แม่ทัพภาค 4 เชื่อ บิ๊กตู่ ควบกลาโหมช่วยส่งเสริมงานดับไฟใต้ พร้อมเดินสายคุยนักการเมืองขอความร่วมมือ แจงนโยบายปิดท่าข้ามป้องผู้ก่อเหตุ เตรียมเปิดแบบสอบถามชาวบ้าน แย้ง ยูเอ็น-องกรสิทธิมนุษยชน ปมแยกดินแดน

บิ๊กตู่ / วันที่ 18 มิ.ย. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ค่ายสิรินธร จ.ยะลา พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะควบตำแหน่งรมว.กลาโหม ว่า ถือเป็นเรื่องดี ทำให้การขับเคลื่อนงานในภาคใต้รวดเร็วขึ้น ท่านเคยเป็นผู้บัญชาการทหารบกมาก่อน ทราบปัญหาในพื้นที่ ขณะเดียวกันท่านให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานมาตลอด หากได้อดีตทหารมานั่งตำแหน่ง รมว.กลาโหม เป็นเรื่องดีแน่นอน

พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า การดำเนินการแก้ปัญหาภาคใต้ ในขณะนี้จะใช้กำลังทหารอย่างเข้มข้น โดยการจัดตั้งชุดปฏิบัติการกลยุทธ์หมู่บ้านคลุมพื้นที่ เพื่อไม่ให้ผู้ก่อความไม่สงบปฏิบัติการตอบโต้เจ้าหน้าที่ได้ และต้องจัดการไล่ล่ามือฆ่าให้หมดจากหมู่บ้าน

ผู้ต้องหาตาม ป.วิอาญา ต้องนำออกมาดำเนินการตามกฎหมาย ทำหมู่บ้านสีแดงให้เป็นหมู่บ้านสีขาว ลดความหวาดกลัวกับผู้บริสุทธิ์ เพื่อที่จะได้เข้ามาร่วมมือกับรัฐมากขึ้น

พล.ท.พรศักดิ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4

สำหรับนโยบายปิดท่าข้ามบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อการร้ายข้ามเข้ามาก่อเหตุในฝั่งไทย เนื่องจากที่ผ่านมาตรวจพบว่าผู้ก่อเหตุเดินทางผ่านท่าข้ามเข้ามาก่อเหตุจริง โดยระหว่างนี้จะจัดชุดปฏิบัติการกลยุทธ์ชุดละ 3-6 คน เฝ้าตรวจ 24 ชั่วโมง ป้องกันการลักลอบข้ามเข้ามา

ซึ่งต้องแลกกันกับการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนเพียงไม่กี่คนที่ข้ามไปข้ามมาที่อาจจะต้องได้รับผลกระทบกับบูรณภาพแห่งดินแดน ความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์และเจ้าหน้าที่

ส่วนคนที่ต่อต้านส่วนใหญ่อาจจะมีส่วนร่วมกระทำผิดกฎหมาย ยืนยันว่าการปิดท่าข้ามจะทำในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่ได้ปิดตลอดไป ทั้งนี้ ในภาพรวมของยุทธวิธีจะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบตลอด ต้องมีความอ่อนตัว เพราะผู้ก่อเหตุมีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

แจงยูเอ็นปมแยกดินแดน

ในส่วนของนักการเมือง เชื่อมั่นว่านโยบายของทุกภาคการเมืองต้องการสันติสุข ตนอยากไปพบทานข้าวกับพรรคการเมืองเพื่อไปคุยกัน จะได้ชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายการปิดท่าข้ามบริเวณชายแดน เมื่อตอนนี้มีส.ส. เราก็อยากให้เขามีบทบาท และตนก็อยากคุยกับเขาด้วยเพราะเป็นเพื่อนกัน

“สิ่งที่สำคัญที่สุดคือประเทศไทยไม่ได้อยู่แค่ประเทศเดียว เรายังมีองค์กรนานาชาติ มียูเอ็น องค์กรสิทธิมนุษยชนต่างๆ ขณะนี้ยืนยันว่าเราไม่มีการซ้อมทรมาน ขอยืนยันด้วยว่าในการปิดล้อมตรวจค้นจะต้องมีขั้นตอน ไม่ใช่เข้าไปยิงเลย” มทภ.4 กล่าว

พล.ท.พรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้ให้ศูนย์สันติวิธี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ไปจัดเวทีรับฟังความคิดเห็น รวมถึงออกแบบสอบถามให้กับประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นว่าต้องการการปกครองแบบไหน ซึ่งจะสะท้อนความคิดเห็นที่แท้จริงของคนในพื้นที่ประมาณ 2 ล้านคน เมื่อผลออกมาแล้วจะพูดคุยกับองค์กรระหว่างประเทศ

ทั้งองค์กรสหประชาชาติ (ยูเอ็น) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนหรือองค์กรนานาชาติต่างๆ ที่ระบุว่าความต้องการของประชาชนในพื้นที่จังหวัดภาคใต้แบ่งแยกดินแดนนั้น แท้ที่จริงแล้วความต้องการของเขาเป็นอย่างไร ซึ่งผลสรุปจะแล้วเสร็จประมาณสิ้นเดือนมิถุนายนนี้และจะเปิดเผยให้สาธารณชนได้รับทราบด้วย

เราเป็นตัวเชื่อมนำข้อมูลเหล่านั้นไปสู่ประธานกรรมการกลางอิสลามทุกคน ตัวแทนภาคประชาชน จากนั้นจะส่งผ่านข้อมูลไปยังองค์กรระหว่างประเทศ เช่น ยูเอ็น นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย พูโล บีอาร์เอ็น และส่งไปให้ ดร.ตันสรี อับดุล ราฮีม ผู้อำนวยความสะดวก

ทั้งนี้ ท่านได้คุยกับมาราปัตตานีที่เป็นตัวจริง ลงเป็นบันทึกข้อความและ 1 แผ่นดิสก์ ตนก็ได้ส่ง ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และพล.อ.อุดมชัย ธรรมโสรารัชต์ หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็หมดหน้าที่ตน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน