เปิดรายชื่อ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาล โดนถือหุ้นสื่อ เหมือนธนาธร แต่ไม่ต้องพักงาน ศาลรัฐธรรมนูญแจงเหตุผล

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ประชุมพิจารณากรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 จำนวน 2 คำร้อง โดยขอให้วินิจฉัยว่าสมาชิกสภาพของส.ส.จำนวน 41 คนสิ้นสุดตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) หรือไม่

โดยศาลประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า ไม่รับคำร้องของผู้ถูกร้อง 9 คน ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 6 คน คือ นายศาสตรา ศรีปาน นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรธ์ น.ส.ภริม พูลเจริญ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ นายจักรพันธ์ พรนิมิตร พรรคประชาธิปัตย์ 3 คน คือ นายกรณ์ จาติกวณิช นายประมวล พงศ์ถาวราเดช นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์

เนื่องจากวัตถุประสงค์ในการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทระบุว่า ประกอบกิจการค้ากระดาษ เครื่องเขียน แบบเรียน แบบพิมพ์ หนังสืออุปกรณ์การเรียน การสอน อุปกรณ์ถ่ายภาพและภาพยนตร์เครื่องคํานวณ เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์การพิมพ์ สิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ ตู้เก็บเอกสารและเครื่องใช้สำนักงานทุกชนิด เครื่องมือสื่อสารคอมพิวเตอร์ รวมทั้งอุปกรณ์และอะไหล่สินค้า

ซึ่งหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคลของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ออกให้แก่ห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท เป็นวัตถุประสงค์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ที่จะเป็นลักษณะเข้าข่ายอันเป็นเหตุให้สมาชิกสภาพของส.ส.ทั้ง 9 คน ต้องสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ

ขณะที่ผู้ถูกร้องอีก 32 คน ศาลรับไว้พิจารณาวินิจฉัย เนื่องจากรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรค 2 บัญญัติเงื่อนไขไว้ว่าจะต้องปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง แต่ในคดีนี้ผู้ร้องไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

มีเพียงเอกสารประกอบคำร้องเป็นหนังสือรับรองห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท ระบุรายละเอียดวัตถุประสงค์กับสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นเท่านั้น ไม่ปรากฏแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัท และแบบนำส่งงบการเงินของห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทว่ามีรายได้จากการประกอบกิจการใด จึงยังไม่มีความชัดเจนว่าผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด

ศาลต้องดำเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริง จึงยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ จากนี้แจ้งให้ผู้ร้องทราบพร้อมส่งสำเนาคำร้องให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คน ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

สำหรับรายชื่อ ส.ส. 32 คน

สำหรับรายชื่อ 32 ส.ส. ที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณาคุณสมบัติ ประกอบด้วย ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ 21 คน ประกอบด้วย นายกษิติ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี นายชาญวิทย์ วิภูศิริ ส.ส.กทม. นายฐานิสร์ เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ ส.ส.นครราชสีมา นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี นายปฐมพงศ์ สูญจันทร์ ส.ส.นครปฐม น.ส.พิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

นายภิญโญ นิโรจน์ ส.ส.นครสวรรค์ นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.กาญจนบุรี นายสมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ ส.ส.สมุทรปราการ น.ส.ภาดา วรกานนท์ ส.ส.กทม.

พรรคประชาธิปัตย์ 8 คน ประกอบด้วย นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง นายอัศวิน วิภูศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมชาติ ประดิษฐพร ส.ส.สุราษฎร์ธานี น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ ส.ส.สุราษฎร์ธานี นายภานุ ศรีบุศยกำญจน์ ส.ส.สุราษฎร์ธานี น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา

พรรครวมพลังประชาชาติไทย 1 คน คือ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรค พรรคชาติพัฒนา 1 คน คือ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรค และพรรคประชาภิวัฒน์อีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ หัวหน้าพรรค

อย่างไรก็ตามคดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยสมาชิกภาพของนายธนาธร สิ้นสุดลง ได้ผ่านการสอบสวนของ กกต. ซึ่งมีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงมาก่อนยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

โดยมีเอกสารประกอบคำร้อง เช่น แบบสสช.1 ระบุสินค้าหรือบริการที่ประกอบการว่า ประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ โรงพิมพ์ รับพิมพ์หนังสือ พิมพ์หนังสือจำหน่าย ประกอบกับแบบส่งงบการเงินที่บริษัทของนายธนาธร ยื่นต่อกรมธุรกิจการค้า 2554-2558

ระบุไว้ชัดเจนว่ามีรายได้จากการขายนิตยสาร และรายได้จากการให้บริการโฆษณา จึงมีเหตุอันควรสงสัยว่านายธนาธรมีกรณีตามที่ถูกร้องศาลรัฐธรรมนูญ จึงมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรค 2


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน