สาวแบงก์เปิดโปงพิรุธคดี จำนำข้าว โดนไล่ออกหาว่าโรคจิต กระทบศักดิ์ศรีมนุษย์

จำนำข้าว – วันที่ 12 ก.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ เลขานุการคณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร นำน.ส.ชญาดา สกุลรุ่งโรจน์ อดีตพนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ายื่นหนังสือถึง กสม. ผ่านนายโสพล จริงจิตร เลขาธิการ กสม. เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีถูกละเมิดสิทธิ ถูกกล่าวหามีอาหารป่วยโรคจิตเภท

กระทบต่อศักดิ์ความเป็นมนุษย์ กระทบต่อการทำงาน ละเมิดสิทธิการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ไม่ได้รับทราบข้อมูลผลตรวจรักษาทางจิตเวช จากหน่วยงานที่อ้างผลยืนยันจากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งกล่าวหาว่ามีอาการป่วยทางจิต

ถูกทำร้ายร่างกายในสถานที่ทำงาน บริเวณลานจอดรถ ซึ่งไม่ได้รับการช่วยเหลือเรื่องคดี และการติดตามหาตัวคนร้าย ภายหลังออกมาโต้แย้งข้อมูลความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

น.ส.ชญาดา กล่าวว่า หลังตนเองออกมาเปิดเผยข้อมูลทุจริตการขอเบิกเงินชดเชยจากโครงการรับจำนำข้าวปีการผลิต 2555-2556 มูลค่า 3 ล้านบาท โดยพบมีชื่อในการเบิกเงินซ้ำซ้อน มีการสลับตัวเลขลำดับการเบิก หลังจากนั้นมีการสนทนาทางไลน์กลุ่ม กล่าวหาว่าตนเป็นโรคจิตเภท จนนำมาสู่การตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องดังกล่าวครั้งที่ 1 และมีการพยายามส่งตัวไปตรวจรักษาที่โรงพยาบาล 2 แห่ง

แต่ตนเองขัดขืนการไปรักษาในครั้งแรก เนื่องจากเกรงจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น และยืนยันว่าไม่ได้มีการอาการป่วยตามที่ถูกกล่าวหา แต่ท้ายที่สุดก็ยอมไปตรวจ ต่อมาคณะกรรมการฯ ได้สรุปการสอบสวนตามคำวินิจฉัยแพทย์ที่ระบุว่า มีปัญหาการควบคุมอารมณ์ แต่ยังไม่ถึงขั้นต้องรักษา

จากนั้นจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกลุ่มสายงาน ซึ่งในระหว่างนั้น ตนเองนำข้อมูลโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย จึงถูกตั้งคณะกรรมการสอบอีก 3 ครั้ง ตั้งข้อหาว่าสร้างความเสื่อมเสียแก่องค์กร นำความลับขององค์กรมาเปิดเผยและกระด้างกระเดื่อง จนในที่สุดถูกเลิกจ้าง

แม้ตนพยายามขอให้ทางธนาคาร เปิดเผยผลการตรวจโรจทางจิตเภทจากโรงพยาบาลที่กล่าวอ้าง แต่ก็ถูกปฏิเสธ ส่วนการถูกทำร้ายร่างกายนั้น หลังเกิดเหตุตนไม่ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ เนื่องจากเกรงกลัวจะถูกทำร้ายซ้ำ เพราะเขาจะหาว่าเราสู้ ซึ่งเราก็กลัวมาก ไม่คิดสู้เขา แต่ได้ไปตรวจร่างกายที่สถาบันนิติเวชไว้อย่างละเอียด

น.ส.ชญาดา กล่าวอีกว่า ตนย้ายจากสาขาสุราษฎร์ธานี มาอยู่ส่วนกลางนาน 3 เดือน ได้รับมอบหมายให้ตรวจสอบงานภายใน โดยเริ่มตรวจสอบในปี 2558 และตรวจพบความไม่ชอบมาพากลในเดือนพ.ย.2558

อย่างไรก็ตามตนมองว่า เรื่องที่เกิดขึ้นสาเหตุมาจากการที่ตนออกมาเปิดเผยข้อมูลทุจริตการขอรับเงินชดเชยโครงการจำนำข้าว แทนที่ทางธนาคารจะหาตัวผู้กระทำความผิดและลงโทษ กลับยัดเยียดข้อหาว่าตนมีอาการป่วยทางจิต และให้ถูกออกจากงาน

ทั้งนี้ ก่อนหน้า น.ส.ชญาดา เคยมายื่นเรื่องกับ กสม. กรณีถูกเลิกจ้างโดยไม่เป็นธรรม กสม.พิจารณาและมีหนังสือชี้แจงกลับไปว่า เรื่องเลิกจ้างเป็นการบริหารงานภายในองค์กร หากเห็นว่าไม่เป็นธรรม ให้ใช้สิทธิตามกฎหมายในการฟ้องศาลแรงงาน จึงยุติเรื่องสอบ เพราะไม่เข้าข่ายอำนาจหน้าที่ กสม.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน