4ผู้สมัครชิงหัวหน้าปชป.โชว์วิสัยทัศน์-ชูทีมเวิร์คเพื่ออนาคต

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ผู้เสนอตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ประกอบด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายกรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรมว.ยุติธรรม เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ต่อสมาชิกพรรคพื้นที่ภาคกลาง และอดีต ส.ส.กทม.บางส่วน โดยนายจุรินทร์ ได้เข้าหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคก่อนเข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ด้วย
นายกรณ์ กล่าวว่า ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ จะเป็นวันประชุมใหญ่วิสามัญถือเป็นวันสำคัญของพรรคว่าจะเลือกใครมาเป็นหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ซึ่งหลังจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ชัดเจนว่าเรามีการปรับเปลี่ยนทั้งในแง่การบริหารจัดการ และการกำหนดท่าที โดยจากนี้จะต้องมีการเตรียมการ เพื่อรองรับการแข่งขันในอนาคต ซึ่งเราต้องเริ่มทันที นอกเหนือจากประเด็นที่สังคมรอคอย คือการตัดสินใจต่อท่าทีการที่จะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ต้องมาช่วยกันคิดเพื่อเดินหน้าต่อไปในอนาคต

ด้านนายอภิรักษ์ กล่าวว่า สำหรับทีมงานที่จะมาร่วมในการทำงานให้พรรค หากตนได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้าพรรคนั้น ได้ทาบทามคนที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ และคนรุ่นใหม่มืออาชีพมาร่วมทำงาน รับรองว่า แรงขับเคลื่อนจากภายในพรรคและเครือข่ายจะช่วยให้ตนดำเนินงานได้รวดเร็วตามความเห็นเร่งด่วนในการบริหารพรรคที่สมาชิกได้ส่งจดหมายกลับมาให้ตนปฏิบัติได้ทันที โดยจะผลักดันการทำงานเกี่ยวกับเยาวชนคนรุ่นใหม่ ร่วมกับกลุ่มยุวประชาธิปัตย์, Democrat Internship Program(DIP), NewDem และเครือข่ายนักเรียน นักศึกษาทั่วประเทศด้วย รวมถึงการทำงานเรื่องนโยบายสาธารณะกับสถาบันออกแบบอนาคตประเทศไทย (FIT:Future Innovative Thailand Institute)

สำหรับรายชื่อประกอบด้วย นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ (เศรษฐกิจ) นายเสนีย์ สุวรรณดี (บริหาร) นายสุทธิกร กิ่งแก้ว (วิชาการ) น.ส.รัชดา ธนาดิเรก (พัฒนาสตรี)นายวิทเยนทร์ มุตตามระ (อาสาคนไทย) นางลักขณา คุณาวิชยานนท์ (ศิลปวัฒนธรรม) นางการดี เลียวไพโรจน์ (เศรษฐกิจดิจิทัล) ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ (ภาคประชาสังคม) นางฮูวัยดียะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง (พัฒนาสตรี) นายอุกฤษ อุณหเลขกะ (สตาร์ทอัพเพื่อเกษตรกร) และนายภาณุมาศ สุขอัมพร (เครือข่ายผู้พิการสื่อสารสังคม)

ทั้งนี้ 307 คะแนนเสียงที่ตัวแทนพรรคที่มีสิทธิเลือกหัวหน้าพรรค มีความสำคัญในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนตัวตั้งเป้าว่าหากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว จะทำงานร่วมกับกก.บห.ชุดใหม่ และพรรคประชาธิปัตย์ทุกคน ส่วนประเด็นการร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาลนั้น จุดยืนของการตัดสินใจของพรรคจะเกิดขึ้นจากมติของที่ประชุมร่วมของกก.บห.ชุดใหม่และส.ส.พรรค หลังการเลือกหัวหน้าพรรคในวันที่ 15 พ.ค.

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การบริหารจัดการพรรคประชาธิปัตย์ต้องทำเป็นระบบและทีมเวิร์ค โดยจุดแข็งของพรรคคืออุดมการณ์ความซื่อสัตย์สุจริตต้องคงไว้ เพราะดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะต้องเปลี่ยนแปลงคือ การบริหารบุคลากรเป็นทีม ไม่มุ่งไปที่คนใดคนหนึ่งแล้วโยนภาระให้เฉพาะผู้นำคือหัวหน้ากับเลขาธิการพรรคต้องรับผิดชอบเท่านั้น พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีหลายหลายคนในแต่ละสาขาวิชาชีพมาช่วยกันทำงาน และในส่วนของทีมเศรษฐกิจนั้นในฐานะที่เคยเป็นทีมเศรษฐกิจในสมัยรัฐบาลชวน1 จะเชื่อมประสานงานศักยภาพของคนทุกเจนเนอเรชั่นทางด้านเศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง เพื่อการบริหารประเทศให้เป็นทีมที่มีคุณภาพไว้วางใจได้และสามารถช่วยประชาชนได้อย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน