ผู้นำอาเซียนถกสมัชชารัฐสภา-เยาวชน-ภาคธุรกิจ หนุนเยาวชนอาเซียนเป็นผู้นำเปลี่ยนแปลงสังคม

 

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 22 มิ.ย. ที่ห้องพิมานสยาม ฮอลล์ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอาเซียน และผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน พบหารือกับภาคส่วนต่างๆ ของอาเซียน ได้แก่ สมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA) ผู้แทนเยาวชนอาเซียน (ASEAN Youth) และสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน (ASEAN Business Advisory Council: ASEAN-BAC) ระหว่างการเข้าร่วม

พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการหารือกับสมัชชารัฐสภาอาเซียนนั้น ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่าบทบาทของฝ่ายนิติบัญญัติจะช่วยผลักดันอาเซียนให้มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยนายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 แนวทางหลัก คือ 1.การสื่อสารให้ประชาชนในแต่ละพื้นที่เกิดความตระหนักรู้และร่วมเป็นพันธมิตรในการผลักดันข้อริเริ่มต่างๆให้เกิดผลอย่างยั่งยืน 2.การสนับสนุนและเร่งรัดกระบวนการนิติบัญญัติเพื่อให้ความตกลงต่างๆของอาเซียนมีผลบังคับใช้โดยเร็ว 3.การส่งเสริมความร่วมมือและสร้างความสอดคล้องกันด้านกฎหมายของประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อสนับสนุนการบูรณาการในภูมิภาคให้ใกล้ชิดมากขึ้น

สำหรับการหารือกับผู้แทนเยาวชนอาเซียนนั้น เยาวชนอาเซียนได้เสนอความคิดเห็น 3 ประเด็น คือ การเสริมสร้างโอกาสทางการศึกษา การส่งเสริมสภาพแวดล้อม และการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างรอบด้าน ขณะที่นายกรัฐมนตรีย้ำว่าความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเยาวชนมีความสำคัญต่อการกำหนดนโยบายเพื่อพัฒนาประเทศและประชาคมอาเซียนอย่างมาก อีกทั้งนายกรัฐมนตรีได้เสนอแนวทางในการพัฒนาบทบาทของเยาวชนอาเซียนที่สอดคล้องกับแนวคิด “ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน”ได้แก่ “ร่วมมือ ร่วมใจ” ในการสร้างประชาคมอาเซียน โดยเตรียมพร้อมและมีทักษะที่รอบด้าน

ขณะที่การหารือกับผู้แทนสภาที่ปรึกษาธุรกิจอาเซียน นายกรัฐมนตรีเสนอแนะให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงการเตรียมความพร้อมรับมือกับการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 (4IR) อาเซียนจึงควรมีแนวทางการดำเนินงานที่ช่วยให้ทุกภาคส่วนสามารถปรับตัวและได้รับประโยชน์โดยเร็ว รวมทั้งผลักดันทุกระดับเพื่อสรุปผลการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ซึ่งจะช่วยขยายโอกาสทางการค้า การลงทุน ยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้กับอาเซียน และเพิ่มบทบาทของอาเซียนในเวทีโลกได้อย่างมาก ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ย้ำความสำคัญของความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่เป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน