือเพียง 3.8 % ถึงขนาดนั้นธนาคารแห่งประเทศไทยยังห่วงว่าจะโตต่ำกว่านั้น ซึ่งก็น่าห่วงจริง

จากแนวโน้มการส่งออกที่ติดลบหนักมาตลอด 3 เดือนแรกของปีนี้ ติดลบต่อจาก 2 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว และทั้งปีนี้การส่งอออกน่าจะขยายตัวต่ำมากหรืออาจถึงกับติดลบได้ การลงทุนหดหาย การท่องเที่ยวก็ขยายตัวต่ำ ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้ลดลง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำโดยเฉพราะราคาปาล์มน้ำมัน ซึ่งจะทำให้ตัวเลขจีดีพีของไทยในไตรมาสแรกออกมาย่ำแย่เพียง 3 % กว่าๆ เท่านั้น และจะทำให้ประเทศไทยมีการเติบโตต่ำที่สุดในอาเซียนอีกปีหนึ่ง

ตลอด 5 ปีที่รัฐบาลนี้บริหารก็โตต่ำสุดมาตลอด จนรองประธานหอการค้าไทยยังห่วงว่าหากขยายตัวต่ำหลายปีติดต่อกันเช่นนี้ และยังคงมีแนวโน้มที่จะโตต่ำสุดแบบนี้ต่อไป อีกหน่อยลูกหลานไทยคงต้องไปขายแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตนได้แสดงความเป็นห่วงมานานแล้วว่าลูกหลานไทยจะต้องกลายไปเป็นคนใช้ของประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต ถ้าหากยังบริหารประเทศกันแบบนี้

นายพิชัย กล่าวอีกว่า หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังกลับมาสืบทอดอำนาจเป็นนายกฯ ต่อ แนวโน้มเศรษฐกิจไทยก็จะยังคงตกต่ำต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง เพราะยังมีกรอบคิดล้าสมัยเหมือนเดิมที่ไม่พัฒนา อีกทั้งจะแจกเงินอย่างเดียว ซึ่งหลังจากถูกท้วงเรื่องการจะแจกเงินให้ไปเที่ยวคนละ 1,500 บาท จึงเปลี่ยนมาแจกเงินเพิ่มในบัตรคนจนแทน ซึ่งไม่ได้สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศแต่อย่างไร อีกทั้งไม่เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

นอกจากนี้เรื่องนี้ยังเป็นปัญหาทางการเมืองของพรรคการเมืองที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ เพราะมีการสัญญาว่าจะแจกเงินเพิ่มผ่านบัตรคนจน เหมือนเป็นการสัญญาว่าจะให้อย่างชัดเจน เป็นเรื่องที่กกต.ต้องเร่งพิจารณาตัดสิน นอกจากนี้รัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จะยังคงติดกรอบคิดแบบเผด็จการที่นานาประเทศที่พัฒนาแล้วรังเกียจ ซึ่งจะทำให้การค้าการลงทุนกับประชาคมโลกไม่พัฒนา

ทั้งนี้ การที่ประเทศจะเปลี่ยนทิศทางเศรษฐกิจได้จะต้องมีแนวคิดพัฒนาใหม่ๆ ที่จะต้องเชื่อมต่อการพัฒนาของโลกสมัยใหม่ที่ก้าวหน้าไปมาก ซึ่งรัฐบาลนี้พิสูจน์แล้วว่าทำไม่ได้ เพราะถ้าทำได้ประเทศคงพัฒนาและเจริญมากกว่านี้แล้ว หลังจากบริหารมา 5 ปี คิดได้เพียงการแจกเงิน และการสนับสนุนกลุ่มนายทุนผูกขาดเท่านั้น ดังนั้นหากยังมีการสืบทอดอำนาจต่อไปโดยพลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ อีก อนาคตของประเทศไทยจะมืดมน และลูกหลานไทยคงจะได้ไปขายแรงงานในประเทศเพื่อนบ้านแน่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน