ไม่ปฏิเสธ! ‘หมอธี’ รับ ‘บิ๊กตู่’ ชวนเป็นส.ว. พร้อม ‘2 รมต.ศธ.’-แจงโยก 2 บิ๊กศธ.แม้อีก 5 เดือนเกษียณ

ส.ว. – วันที่ 7 พ.ค. นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยพล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงษ์ และนพ.อุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการศธ. ได้ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับหน้าที่ส.ว. ถือว่าภารกิจในการเป็นรัฐมนตรีศธ. เสร็จสิ้น โดยมีผลอย่างเป็นทางการวันที่ 9 พ.ค.นี้

อย่างไรก็ตามเร็วๆ นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. จะมีการแต่งตั้งรองนายกรัฐมนตรี มารักษาราชการแทนตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนจะเป็นใครนั้นตนไม่สามารถบอกได้ขึ้นอยู่กับนายกฯ ทั้งนี้การตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งนั้น เป็นการชักชวนจากหัวหน้าคสช. อีกทั้งยังมองว่า การไปรับตำแหน่งส.ว.จะสามารถดูแลการศึกษาได้ต่อ เพราะหน้าที่หนึ่งของส.ว.ชุดนี้คือ ดูแลงานด้านการปฏิรูปยุทธศาสตร์

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับ 11 สองราย ดังนี้ นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็น เลขาธิการการอาชีวศึกษา (กอศ.) นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการกอศ. เป็น เลขาธิการกพฐ. เพื่อสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป

“การสลับตำแหน่งครั้งนี้ไม่ได้แจ้งใครล่วงหน้า สำหรับเหตุผลของการสลับตำแหน่งครั้งนี้เป็นการหารือร่วมกันระหว่างรัฐมนตรีทั้ง 3 คน ประกอบกับขณะนี้ศธ. มีขนาดเล็กลง เหลือองค์กรหลักจริงๆ คือ สอศ. และสพฐ. ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องสลับได้ไปมา และในช่วงของการเริ่มต้นปีการศึกษา 2562 การสลับตำแหน่งถือเป็นเรื่องดี ในแง่ของการบริหาร เป็นการเริ่มต้นใหม่ จะได้ไม่มีข้อครหาใครพวกใคร ใครวางยาอะไร เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างแท้จริง ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับปัญหาการทุจริต เพราะถ้ามีก็ต้องย้ายไปอยู่สำนักนายกรัฐมนตรี

โดยวันที่ 8 พ.ค.นี้ จะเชิญนายสุเทพ และนายบุญรักษ์ มาพูดคุยเรื่องการทำงานต่อไป นพ.ธีระเกียรติ กล่าว และว่า ส่วนการสรรหาเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เลขาธิการคุรุสภา และผู้อำนวยการองค์การค้า ของสกสค.นั้น ไม่มีปัญหา เพราะรัฐมนตรีว่าการศธ. มีอำนาจในการยกร่างหลักเกณฑ์การสรรหา และแม้จะไม่อยู่ในตำแหน่ง แต่ก็เป็นหน้าที่ของปลัดศธ. และคณะกรรมการสรรหาฯ ดำเนินการและเลือกผู้เหมาะสมดำรงตำแหน่งต่อไป

นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน แต่เมื่อผู้บังคับบัญชามีคำสั่งก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนตัวพร้อมทำงาน เพราะงานการศึกษาขั้นพื้นฐานถือเป็นงานเดิมที่ทำมาโดยตลอด และได้มีการพูดคุยกับนายบุญรักษ์ แล้ว ตนและนายบุญรักษ์ ไม่มีปัญหา พร้อมจะร่วมกันทำงาน เพื่อประเทศต่อไป

พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การสลับตำแหน่งนายสุเทพ และนายบุญรักษ์ เพราะมองว่า ทุกองค์กรหลักของ ศธ.ล้วนมีความสำคัญ ผู้บริหารระดับสูงทุกคนสามารถทำงานหมุนเวียนกันได้ เพราะที่ผ่านมาการทำงานก็มีการบูรณาการและเชื่อมโยงกันต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองว่าเหลือระยะเวลาอีกไม่ประมาณ 4-5 เดือน นายบุญรักษ์ และนาย สุเทพ จะเกษียณอายุราชการแล้ว เหตุใดถึงย้าย พล.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จะเหลือกี่เดือนก็ตามการทำงานทุกวันมีคุณค่าทั้งหมด และถ้ามองว่า 4-5 เดือน แต่ถ้าคิดเป็นภาพรวมของปีการศึกษาระยะเวลาดังกล่าวก็เท่ากับ 1 ภาคเรียน ซึ่งการทำงานของรัฐบาล กระทรวงศึกษาธิการที่ผ่านมา เรื่องการพัฒนาคุณภาพากรศึกษาได้วางรากฐานให้มั่นคง ช่วงนี้ก็ต้องเดินหน้าต่อเชื่อว่าทั้ง 2 คนสามารถทำได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม การพิจารณาโยกย้ายสลับตำแหน่งครั้งนี้รัฐมนตรีทุกคนก็ได้มีการหารือร่วมกัน


ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน