“อุตตม” จับมือ “สามมิตร” แถลงยุติรอยร้าว หย่าศึกชิงเก้าอี้ รมต. “สุริยะ”ลั่น ยอมถอยเคารพการตัดสินใจ”บิ๊กตู่” จัดตำแหน่งให้ พร้อมยุติขับไล่ “สนธิรัตน์” พ้นเลขาฯพรรค

เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 2 ก.ค. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พร้อมแกนนำกลุ่มสามมิตร นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมแถลงยุติปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคอันสืบเนื่องมาจากการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี

โดยนายอุตตม กล่าวว่า ข่าวความเห็นที่แตกแยกภายในพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างกลุ่มต่างๆ ถือเป็นเรื่องปกติ ความเห็นที่ต่างกันเป็นส่วนหนึ่งในระบบประชาธิปไตย และปัญหาที่เกิดกับกลุ่มสามมิตรได้หารือและสะท้อนความคิดเห็นกับตนแล้ว จึงถือว่าเรื่องทั้งหลายจบแล้ว ส.ส.กลุ่มสามมิตรและส.ส.ในพรรค พร้อมเดินหน้าทำงานต่อไป ส่วนขั้นตอนการจัดตั้งรัฐบาลให้เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีดูแลต่อไป

นายอุตตม กล่าวอีกว่า ส่วนที่ส.ส.กลุ่มสามมิตร เตรียมยื่นญัตติขับไล่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จากตำแหน่งเลขาธิการพรรค เป็นสิ่งที่ทำได้ และตนได้พูดคุยกับนายสนธิรัตน์แล้ว และเข้าใจดี อาจสื่อสารกับส.ส.กันไม่เข้าใจชัดเจน บ้าง และท่านได้มีแถลงการณ์ท่าทีออกมาแล้วก็เป็นไปตามนั้น ถือว่าประเด็นนี้จบแล้วและจะไม่ก่อให้เกิดความแตกแยก

ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มสามมิตรยอมรับได้หรือไม่ หากจะเหลือตำแหน่งรัฐมนตรีในโควต้าของกลุ่มเพียง 2 ตำแหน่ง นายอุตตม กล่าวว่า เรายังไม่มีข้อมูลที่แท้จริงเลยว่าการจัดตั้ง ครม.ว่าใครอยู่ตรงไหน ที่ได้ยินเป็นการคาดการณ์คาดเดากันไป เท่าที่ทราบจากกลุ่มสามมิตรไม่ได้เงื่อนไขและให้นายกฯเป็นคนดำเนินการ

เมื่อถามว่าถึงเวลาที่ ส.ส.ของพรรคจะได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรี เพื่อทำความเข้าใจกันหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ตนเรียนว่าท่านให้ความสำคัญ ในฐานะที่พรรคเป็นผู้นำเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และได้รับความไว้วางใจนั้นจากรัฐสภา ส่วนการทำงานต่อไปจะเข้าสู่บริบทที่ ส.ส.ทำงานในสภา คณะรัฐมนตรีทำงานบริหาร

เชื่อว่านายกฯจะดูแลในเรื่องสิ่งเหล่านี้ในส่วน ของพรรค พปชร.อย่างแน่นอน อยากให้สังคมมั่นใจได้ว่าในการที่เราจะสื่อสารกับนายกฯหรือนายกฯสื่อสารกับเราจะเป็นไปด้วยความราบรื่น และอยากให้ทุกคนมองว่าเรามีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง มีเสียงออกไปสู่สังคมบ้าง

ก็ต้องขออภัยที่อาจทำให้เกิดความสับสน แต่อยากให้เห็นว่า วันนี้ พรรคพปชร.สามารถถกเถียงกันได้ แต่คุยแล้วจบ จบแล้วเดินหน้า นี่คือการแสดงออกตามระบอบประชาธิปไตย และเราเชื่อมั่นว่า ส.ส.มาอยู่ตรงนี้ต้องการทำงานให้ประชาชน

“นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ ได้พูดแล้วว่าไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร คุยกันแล้วก็จบ เดินเข้าสู่บริบทต่อไป จัดตั้งรัฐบาล ทำงานในสภาอย่างเข้มแข็ง และถือเป็นสปิริตของเขา เพราะส่วนตัวประสบกับตัวเองตั้งแต่ตั้งพรรคการเมือง ท่านทำงานกันอย่างหนัก แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าต้องเดินหน้าต่อไป ส่วนวันข้างหน้าจะมีโอกาสอะไรหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ สุดท้ายความรักพวกเรามี แต่ก็มีความเห็นที่แตกต่างได้ ถือเป็นธรรมชาติของพรรคการเมือง”นายอุตตม กล่าว

นายอุตตม ยังกล่าวต่ออีกว่า ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พปชร.มีปัญหามาก อาจจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นอีกหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ไม่เกี่ยวเลย ไม่ทราบว่าใครพูด และอย่าเอาเรื่องนี้มาพูด ประเทศไทยกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ดี และไม่ห่วงว่าในอนาคตหากมัปัญหาแล้วจะมีการออกมาต่อรองในลักษณะแบบนี้อีก เพราะส.ส.ทุกคนรู้ว่ามีบทบาทอะไร และได้รับความไว้ใจจากประชาชน เวลานี้ทุกคนต่องการเห็นประเทศเดินหน้าได้

นายสุริยะ กล่าวว่า การที่กลุ่มสามมิตร นัดส.ส.มาหารือและแสดงความยินดีเพราะคิดว่าโผครม.เป็นไปตามที่พูดกัยว่าตนจะไปนั่งรมว.พลังงาน แต่เมื่อมีข่าวว่าอาจไม่เป็นไปตามนั้น ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท อาจหลุดจากโผครม.ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าทำไมจึงเกิดเรื่องเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะนายอนุชา ที่ทุ่มเททำงานให้พรรคมาตลอดตั้งแต่ตั้งพรรค หากกลุ่มส.ส.มาที่พรรค กำหนดยุทธศาสตร์หาเสียง ยอมเสียสละ ลง ส.ส.เขต ที่มีการต่อสู้กันมาก และไม่ได้ลงพื้นที่ช่วยหาเสียง

ทั้งที่สามารถอยู่ในบัญชีปาร์ตี้ลิสต์ลำดับต้นได้ จึงเกิดความน้อยใจมาก แต่เมื่อพูดกับนายอนุชาว่าทั้งหมดเพื่อให้ประเทศชาติเดินหน้าไปได้ ไม่อยากให้เกิดประเด็นว่ากลุ่มสามมิตรก่อปัญหาเรียกร้องตำแหน่ง โดยหลังจากที่กลุ่มเสนอข้อเรียกร้องไปแล้ว และมีข้อหนึ่งระบุว่าหากนายกฯไม่พิจารณาตามข้อเสนอก็อาจจะมีการทบทวนบทบาทการร่วมงานกับพรรคพปชร.นั้น แต่หลังจากนั้นทางกลุ่มได้กลับมาพูดคุยกันและเห็นตรงกันว่าการที่จะให้ใครอยู่ตำแหน่งใดทางกลุ่มก็จะยอมรับและเคารพการตัดสินใจนายกฯตัดสินใจบนประโยชน์ของประเทศชาติ

“วันนี้กลุ่มสามมิตรจะไม่สร้างปัญหาในนายกฯทุกคนตกลงกันแล้วว่าจะให้นายกฯสบายใจ จะได่มีเวลาทำงานให้ประเทศชาติ และจะพิจารณาให้กลุ่มสามมิตรอยู่ตรงไหน ได่นำแหน้งอะไร ขอมอบอำนาจเด็ดขาดให้นายกฯตัดสินใจ” นายสุริยะ กล่าว

เมื่อถามว่าความขัดแย้งในพรรค จะทำให้ประชาชนมั่นใจการทำงานของพรรคในอนาคตได้อย่างไร นายอุตตม กล่าวว่า นายสุริยะ กล่าวว่า เมื่อเราแสดงท่าทีไปแล้ว ต่อจากนี้จะไม่ทำให้เกิดปัญหา ไม่มีการออกมางอแงอีก

ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อสื่อสารกันเข้าใจแล้ว ทางกลุ่มจะหยุดการยื่นญัตติขับไล่เลขาฯ สาเหตุที่เกิดประเด็นนั้นอาจเกี่ยวโยงกับกรณีของนายอนุชา ที่ทำงานหนัก แต่การสื่อสารของนายอนุชา ไปถึงผู้มีอำนาจสูงสุดอาจไม่ชัดเจนและทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อน ทางกลุ่มจึงหารือและได้ข้อสรุปไปถึงผู้มีอำนาจพิจารณา ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรนั้นเราไม่มีปัญหาอะไร

และเราไม่ได้ต้องการให้นายสนธิรัตน์ ออกแถลงการณ์อะไรแต่เราต้องการสื่อสารไปถึงผู้ใหญ่ และเมื่อพูดคุยกับส.ส.เข้าใจแล้วจึงหยุด เพราะไม่ต่องการให้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะใกล้เวลาที่นายกฯจะตัดสินใจเลือกคนมาทำงาน ส่วนนายอนุชา ก็พอใจว่าได้เสนอเบื้องบนที่มีอำนาจรับทราบแล้ว

“นายสนธิรัตน์ แสดงน้ำใจเกินกว่าสิ่งที่เราพูดคุยกัน จริงๆ เรื่องนายสนธิรัตน์ไม่ได้เป็นประเด็นหลักที่พูดคุยกันเมื่อวันที่ 1 ก.ค. แต่มีคนยกขึ้นมา เราไม่ติดใจ และหยุดประเด็นท่านเลขาฯไปเถอะ เพราะจะทำให้หลายเรื่องพัวพันกัน เพราะเป็นเรื่องเล็ก”นายสมศักดิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่สังเกตว่าตลอดการแถลงข่าว ทั้งนายสุริยะ และนายสมศักดิ์ มีสีหน้าเคร่งเครียด และข่มความรู้สึกอึดอัด โดยเฉพาะนายสุริยะ ขณะที่นายอุตตม สีหน้าเรียบเฉย และพยายามตัดบทในการถามของผู้สื่อข่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน