“วิษณุ” ขอเวลาตรวจสอบ ปม “ชยุต” เข้าข่ายลักษณะต้องห้าม เป็น ส.ว. ระบุ หากพบว่าขัด ต้องเลื่อนสำรองขึ้นมา โต้ 1.3 พันล้าน ใช้คัด ส.ว.ส่วนกกต. ไม่ใช่ของ คสช. เผย

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2551 ชี้มูลความผิดนายชยุต สืบตระกูล สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดินตาบอด จอดรถขยะกรุงเทพมหานคร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขานุการผู้ว่าฯกทม. และปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างฎีกา จะส่งผลให้มีคุณสมบัติต้องห้ามตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว.หรือไม่ ว่า

ตนทราบเรื่องแล้ว แต่ยังไม่สามารถตอบได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบอยู่ หากพบว่าขัดก็พ้นไป ลำดับสำรองก็เลื่อนขึ้นมา เราให้เจ้าตัวเป็นคนเซ็นรับรองคุณสมบัติทั้งหมดเอง เพราะเราไม่สามารถไปตรวจสอบได้ และจนถึงตอนนี้ นายชยุตก็ไม่ได้ติดต่อมาเพื่อขอชี้แจงอะไร เมื่อถามว่าต้องรอให้คดีถึงที่สุดก่อนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ขอตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อถามว่า นายชยุตจะมีความผิดจากการเซ็นรับรองคุณสมบัติของตัวเองหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในขณะนี้ต้องบอกว่าแค่ลาออกแล้วก็เลื่อนคนใหม่ขึ้นมา อย่างไรก็ตามอาจมีคนอื่นๆที่มีลักษณะทำนองนี้อีก ซึ่งจะปรากฏขึ้นมาในช่วงเวลาแบบนี้

เมื่อถามว่ามีข้อกฎหมายกำหนดหรือไม่ว่า นายชยุตต้องชี้แจงภายในกี่วัน นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มี เมื่อประกาศรายชื่อไปแล้ว ใครร้องขึ้นมาก็เป็นเรื่องของการพ้นไปหรือลาออก แล้วก็เลื่อนคนมาแทน ซึ่งจะทำเมื่อไหร่ก็ได้

นายวิษณุ กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ไปพูดกันว่ามีการใช้งบประมาณคัดเลือกส.ว.ถึง 1,300 ล้านบาทนั้น นั่นเป็นการใช้ในส่วนของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องหาคนเป็นพันเป็นหมื่นตั้งแต่ระดับตำบล อำเภอ จังหวัด อีกทั้งต้องเช่าสถานที่ แต่ส่วนส.ว. 194 คนนั้นเข้าใจว่าใช้งบประมาณเพียงไม่กี่พันบาทเท่านั้น เพราะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ที่เป็นกรรมการสรรหาไม่ได้มีเบี้ยประชุม และถ้าจะมีค่าใช้จ่าย ก็เป็นแค่เรื่องเอกสาร

เมื่อถามถึงกรณีพรรคเพื่อไทยเรียกร้องให้เปิดเผยรายชื่อคณะกรรมการสรรหาส.ว. นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาอะไร สามารถเปิดเผยได้และคสช.คงจะเปิดเผยในไม่ช้านี้ แต่ยังไม่ทราบว่าจะเป็นเมื่อไร โดยคสช.ตั้งใจมาตั้งแต่แรกว่าเมื่อประกาศรายชื่อส.ว.เสร็จแล้วก็ต้องเปิดเผย ซึ่งตนเข้าใจว่าเคยมีการร้องเรื่องนี้ไปที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน

เมื่อผู้ตรวจการแผ่นดินถามมา คสช.ก็เคยส่งคำสั่งสำเนาแต่งตั้งไปให้แล้ว เมื่อถามว่าจะชี้แจงสังคมอย่างไรต่อข้อวิจารณ์ที่ว่าคณะกรรมการสรรหาส.ว.บางคนมาเป็นส.ว.เสียเอง นายวิษณุกล่าวชี้แจงว่าในระหว่างเวลาพิจารณาจะไม่มีการพิจารณาตัวเอง ถ้าไม่เดินออกจากที่ประชุมก็ไม่ออกความเห็น ซึ่งได้ทำแบบนี้ และได้เตือนในเรื่องนี้ไปแล้ว จึงไม่คิดว่าเป็นปัญหาอะไร

“คสช.มีองค์ประชุมอยู่ 8 คน แต่ในตอนประชุมพิจารณาได้พิจารณาครบทั้ง 15 คน เมื่อพิจารณาไปถึงรายชื่อของผู้ใดซึ่งไล่ไปตามลำดับ ถ้าผู้นั้นไม่ออกไปจากที่ประชุม ท่านก็ไม่ออกความเห็นใดๆ ถึงเวลาก็อภิปรายคุณสมบัติกันไป หลายชื่อก็ถูกข้ามไป หลายชื่อก็มีการทักท้วง

บางชื่อทักท้วงแล้วสำเร็จ แต่บางชื่อไม่สำเร็จ แม้กระทั่งย้อนไปตอนสรรหาก็ทำในลักษณะเดียวกัน โดยมีการประชุม 3 ครั้ง ครั้งละหลายชั่วโมง ผมยืนยันได้เพราะอยู่ในที่ประชุมด้วย ส่วนในชั้นคสช.นั้น ผมอาจจะอยู่ไม่ครบ แต่ก็ทราบว่าเจ้าตัวไม่มีส่วนในการออกความเห็นในส่วนของตัวเอง” นายวิษณุ กล่าว

เมื่อถามต่อว่ามีหลักฐานนำมายืนยันและเผยแพร่ต่อสาธารณะหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีการจดรายงานการประชุมไว้ แต่จะเผยแพร่ได้หรือไม่ ตนไม่ทราบ เพราะรายงานการประชุมของ คสช.นั้นเผยแพร่ไม่ได้ อย่างไรก็ดี หากมีคดีความก็สามารถส่งรายงานการประชุมที่ว่าไปได้ ไม่ได้ลำบากอะไร

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน