บิ๊กตู่ ลั่นรัฐบาลวางกรอบไว้หมดแล้ว วันหน้าจะได้ไม่ตีรันฟันแทงให้ได้สิ่งที่ต้องการ อัดพวกสาปแช่งประเทศตัวเอง ทำชาติเดินหน้าไม่ได้ ชาวภูเก็ต โวย ผิดหวังถูกกัน ไม่ได้เจอนายกฯ จนท.อารักขาเข้ม

บิ๊กตู่ – เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 8 ก.ค. ที่โรงเรียน อบจ.เมืองภูเก็ต ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมคณะ เดินทางมาด้วยรถยนต์โตโยต้า เวลไฟร์ หมายเลขทะเบียน 5 กอ 185 กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นประธานเปิดอุโมงค์ทางลอดห้าแยกฉลอง

โดยมีกลุ่มส.ส.ภาคใต้ กลุ่มด้ามขวานไทย พรรคพลังประชารัฐ นำโดยนายทวี สุระบาล แกนนำหาเสียงคนสำคัญในพื้นที่ภาคใต้ นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง นายสายัณห์ ยุติธรรม ส.ส.นครศรีธรรมราช นายสุทา ประทีป ณ ถลาง ส.ส.เขต 1 ภูเก็ต นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.เขต 2 ภูเก็ตมาต้อนรับ โดยนายกฯ ทักทายพร้อมกล่าวว่า ยินดีด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นปรากฏว่ามีชาวบ้านประมาณ 100 คน ส่งเสียงร้องโวยวายอยู่นอกรั้วโรงเรียน ไม่พอใจที่หน่วยรักษาความปลอดภัยและทางจังหวัด ไม่เปิดให้ประชาชนที่มารอรับพล.อ.ประยุทธ์ ได้เข้าไปภายในโรงเรียน ขณะที่ภายในโรงเรียนจัดประชาชนมารับฟังการกล่าวปราศรัยของพล.อ.ประยุทธ์ เพียง 200 คน

ทั้งนัี้ ประชาชนที่ไม่สามารถเข้ามาได้ต่างโวยวายว่า มารอต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า แต่กลับไม่ได้เข้า ทำให้ผิดหวังอย่างมาก เพราะไม่บ่อยครั้งที่พล.อ.ประยุทธ์จะมา จ.ภูเก็ต จึงอยากมาต้อนรับ อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเจ้าหน้าที่ได้ยอมเปิดให้ประชาชนที่อยู่ภายนอกเข้ามาบริเวณภายใน ทำให้เหตุการณ์สงบลง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน
นายกฯ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งกล่าวถึงชาวบ้านที่มารอพบว่า “ขอให้ใจเย็นๆ พวกที่อยู่ข้างนอก เดี๋ยวได้เจอกันทุกคน ผมรักทุกคน ขอร้องอย่าส่งเสียงดัง วันนี้เราไม่มีเวลามาประท้วงอะไรแล้ว เพราะผมดูแลคนทั้งประเทศ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ของใคร วันต้องขอแสดงความยินดีกับส.ส.ใหม่ในพื้นที่ เป็นส.ส.จากพรรคอะไรนะ”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เราเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ คงไม่ใช่จะทำเพื่อภูเก็ตเพียงอย่างเดียว เราต้องดูแลจัดสรรปันส่วนให้ดี ประเทศไทยปัญหามีเยอะมาก ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรเหมือนกัน เราต้องสร้างความเข้าใจและสร้างความร่วมมือ สร้างความรักสามัคคี การมีจิตอาสาเผื่อแผ่ แบ่งปัน ดูแลผู้มีรายได้น้อย ให้โอกาสและเกิดความเท่าเทียม และให้ความเป็นธรรมในการดูแลประชาชนทุกคน เพราะเราต้องอยู่ด้วยกัน การดูแลจึงต้องกำหนดสัดส่วนการใช้จ่ายงบประมาณให้เหมาะสม ไม่ใช่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่งได้จำนวนมาก ไม่ได้ เพราะทุกอย่างกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญชัดเจน

นายกฯ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญเป็นของปวงชนชาวไทย แต่เราคงไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนทั้งหมดได้พร้อมกันทุกอย่าง จึงต้องเป็นขั้นตอน โดยเฉพาะการใช้จ่ายงบประมาณ เราต้องมีแผนแม่บท มีแผนยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากต้องการตีกรอบการเดินหน้าไปสู่อนาคตใน 6 ยุทธศาสตร์ชาติ แต่ไม่ใช่ว่าคนนั้นคนนี้จะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ เราเพียงจัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนก่อน อะไรเป็นปัญหากระทบกับคนจำนวนมากต้องดำเนินการก่อน เราต้องมีหลักคิดที่ถูกต้อง มีรัฐบาลที่ดูแลประชาชนทุกฝ่ายทุกพื้นที่ วันหน้าจะได้ไม่ตีรันฟันแทงกันเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ

นายกฯ กล่าวว่า เราต้องมีหลักคิดที่ถูกต้อง รัฐบาลต้องดูแลคนได้ทุกกลุ่มทุกฝ่าย ดูแลได้ทุกพื้นที่ ตนวางไว้ให้หมดแล้ว นำปัญหาเดิมที่เดือดร้อนมาแก้ นำงบฯลงกลุ่มจังหวัดมากกว่ารัฐบาลก่อนๆ รัฐบาลต้องไม่ทำงานสะเปะสะปะ ตนจะยืนยันทำให้ดีที่สุด และการพัฒนาต้องไม่ขัดแย้งเรื่องสิ่งแวดล้อม เรามีคณะกรรมการมากมาย ต้องดูว่าประเทศจะได้ประโยชน์อย่างไร ไม่ใช่จะได้ใต้โต๊ะอย่างไร ถ้าผิดร้องเรียนมาได้ สอบสวนดำเนินคดีทุกเรื่อง

ทั้งนี้ การแก้ปัญหาต่างๆ ต้องฝากส.ส.ที่ร่วมงานกับรัฐบาลด้วย และงบประมาณที่จังหวัดและทุกพื้นที่ขอมา เกิน 6 ล้านล้านบาท ถ้าต้องกู้เงินมา หนี้สาธารณะก็เพิ่มขึ้น เกิน 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อไหร่เตรียมล่มสลายได้เลย เพราะมันอ่อนไหวอ่อนแอ วันนี้ดึงไว้ 42 เปอร์เซ็นต์ อย่าให้ใครมาบอกว่ารัฐบาลนี้สร้างหนี้สิน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนใจเย็นๆ ทุกอย่างจะทำต่อไปในทุกนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ ไม่ว่าพรรคใดเป็นรัฐบาล ต้องเป็นรัฐบาลของปวงชนชาวไทย ไม่ใช่รัฐบาลของพรรคใดพรรคหนึ่ง ยืนยันจะทำในสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์ ขอให้ประชาชนเข้าใจด้วย เพื่อจะไม่มีปัญหาขัดแย้งกันอีกต่อไป วันนี้หากมองนโยบายของแต่ละพรรคแล้ว คงไม่ต้องทำอย่างอื่นเลยเพราะคงใช้งบประมาณสูงถึงล้านล้านบาท แต่ต้องทยอยทำ ทุกนโยบายล้วนดีทั้งสิ้น บางนโยบายอาจทำไม่ได้จริงในตอนนี้ แต่ทำได้ในภายภาคหน้า

“แม้สิงคโปร์จะเจริญมาก แต่สิงคโปร์ก็ชอบมาเที่ยวเมืองไทย แต่แปลกที่คนไทยบางกลุ่มชอบว่าประเทศตัวเอง ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมชอบว่าตัวเองทุกวัน ไม่มีทางที่เราจะไปได้ถ้าเราว่าตัวเองทุกวัน มันเหมือนกับสาปแช่งตัวเราเอง สาปแช่งประเทศตัวเอง ประเทศไปไม่ได้ เขามีแต่ให้สร้างแรงศรัทธา ขอให้ประเทศตัวเองอยู่รอดปลอดภัย ผมไหว้พระทุกวัน ให้การบริหารราชการราบรื่น ไม่ได้ขอให้ใครมารักผม ขอแค่ให้ทำงานให้สำเร็จ ดูแลประชาชนให้ปลอดภัย ผมขอพระแบบนี้มาตลอด 5 ปี ก่อนหน้านี้ที่เป็นทหารก็ขอให้ลูกน้องปลอดภัย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส.เขต 2 ภูเก็ต พรรคพลังประชารัฐ ลุกขึ้นกล่าวกับพล.อ.ประยุทธ์ว่า จากที่ฟังนายกฯ ทำให้ทราบว่านายกฯเข้าใจในปัญหาของชาวภูเก็ตอย่างมาก หากนายกฯ ได้มาภูเก็ตก่อนหน้านี้ คงพัฒนาได้มากกว่านี้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอบว่า แม้ก่อนหน้านี้ไม่ได้มาภูเก็ต แต่เราก็ทำให้ ดังนั้นวันนี้เรามา เราก็ต้องทำให้มากขึ้น แต่ตนไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่มาทำงานทางการเมือง ถือเป็นนักปฏิบัติ จากนี้ประเทศไทยต้องไปด้วยกันได้ทั้ง 3 ส่วนคือ 1.ข้าราชการ 2.การเมือง 3.ประชาชน หาก 3 ส่วนนี้ไปไม่ได้ก็ต้องเลิกหมด ไม่ว่าพรรคใดต้องรักประเทศไทยทุกตารางนิ้ว ไม่สามารถแบ่งสรรปันส่วนพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งได้ แม้ประชาชนจะไม่เลือกเรา แต่เราก็ต้องดูแลเขา เพราะทุกคนถือเป็นคนไทย

ทั้งนี้ การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยใช้การรักษาความปลอดภัยชั้นสูงสุด มีการระดมเจ้าหน้าที่ทางจากส่วนกลาง และจากกองทัพภาค 4 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ดูแลตลอดเส้นทางและจุดที่นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน