ครป.เย้ยแรง! รัฐบาลประยุทธ์ ทุนต่ำกว่ามาตรฐาน รัฐมนตรีอื้อฉาวสุดในประวัติศาสตร์

วันที่ 21 ก.ค. ที่ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถ.ราชดำเนิน คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) เปิดเวทีอภิปราย “ข้อเสนอคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กับ รัฐบาลประยุทธ์ (2) โดยมีนายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ประธาน ครป.,นายศักดิ์ณรงค์ มงคล รองประธาน ครป.,นายกษิต ภิรมย์ ที่ปรึกษา ครป.,นายปรีดา เตียสุวรรณ์ ที่ปรึกษา ครป.,นายสาวิทย์ แก้วหวาน กรรมการ ครป.,นายเมธา มาสขาว เลขาธิการ ครป.

นายพิชาย กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอเรื่องการปฏิรูปการเมือง นั้น เห็นว่ารัฐบาลนี้มีต้นทุนการเมืองต่ำกว่ามาตรฐานสากล จำเป็นต้องยกระดับ เพื่อเพิ่มความชอบธรรมให้การบริหารบ้านเมือง

โดยชี้ถึงต้นตอของต้นทุนที่ต่ำของรัฐบาลว่าเกิดจาก รัฐบาลที่มาจากส.ว.ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพราะเสียงที่ได้รับการสนับสนุนจากสว.และส.ส.ที่มีเสียงปริ่มน้ำ เกินครึ่งมาเพียง 4-5 เสียงเท่านั้น ทำให้สะท้อนให้เห็นว่าเสถียรภาพรัฐบาลอาจมีปัญหาได้จากการบริหารประเทศ

ภาพลักษณ์ของครม.เองก็มีภาพลักษณ์ไม่ดี รมต.มีเรื่องอื้อฉาวมากที่สุดในประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เช่น ถูกป.ป.ช.สอบ เคยจำคุก เป็นภาพลักษณ์ที่เริ่มจากการติดลบ ถ้าไม่รีบแก้ไขก็จะติดลบไปเรื่อยๆ ดังนั้นต้องรีบปรับ 7-8 รมต. โดยเร็วเพื่อกู้ภาพลักษณ์

นายพิชาย กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการแย่งชิงตำแหน่งระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ในทุกขั้นตอน ของการตั้งครม. แม้กระทั่งตั้งเสร็จแล้ว รัฐมนตรีก็ยังแย่งงานกันอีก ดังนั้นรัฐบาลต้องเร่งเพิ่มต้นทุนให้ตัวเอง ไม่อย่างนั้นจะประสบชะตากรรมขึ้นได้ในอนาคตที่ไม่ไกลนัก

นายพิชาย กล่าวว่า พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลยังมีแนวโน้มไม่รักษาสัญญาประชาคมที่ให้ไว้ต่อประชาชน ทั้งพรรค พปชร. ปชป. ภท. เช่น เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท ลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะไม่ทำในนโยบายเร่งด่วน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าภายใต้สถานการณ์อย่างนี้รัฐบาลจะอยู่ถึง 1 ปีหรือไม่

องค์กรกลางลดปัญหาทุจริต

นายกษิต กล่าวว่า เรื่องการบริหารราชการแผ่นดินและธรรมาภิบาล นั้น รัฐบาลชุดนี้ต้องน้อมนำพระราชดำรัสของทั้ง ร.9,ร.10 มาปฏิบัติ และต้องทำงานตามที่ได้ถวายสัตย์ปฏิญาณไว้แล้ว นายกฯและครม.ทั้ง 35 คน จะต้องทำงานเป็นอื่นไม่ได้นอกจากรับใช้แผ่นดิน รับใชับัลลังก์ คนที่จะเป็นรมต.ต้องเคารพกฎหมาย และมีธรรมะในใจ เพราะเรื่องศีลธรรม จริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นสิ่งสำคัญ

นายกษิต กล่าวว่า นอกจากนี้ควรมีองค์กรกลางในการจัดซื้อจัดจ้างขึ้นมา คล้ายกับองค์การสหประชาชาติ เช่น หากต้องการเช่ารถก็ให้องค์กรกลางนั้นเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด แล้วแจกจ่ายรถไปให้ยังกระทรวงต่างๆ ไม่ให้แต่ละหน่วยงานดำเนินการจัดซื้อกันเอง เพื่อความโปร่งใส และที่สำคัญห้ามรัฐมนตรีเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างโดยเด็ดขาด

ที่สำคัญควรเปิดให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ซึ่งรวมไปถึงการจัดซื้ออาวุธด้วย ทั้งนี้เมื่อประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ พรรคการเมือง ปลัดกระทรวง จึงเป็นผู้รับใช้ ไม่ใช่เจ้านายของประชาชน

แก้รัฐธรรมนูญต้องเหมือนปี 40

นายสมชาย หอมละออ ที่ปรึกษาครป. กล่าวว่า สังคมไทยที่ผ่านมา ประชาธิปไตยบิดเบือน 5 ปี ภายใต้คสช.ประชาธิปไตยถูกบั่นทอน เปรียบกับคนก็เหมือนถูกทบตี ถูกกระทำให้เสียหาย โดยเฉพาะคำว่านิติรัฐ ที่ถูกบิดเบือนว่าเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ว่ากฎหมายนั้นจะผิดศีลธรรมก็ตาม เช่น กฎหมายเกี่ยวกับป่าไม้

นายสมชาย กล่าวว่า จะดูว่ารัฐบาลแก้ไขสิ่งที่ผิดของรัฐบาลที่ผ่านมาได้หรือไม่ เช่น การปลดปล่อยประชาธิปไตย เพราะไม่เช่นนั้นจุดจบของรัฐบาลชุดนี้คงไม่แตกต่างจากรัฐบาลที่ไม่ชอบธรรมหรือเป็นเผด็จการในอดีต

นายสมชาย กล่าวว่า แสดงความเป็นห่วงนักสิทธิมนุษยชน และนักกิจกรรมทางการเมือง นักต่อสู้เพื่อชนเผ่าพื้นเมือง ต่อสู้เพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ถูกทำร้าย ข่มขู่ คุกคาม และดำเนินคดีด้วยความไม่ชอบธรรม รวมถึงการขึ้นศาลทหาร ทั้งที่เขาเหล่านั้นเป็นนักปกป้องสิทธิทางการเมือง ดังนั้นต้องมีกลไกในการคุ้มครอง ปกป้อง คนเหล่านี้ โดยต้องยกเลิกกฎหมายที่คุกคามคนเหล่านี้ ซึ่งไม่สามารถถทำได้หากไม่ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

นายสมชาย กล่าวว่า ฝากบอกพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่ง ที่เสนอเรื่องแก้รธน. เข้าไปเป็นนโยบายรัฐบาล เพราะดูแล้วตนยังมีความไม่มั่นใจ ว่านโยบายนั้นจะทำได้อย่างจริงจังหรือไม่ เพราะสงสัยที่บอกว่าจะเริ่มภายใน 1 ปี แต่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ และจะแก้อะไร ตรงนี้ก็ต้องชัดเจน เพื่อให้เกิดกระบวนการจัดทำรธน.ฉบับใหม่ เช่นเดียวกับที่จัดทำในปี 40 คือรธน.ฉบับประชาชน โดยจะแก้มาตรา 256 คือกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน