เสวนาฝ่ายค้านพบประชาชน “สมพงษ์” ว่าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ฉะที่มา “ประยุทธ์” ไม่ถูกต้อง ปลุก 7 พรรคค้าน ผนึกกำลังแก้รัฐธรรมนูญ สู้ศัตรูร่วม

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 ก.ค. ที่ รร.แลงคาสเตอร์ มีการจัดเสวนา “ทางออกในการแก้ไขปัญหาวิกฤติของชาติ” โดย 7 พรรคฝ่ายค้านเพื่อประชาชน ครั้งที่ 1 ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย (พท.) พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) พรรคเพื่อชาติ (พช.) พรรคประชาชาติ (ปช.) พรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศก.) พรรคพลังปวงชนไทย และพรรคเสรีรวมไทย

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การปกครองด้วยเผด็จการทำให้ทุกอย่างเลวร้าย การขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจของพี่น้องประชาชนไม่สามารถทำได้โดยปกติ ผู้มีอำนาจตั้งตัวเองขึ้นเป็นนายกฯ ตั้งรัฐมนตรี ตั้งบุคคลร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชน ทำให้ประชาชนอ้าปากไม่ได้เลย เดือดร้อนอย่างมาก สิทธิมนุษยชนถูกลิดรอน ฝ่ายตรงข้ามทำอะไรก็ไม่ถูกไปหมด ถูกเรียกไปปรับทัศนคติ ถูกคุกคาม ถูกจับ ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ฝ่ายเดียวกันทำได้หมด

สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยผู้มีอำนาจเอารัฐธรรมนูญที่ร่างเอง กำหนดเองมาทำให้ประชาชนลำบาก ทั้งนี้ เมื่อมีการเลือกตั้งรัฐบาลปัจจุบันมีทั้งหมด 19 พรรค กว่าจะคุยแล้วตกลงให้ทุกอย่างเป็นไปในแนวเดียวกันก็ใช้เวลามาก มีความพยายามรวมรวมเสียงเพื่อขอตำแหน่ง พรรคที่มี 2-3 คนก็ต่อรองขอให้ตัวเองได้เป็นรัฐมนตรี ใช้เวลา 4 เดือน กว่าจะตั้งรัฐบาลได้ ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทำให้มีพรรคการเมืองมาก ฝ่ายค้านของเรามี 246 เสียงที่ยึดมั่นอุดมการณ์ร่วมกันมาตลอด

แม้จะไม่รู้วิธีคิดคำนวณ ส.ส.ก่อนประกาศผล เหมือนเป็นความพยายามปิดบังสิ่งหนึ่งสิ่งใดไม่ให้ประชาชนรู้ ขณะนี้อยู่ในภาวะจำยอมที่ให้เขากระทำมาตลอด เรา 7 พรรคมีความตั้งใจที่จะทำประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน แต่รัฐธรรมนูญเป็นปัญหาอย่างใหญ่หลวงที่ทำให้ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมมีปัญหา

ทั้งนี้ หากเจอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะบอกให้ท่านทราบว่าสิ่งที่ทำให้ท่านมาอยู่ตรงนี้ไม่ถูกครรลองคลองธรรม และไม่ถูกกฎหมาย ในสภาฯ อาจไม่มีการพูดเรื่องพวกนี้ แต่สิ่งที่ท่านทำการตั้งรัฐมนตรีท่านก็รู้อยู่แล้วว่าเหมาะสมหรือไม่ เหล่านี้ท่านต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามว่า หากจะมีการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องเป็นสุตรของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) แบบนี้จะเป็นทางออกของประเทศได้หรือไม่ นายสมพงษ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญที่ออกแบบมาเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ตามบทกฎหมาย เพราะต้องอาศัยเสียง 1 ใน 3 ของ ส.ว. จากการโหวตเลือกนายกฯก็ไม่เห็นมีสักคนที่โหวตไปอีกทาง ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญจึงต้องขึ้นอยู่กับมหาประชาชนทั้งประเทศ

ทั้งนี้ ตนติดตามการประชุมของพรรคฝ่ายค้านมา แนวทางของเรามีแนวทางที่มั่นคง เราแบ่งงานของเราออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ในสภา และการสื่อสารกับพี่น้องประชาชน เราคงต้องใช้วิทยายุทธ์ต่างๆ ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนเรื่องรัฐธรรมนูญ เราต้องเอาแนวความคิดของเรามาสานต่อแล้วสื่อสารไปยังประชาชน เพราะการจะไปยื่นญัตติในสภาคงเป็นไปไม่ได้ เรากับประชาชนจึงต้องช่วยกันเพื่อให้เกิดการแก้ไข ไม่เช่นนั้นก็จะจมปรักอยู่แบบนี้ตลอดไป 7 พรรคฝ่ายค้าน เราต้องผนึกกำลัง และรักใคร่สามัคคีกันเพื่อสู้ให้ได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญ ที่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชน เพราะวันนี้เรามีศัตรูคนเดียวกัน

เมื่อถามว่า จากนี้ไปฝ่ายค้านจะเคลื่อนไหวนอกสภามากขึ้นหรืออย่างไร นายสมพงษ์ กล่าวว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเรามีเจตจำนง และจะประสานงานกับพี่น้องประชาชน ส่วนประชาชนจะออกมาต่อต้านอย่างไรนั้น เราคงไม่ออกไปปลุกระดม แต่ให้ประชาชนเขามีความคิดความอ่านของเขาเอง น่าจะเอากระถางธูปมาตั้งไว้ 2 กระถาง แล้วเขียนติดไว้เลยว่าสนับสนุน กับไม่สนับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ แล้วลองมาสังเกตกันดูว่ากระถางธูปไหนมากกว่ากัน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน