“ธนาธร” เชื่อศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีอำนาจยุบพรรค มากสุดมีอำนาจ แค่สั่งให้หยุดการกระทำ ย้ำ 7 พรรคฝ่ายค้านพร้อมสู้รัฐประหาร

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.ค. ที่ รร.แลงคาสเตอร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของนายณฐพร โตประยูร ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าพรรคอนาคตใหม่ และคณะกรรมการบริหารพรรค ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ว่า

ไกลที่สุดที่ศาลรัฐธรรมนูญจะทำได้คือศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้เราหยุดการกระทำดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจที่จะยุบพรรคภายใต้คำร้องนี้ จึงอยากเรียนไปยังพ่อแม่พี่น้องรวมถึงประชาชนที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ว่าขอให้ไว้วางใจได้ว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจนี้

นอกจากนี้ขอชี้แจงไปยังพี่น้องประชาชนอีกประเด็นหนึ่งว่าเมื่อมีคำร้องนี้เกิดขึ้น ทำให้ประชาชนเข้าใจไปว่าจะคำร้องนี้อาจนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ นั่นหมายความว่าประชาชนไม่มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และเห็นว่าเอะอะอะไรก็มีการยุบพรรค เอะอะก็ใช้กระบวนการยุติธรรมมาเล่นงานพรรคการเมืองที่มีจุดยืนต่อต้านการสืบทอดอำนาจเผด็จการ

ตนจึงอยากตั้งคำถามไปว่าเหตุใดประชาชนจำนวนมากจึงคิดอย่างนี้ และศาลยุติธรรมต่างๆ มีความยุติธรรมจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นคำร้อง ซึ่งหากมีการพิจารณานอกเหนือจากมาตรา 49 ก็คือเป็นการพิจารณาเกินเลยอำนาจไปแล้ว เพราะการร้องในมาตรา 49 ให้อำนาจศาลในการพิจารณา แต่ไม่ได้ให้อำนาจในการยุบพรรค

เมื่อถามว่าช่วงหนึ่งที่พูดบนเวทีเสวนาเรื่องทางออกในการแก้ปัญหาวิกฤตชาติว่า หากมีการรัฐประหารจริง สถานที่ที่จะนัดรวมกันคือรัฐสภา ทำให้คนอาจตีความได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เป็นการส่งสัญญาณแน่นอน แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคอนาคตใหม่และพรรคฝ่ายค้านอื่นๆ พร้อมที่จะต่อสู้กับการทำรัฐประหารหากมีขึ้นในอนาคต

โดยในช่วงหนึ่งของงานเสวนา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ตอบคำถาม ที่พิธีกรดำเนินรายการได้ถามไว้ว่า ฝ่ายค้านมองว่าจะมีการรัฐประหารอีกหรือไม่ และจะมีวิธีต่อต้านการรัฐประหารอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ก็มีคนอื่น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเพียงตัวแทนของระบอบอภิสิทธิ์ชนที่ควบคุมประชาชนอยู่ ก่อนหน้านี้ก็มี พล.อ.สนธิ

ตราบใดที่สังคมไทยสถาปนาความคิดความเชื่อว่าคนเท่ากันไม่ได้ ก็ไม่จบ การรัฐประหารจึงยังมีโอกาสเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญคือหัวใจของการครองอำนาจ ถ้าเดินหน้าแก้ไข มีความเสี่ยงจะมีการทำรัฐประหารอีกครั้ง แต่สถานที่ที่จะไปรวมตัวกันต้านรัฐประหารหากมีขึ้น จะไม่ใช่สนามหลวง อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่ขอให้ไปที่สภาผู้แทนราษฎร เพื่อยืนยันว่า อำนาจยังอยู่ที่สภาผู้แทนราษฎร

“สถาปนาฟื้นฟูความศักดิ์สิทธิจากอาชีพเดียวที่ประชาชนแต่งตั้ง ดึงความศักดิ์สิทธิ์ของส.ส.ออกมา แล้วแสดงสัญลักษณ์ใหม่ว่า รัฎฐาธิปัตย์ยังอยู่กับสภาผู้แทนราษฎร ถ้าเกิดการคัดง้าง พรรคฝ่ายค้านที่อยู่ตรงนี้จะร่วมต่อสู้กับประชาชน ครั้งนี้จะไม่เหมือนเดิม ก็ได้แต่หวังว่า กลุ่มอนุรักษ์นิยมหรืออภิสิทธิ์ชน จะมีสายตายาวพอ ฉลาดพอ ที่จะไม่ทำแบบนั้น ต้องรู้ว่าสังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลง การทำให้พรุ่งนี้ทุกวันเป็นเมื่อวานไม่ใช่ทางเลือก หวังว่าเขาจะไม่ทำ แต่ถ้าทำก็ต้องต่อสู้” หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กล่าว

เมื่อถามว่า มองท่าทีผู้นำเหล่าทัพที่ออกมาสนับสนุนรัฐบาล ช่วงที่จะมีการแถลงโนยบายอย่างไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า สมัยรัฐบาลสมชาย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กองทัพไม่ได้เป็นมือไม้ให้รัฐบาลสั่งการได้แต่อย่างใด ม็อบบุกยึดสถานที่สำคัญอย่างง่ายดาย ตัวบุคคลเหล่านั้น ก็ได้กลับมามีอำนาจ ราวกับได้รับการสนับสนุนจากทหารมา เมื่อมาเรือลำเดียวกันก็เป็นอย่างนั้น พวกเดียวกันก็ทำแบบนั้น

นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ปฏิรูปกองทัพ เขียนรัฐธรรมนูญกี่ฉบับก็โดนล้ม ภารกิจของการสร้างประชาธิปไตย ต้องรวมถึงการปฏิรูปกองทัพในระยะยาวด้วย


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน