‘หญิงหน่อย’ ฉะ พลังประชารัฐ-พรรคร่วม อย่ามัวแต่ต่อรองผลประโยชน์ เร่งแก้ปัญหาประชาชน! เล็งปฏิรูปพรรคเพื่อไทย พร้อมเลือก กก.บห.พรรคชุดใหม่

วันที่ 8 มิ.ย. คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมด้วย นอ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม., นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และ นายวรพล บวรลัทพล อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เดินทางไปร่วมงานอุปสมบทบุตรชายของ นายศิรสิทธิ์ เลิศด้วยลาภ ส.ส.นคราชสีมา

จากนั้นคณะลงพื้นที่รับฟังปัญหาและหาแนวทางแก้ไขการระบาดของหนอนข้าวโพด และเดินทางมาที่ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อชมสินค้า OTOP และชมการนำข้าวมาผลิตเป็นยาฆ่าเชื้อรา ป้องกันโรครากเน่าโคนเน่า ใบไหม้และโรคที่เกิดจากเชื้อรา

คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับหนึ่งในการเลือกตั้ง แม้จะไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ก็พร้อมทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าผู้นำฝ่ายค้านต้องเป็น ส.ส. และต้องไม่ใช่พรรคที่มีรัฐมนตรี หรือประธานและรองประธานสภาฯ พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคอันดับหนึ่งต้องมีการหารือเพื่อเตรียมเลือกผู้นำฝ่ายค้านและต้องเป็นหัวหน้าพรรค

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า ทำให้ต้องเลือกหัวหน้าพรรคใหม่ รวมทั้งการปฏิรูปพรรคเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยด้วย พร้อมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในฐานะรัฐบาล หรือเป็นปากเป็นเสียงให้กับประชาชนในฐานะฝ่ายค้านได้ ทั้งนี้ ยังไม่มีการหารือกัน แต่เป็นเพียงแนวคิด ส่วน พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ได้อย่างเข้มแข็ง แต่ต้องปรับเปลี่ยนเพราะเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม รายชื่อแคนดิเดตหัวหน้าพรรค คือ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ และ นอ.อนุดิษฐ์ เป็นเพียงกระแสข่าว ยังไม่มีการหารือกันในสมาชิกพรรคถึงผู้ที่มีความเหมาะสม

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวถึงกระแสข่าวการล้มดีลเก้าอี้รัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า 5 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่ค่อยได้แก้ปัญหาให้กับประชาชนเท่าไหร่ ดังนั้นวันนี้จึงอยากให้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชน มากกว่าคำนึงถึงประโยชน์ของพรรคการเมือง หรือของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ หาคนที่เหมาะสมมีความรู้ความเข้าใจในตำแหน่งนั้น ๆ และคนนั้นจะต้องใจกว้างที่จะรับฟังปัญหาของประชาชนแล้วมาแก้ไขปัญหา

“ซึ่งตนติดตามข่าวเห็นว่าการต่อรองผลประโยชน์เหล่านี้มีมาร่วม 2-3 เดือนแล้ว อยากให้มาฟังเสียงของประชาชนบ้างว่าเดือดร้อนแค่ไหน อย่างไรก็ตาม จากการลงพื้นที่ตนยังยืนยันว่าประชาชนกำลังลำบากเนื่องจากเศรษฐกิจในระดับฐานรากไม่ดี ประกอบกับสงครามการค้า และค่าเงินที่แข็งตัวทำให้การส่งออกซบเซา ทั้งยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวด้วยว่า ตนเห็นว่านโยบายที่หาเสียงของพรรคแกนนำและพรรคร่วมรัฐบาลส่วนใหญ่เป็นการแจกเงิน แต่การใช้เงินควรใช้เพื่อสร้างรายได้ใหม่และกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตนยังไม่เห็น จึงยังไม่สามารถคาดหวังการแก้ปัญหาเศรษฐกิจจากนโยบายเหล่านี้ ถ้ายังไม่ถูกปรับให้เหมาะสม เพราะหากนโยบายแจกเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริง 4-5 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้น

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ดังนั้นรัฐบาลชุดนี้เนื่องจากเป็นรัฐบาลที่ทำงานมาต่อเนื่อง ควรเอาบทเรียนในอดีตมาปรับเปลี่ยนวิธีแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพื่อให้ทุกเม็ดเงินที่ลงไปสร้างรายได้ และทรัพย์สินใหม่ให้กับประชาชน เพื่อให้กระตุ้นเศรษฐกิจได้ แต่ทั้งนี้ยังเร็วไปที่จะพูด ขอรอดูก่อนว่าจะรวมนโยบายของแต่ละพรรคเข้าด้วยกันอย่างไร เพราะถึงจะเป็นการแจกเงินเหมือนกัน แต่ก็แจกเงินคนละแบบ คนละวิธี

______________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน