ฝ่ายค้านรุมจวก ‘สุชาติ’ สั่งปิดประชุมทั้งที่ครบองค์ จี้ ส.ส.รัฐบาลอย่าขาด
ทำประเทศเสียประโยชน์

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่หอประชุมทีโอที ถนนแจ้งวัฒนะ ตัวแทนพรรคฝ่ายค้าน ประกอบด้วย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. นายจุลพันธ์ อรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพท. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย แถลงภายหลังนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธาน สั่งปิดการประชุมทันที ทั้งที่ญัตติที่เสนอยังถูกอภิปรายในสภาฯ ไม่ครบ

นายจิรายุ กล่าวว่า ส.ส.ฟากรัฐบาลควรเห็นว่าการเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำนั้นเป็นอย่างไร เพราะส่อให้เห็นถึงอนาคตของประเทศ รวมถึงการผ่านกฎหมายต่างๆ ว่าจะเห็นชอบในการพิจารณากันได้อย่างไร ทั้งนี้ สำหรับการตรวจสอบที่คราวก่อนนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ระบุว่าไม่ต้องเซ็นชื่อ แต่หากนั่งในที่ประชุมก็ถือว่าเป็นองค์ประชุม ขณะที่ในวันนี้นายสุชาติที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม กลับบอกว่าต้องเซ็นชื่อจึงจะถือว่าเป็นองค์ประชุม ซึ่งความเห็นของทั้งคู่มีความย้อนแย้งกัน

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ขอให้สภาฯ ทำให้เป็นบรรทัดฐาน เพราะขณะนี้สมาชิกปฏิบัติตัวไม่ถูก และขอให้ฝ่ายรัฐบาลอย่าขาดประชุมจนทำให้ต้องปิดประชุมสภาฯ เร็วแบบนี้อีก เพราะวันนี้ฝ่ายค้านเรามานั่งประชุมกันครบ วาระก็มีความสำคัญ เช่น การรายงานผลการปราบปรามยาเสพติด เมื่อเราจะใช้เวทีสภาฯ ในการอภิปราย ประธานกลับบอกว่าไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แล้วชิงปิดประชุม ทั้งที่ฝ่ายค้านก็ไปลงชื่อให้จนทำให้ครบองค์ประชุมที่จะสามารถประชุมต่อได้แล้ว ท่านจะเอายังไงกันแน่ จะเล่นเกมกันแบบนี้ใช่หรือไม่ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องจริงใจ ไม่ใช่ว่าไม่อยากประชุม แล้วอยู่ดีๆ ก็ไม่ลงชื่อหรือไม่มา หรือนึกอยากจะปิดประชุมก็ปิดประชุม เรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นในสภาฯ ยุคประชาธิปไตย

ด้านนายสุทิน กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้สมาชิกทุกคนงง ทั้งที่องค์ประชุมครบ เพราะฝ่ายค้าน 8 คนไปช่วยเซ็นชื่อให้จนครบ แต่เราก็เสียเวลาไปเปล่าๆ ถึง 6 ชั่วโมง ทำให้ไม่ได้อภิปรายถึง 2 วาระ เพราะประธานสั่งให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน ทั้งนี้ หากมีวาระต่อไปแล้วฝ่ายค้านไม่ให้ความร่วมมือ องค์ประชุมก็คงไม่พอ จึงขอฝ่ายรัฐบาลว่าอย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก

ขณะที่นายรังสิมันต์ กล่าวว่า สภาฯ แห่งนี้ไม่ใช่ของคนๆ เดียว แต่เป็นของทุกคน ดังนั้นประธานอาจจะมีอำนาจตามข้อบังคับ แต่การจะใช้อำนาจในลักษณะที่สื่อสารว่าสภาฯ เป็นของตัวท่านเอง แล้วจะใช้อำนาจไปในทิศทางใดก็ได้นั้น ตนคิดว่าการใช้อำนาจแบบนี้เป็นการทำลายผลประโยชน์ของประเทศชาติ ขณะที่ญัตติที่เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ มีความสำคัญ เช่น เรื่องอีอีซีที่มีคนที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ รวมถึงปัญหายาเสพติดที่ระบาดไปทั่วทุกหนแห่ง

“การที่ประธานสภาฯ ชิงปิดประชุมเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะมีวาระเริ่มต้นประมาณ 13.00 น. และมาจบที่ 15.00 น. ขออย่าให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก เพราะนอกจากจะเสียงบประมาณที่ใช้จัดประชุมแล้ว ยังเสียโอกาสที่จะได้แก้ไขปัญหาให้ประชาชนอีก” นายรังสิมันต์ กล่าว


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน