ไม่ง้อสภา ธนาธร โชว์วิสัยทัศน์ พร้อมพาประเทศพ้นปัญหา เตือนอย่าเป็นกบรอน้ำเดือด!

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่อาคารทีโอที แจ้งวัฒนะ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ได้แสดงวิสัยทัศต่อสื่อมวลชน หลังจากที่ประชุมสภาได้ถอนญัตติการแสดงวิสัยทัศน์ของแคดิเดตนายกฯ ออกจากการประชุม

โดยนายธนาธร กล่าวว่า เป็นที่เสียดายที่ผมไม่มีโอกาสแสดงวิสัยทัศน์ ว่า ถ้าได้เป็นนายกฯ จะนำพาประเทศไปข้างหน้าอย่างไร จึงขอใช้โอกาสนี้ แสดงวิสัยทัศน์ในฐานะผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ คนต่อไป ซึ่งถ้าท่านอยากให้ประเทศเป็นของคนกลุ่มหนึ่งที่ทำตามความต้องการตนเองโดยไม่ต้องยึดหลักการใดๆ คงไม่ต้องฟังสิ่งนี้ แต่หากอยากเห็นสังคมเป็นของทุกคน คนเคารพสิทธิ บ้านเมืองมีขื่อ มีแป เราคิดเหมือนกัน ฝันเหมือนกัน

“ผมพร้อมจะเป็นนายกฯ จากความจริง การเปลี่ยนแปลง และพาประเทศไทยไปข้างหน้า”

ประการแรก ผมพร้อมจะเป็นนายกฯ จากความจริง ประเทศไทย มีเศรษฐกิจดีกว่าประเทศทั่วโลก แต่เราต้องยอมรับว่าสังคมไทยมีปัญหาอีกเยอะที่รากฐาน จากการเดินทางไปทั่วประเทศ ได้เห็นแรงบันดาลใจที่มาจากคนตัวเล็กๆ และพร้อมกันนั้น เห็นคนที่ยากลำบากอยู่ไปวัน ทำให้เห็นว่า จีดีพี ไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง ช่องว่างระหว่างคนรวยคนจน ทั้งที่วัดผลได้ วัดผลไม่ได้อย่างการศึกษา ห่างออกไปเรื่อยๆ เพื่อจะแก้ปัญหาตรงจุด เราต้องมองปัญหาอย่างตรงจุด เป็นจริง เราต้องเริ่มจากยอมรับว่า เราแก้ปัญหาไม่ตรงจุด เราต้องแก้ทุกปัญหาไปพร้อมกัน เช่น เรื่องทุนผูกขาด จะแก้ไม่ได้ ถ้าไม่แก้ระบบอุปถัมภ์ เส้นสาย เราจะใช้เงินภาษีเพื่อคนส่วนใหญ่ยังไง ถ้าอำนาจยังผูกขาดอยู่ส่วนกลาง และผู้มีอำนาจไม่เข้าใจพื้นที่ นอกจากต้องเข้าใจปัญหามองความเป็นจริงทั้งไทยและโลก

ปัจจุบันโลกเต็มไปด้วยการแข่งขัน ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก ท่องเที่ยวถดถอยลง ล้วนส่งผลกระทบต่อเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้เกษียณรอผลตอบแทนการลงทุน ฉะนั้น ผู้นำต้องรู้เท่าทันไทย และเท่าทันโลก ให้เราเปลี่ยนแปลงไปตามโลกที่เปลี่ยน หาตำแหน่งที่เหมาะสม ต้องพร้อมขี่คลื่นโลกาภิวัฒน์ ให้ได้ประโยชน์เต็มที่

“ผมจะเป็นนายก แห่งการเปลี่ยนแปลง เราต้องกล้าเผชิญปัญหา กล้าฝัน ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทำงานเป็นทีม เราผ่านวิกฤติมาหลายครั้ง ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สงครามเย็น ต้มยำกุ้ง ปู่ย่าตายายเราผ่านวิกฤติมาหลายครั้ง ที่ผ่านมา เราร่วมใจผ่านมาด้วยกัน แต่วันนี้ไม่ใช่สงครามที่มีเครื่องบินรบ เสียงโครมคราม วันนี้เราเหมือนกบถูกต้มในน้ำร้อนขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะรู้ตัวก็สายไปแล้ว”

ทุกวันนี้การลงทุนในประเทศอ่อนกำลัง บริษัทใหญ่กำเงินไว้มากมาย แต่บริษัทเล็กไม่มีเงินจ่ายหนี้ การศึกษาตกต่ำ ที่ดินทะยานขึ้นทุกปี ถึงเราไม่ได้อยู่ในน้ำเดือด แต่น้ำร้อนขึ้นทุกที เมื่อน้ำเดือดก็สายไปแล้ว สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถทำสำเร็จได้แบบข้ามคืนข้ามวัน มีปัญหาหลายอย่างเชื่อมโยงกับกลุ่มประโยชน์อย่างแน่นเฟ้น หลายปัญหาเกิดปัญหากับผู้นำประเทศ

ทางออกคือ ต้องเผชิญกับอำนาจและกลุ่มทุน เผชิญปัญหาอย่างตรงไปตรงมา หลายปัญหากระทบต่อคนตัวเล็กในสังคม เราต้องยืนยันตัดสินใจบนหลักความชอบธรรม เราใช้แค่ความรู้สึกไม่ได้ ต้องทำอย่างรอบคอบรัดกุม คิดอย่างเป็นระบบ เราโชคดี ที่อยู่ในยุคข้อมูลข่าวสารเดินทางอย่างรวดเร็ว หลายปัญหาที่เกิดในระดับโลก มีการเรียนรู้แก้ปัญหา เราไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ แต่ใช้ประสบการณ์ในต่างประเทศ ที่เกิดขึ้น เอาข้อมูล ข่าวสาร เครื่องมือที่ถูกต้อง มาทำให้เราแก้ปัญหาได้ แค่ต้องเลือกเครื่องมือการแก้ปัญหาให้ถูกต้อง

ประการสุดท้าย ผมจะเป็นนายกฯ ที่พาประเทศไทยไปข้างหน้า นี่เป็นภารกิจของชีวิตผม และผู้แทนที่มีความฝันเหมือนผม เราเห็นประเทศญี่ปุ่นเติบโตมาในภาวะการแพ้สงครามไม่มีใครอยากซื้อขายด้วย ผมเกิดในยุคที่เกาหลี เกิดสงครามไม่มีใครอยากซื้อขาย คนไม่กินอาหารเกาหลี หรือดูละครเกาหลี แต่วันนี้ไม่ใช่แล้ว

วันนี้เรากำลังโดนหลายประเทศแซงไปทีละประเทศ คนรุ่นลูกของเรากำลังเติบโตมาในประเทศที่กำลังจะโดนเวียดนามแซง ผมได้ยินตั้งแต่เล็กจนโตว่า เรากำลังเป็นประเทศกำลังพัฒนา โดยไม่รู้ว่าเราจะเป็นประเทศพัฒนาแล้วเมื่อไหร่ ถึงเวลาที่ประเทศไทย ควรจะเป็นประเทศโลกที่ 1 สมควรแก่เวลาที่เราจะไปอยู่จุดนั้นแล้ว เพราะเรามีทรัพยากร มีความพร้อมพอ

สิ่งที่ผมต้องการสร้างคือ ประเทศที่คนไทยเท่าเทียมกัน และเท่าทันโลก ถ้าผมเป็นนายกฯ นี่ไม่ใช่ภารกิจของอนาคตใหม่ แต่ภารกิจเป็นเรื่องของนายกฯ และประเทศ ไม่ว่าจะเกิดมาแบบไหนความเท่าเทียมคือพื้นฐาน การขจัดความเหลื่อมล้ำไม่ใช่เรื่องของประเทศ เราจะเป็นประเทศที่ทยานไปข้างหน้า

มันจะดีแค่ไหนที่คนรุ่นเราสามารถส่งต่อประเทศไทย ที่คนเท่าเทียมกัน ไม่มีรัฐประหารอีก เป็นประเทศโลกที่ 1

ผมขอยืนยันหลักการประชาธิปไตยอย่างแน่วแน่อีกครั้ง ว่าผมจะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงผ่านระบอบรัฐสภา ใช้กลไกที่ยึดโยงกับประชาน มีกระบวนการตรวจสอบถ่วงดุลยึดมั่นในระบบนิติรัฐ และมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขควบคู่กับระบอบประชาธิปไตยอย่างมั่นคงสถาพร แม้จะยาก จะนานเพียงใด ก็ต้องยืนยันเส้นทางนี้ ไม่มีทางลัด

การด่วนรัฐประหาร ล้มกระดาน บิดเบือนเสียงของประชาชนมีแต่จะพาประเทศไทยเข้าสู่ทางตัน เราต้องช่วยกันทำให้ ส.ส. เป็นผู้แทนของราษฎร ไม่ใช่ ตัวแทนของอำนาจนอกระบบ อำนาจทหาร และอำนาจทุน ช่วยกันทำให้รัฐสภาเป็นสถานที่อันทรงเกียรติ เป็นสถานที่ที่ปัญหาของประชาชนถูกนำมาถกเถียงเพื่อหาทางออก ไม่ใช่ สถานที่ที่ผู้คนเอือมระอา เสียดายคะแนนเสียงของตัวเอง และหมดศรัทธาต่อระบอบประชาธิปไตย

ทั้งหมดนี้เป็นภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ ในห้วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน