‘วันนอร์’แฉเบื้องหลัง–รัฐประหาร57

‘วันนอร์’แฉเบื้องหลัง–รัฐประหาร57 – หมายเหตุ : นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ อภิปรายในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 ก.ค. เน้นกล่าวถึงนโยบายรัฐบาลที่เลื่อนลอย ไม่ระบุเวลาดำเนินการ และความไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะยึดหลักประชาธิปไตยในการบริหารบ้านเมือง

ฉะนโยบายเลื่อนลอย

ได้อ่านนโยบายแล้วไม่มีอะไรเลย พูดได้ว่าเป็นนโยบายที่เลื่อนลอย ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ เขียนไปเรื่อยเปื่อย นายกฯ เป็นคนแถลงนโยบายก็มีความรู้สึกไม่อยากอ่าน อ่านข้ามไปมาเพราะ ไม่จูงใจให้อ่าน เพราะรู้ว่าที่เขียนทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ จะบรรลุวัตถุประสงค์ตรงไหนก็ยังไม่รู้เลย

ประการแรกจึงเห็นว่านโยบายนี้ไม่สามารถวัดในเชิงปริมาณและคุณภาพ ยากในการติดตามผลทั้งผู้ปฏิบัติและคนที่จะตรวจสอบโดยเฉพาะภาคประชาชน

2. นโยบายนี้ถึงแม้ว่าจะมีถึง 35 หน้า แต่ไม่เห็นว่าเป็นนโยบายที่มีวิสัยทัศน์ พูดง่ายๆ คือเป็นนโยบายที่หาวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนไม่ได้ เป็นนโยบายที่ยากเปลี่ยนแปลง ที่ประชาชน ผู้ประกอบการ นักลงทุนจะเชื่อมั่นและมาลงทุน เพราะไม่มีวิชั่นที่ชัดเจนว่าจะทำเมื่อไร จะเริ่มอย่างไร และจะวัดผลได้อย่างไร

3. เป็นนโยบายที่คนเขียนเก่ง ควรจะให้รางวัล เพราะเป็นนโยบายที่เขียนหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ นโยบายของรัฐบาลไม่ใช่ประกวดเรียงความ นโยบายของรัฐบาลซึ่งมีความรับผิดชอบต่อประชาชนนั้นไม่ควรจะเป็นการเลี่ยง คือทำก็ได้ พูดไว้ลอยๆ แต่เวลาทักท้วงก็อ้างไม่ได้บอกไว้ว่าจะทำเมื่อไร จะทำอย่างไร เป็นนโยบายที่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ

รัฐบาลที่จะมาแก้ปัญหาของประชาชนต้องมีความรับผิดชอบสูง กฎหมายรัฐธรรมนูญก็กำหนดไว้ หมวดจริยธรรมก็ชัดเจนว่าต้องมีความเป็นผู้นำรับผิดชอบสูง

นโยบายที่เป็นหลักทั้ง 12 ด้าน ไม่ได้บอกว่าจะทำเมื่อไรก็ ไม่ว่าอะไร แต่นโยบายเร่งด่วน 12 ข้อ ไม่ได้บอกว่าเร่งด่วนจะทำเมื่อไร คำว่าเร่งด่วนน่าจะทำภายใน 6 เดือน, 1 ปี หรือไม่เกิน 2 ปี

แต่ถ้านโยบายหลัก กรอบนโยบายเต็มที่คือ 4 ปี ดูแล้ว 4 ปีก็ยังยากที่จะจบ แต่นโยบายเร่งด่วนจริงๆ ไม่ได้บอกว่าจะจบเมื่อไร มองแล้วสิ้นหวังสำหรับคนยากคนจนและประชาชนทั่วไป

ไม่เชื่อคืนประชาธิปไตย

ขออภิปรายบางประเด็น บางข้อ เพื่อให้ประชาชนเห็นถึงความไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะทำได้จริงและทำได้สำเร็จ ยกตัวอย่างที่บอกว่าเพื่อให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ และเป้าหมายที่กำหนดไว้ในยุทธศาสตร์แห่งชาติ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ในช่วง 4 ปีของรัฐบาล จะยึดหลักการ 4 ประการ

ข้อ 2 นายกฯ บอกว่าจะยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คำว่ายึดมั่นต้องเป็นคนที่มีความศรัทธา ถ้าประธานรัฐสภาเขียนไว้ก็จะเชื่อเพราะไม่เคยปฏิวัติไม่เคยทำรัฐประหาร แต่คนที่เคยทำปฏิวัติซ้ำซาก อย่างน้อย 2 ครั้ง จะบอกว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร คนที่ยึดในระบอบประชาธิปไตยนั้นต้องเคารพต่อรัฐสภา ประชาชน และต้องยึดมั่นในรัฐธรรมนูญ

นายกฯ ซึ่งจะเป็นผู้นำรัฐบาลและแถลงนโยบาย เขียนได้อย่างไรว่ายึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เขียนได้เขียนดีและต้องเขียน แต่ส่วนตัวไม่เชื่อมั่นในตัวผู้ปฏิบัติ เพราะเขาทำปฏิวัติ รัฐประหาร ฉีกรัฐธรรมนูญ ความจริงในข้อกฎหมายฉีกรัฐธรรมนูญก็ผิดอย่างแรง เข้าข่ายกบฏอยู่แล้ว จึงไม่น่าเชื่อ

จึงยากที่จะเชื่อว่ายึดมั่นในประชาธิปไตยและจะทำได้สำเร็จ ถ้าแปลงคำพูดเป็นว่ายึดมั่นในระบอบเผด็จการประชาธิปไตย อย่างนี้พอเป็นไปได้

ที่ผมไม่เชื่อประการหนึ่งเพราะเมื่อยึดอำนาจแล้วไม่ใช่แค่ 6 เดือนหรือ 1 ปีคืนอำนาจ นักประชาธิปไตยจริงๆ ก็ต้องคืนอำนาจให้ประชาชนแต่ใช้เวลา 5 ปี โดยช่วงเวลา 5 ปี ก็ไม่มีความเป็นประชาธิปไตย ใครก็ทราบ

และให้ร่างรัฐธรรมนูญ คณะร่างฉบับแรกร่างอยู่เกือบ 2 ปีแต่ไม่ผ่าน นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ขณะนั้น พูดว่ารัฐธรรมนูญไม่ผ่าน เพราะว่านายกฯอยากอยู่ยาว และก็อยู่มาได้ 5 ปี

แฉวางแผนยึดอำนาจ

ความจริงมีบางเรื่องบังเอิญตนอยู่ในเหตุการณ์ยึดอำนาจเมื่อ วันที่ 22 พ.ค.2557 วันนั้น พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเมื่อตกลงกัน ไม่ได้ รัฐบาลไม่ลาออก ขอยึดอำนาจประเทศไทยตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ก็ไม่ติดใจประกาศได้ แต่ชี้หน้าพวกตนบอกว่า ใคร อย่าคิดสู้ผม ถึงสู้ก็สู้ไม่ได้ เข้าใจเพราะมีอาวุธ–รถถังเต็มไปหมด

แต่ประโยคสุดท้ายอยากจะถามนายกฯ ว่าจำได้หรือไม่ และหมายความว่าอย่างไร ที่บอกว่า ใครอย่าคิดสู้ผม ถึงสู้ก็สู้ไม่ได้ ผมเตรียมการเรื่องนี้มา 3 ปีกว่าแล้ว

ประโยคนี้สำคัญและข้องใจจนบัดนี้ แต่ไม่มีโอกาสได้ถาม ขอถามวันนี้ว่าเตรียมการมา 3 ปีกว่าหมายความว่าอย่างไร นับย้อนหลังไป 3 ปี ตั้งแต่ยังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลังรัฐบาลเลือกตั้งก็เตรียมการแล้ว แทบไม่น่าเชื่อและไม่คิดว่าจะได้ยินคำนี้

มีอะไรอีกบางประการที่ตรวจสอบแล้วว่าเป็นของจริง ได้เตรียมการอย่างละเอียดมาก การมาอ้างว่ายึดอำนาจเพราะบ้านเมืองวุ่นวายจึงมาแก้ปัญหา แต่ 3 ปี เตรียมการอะไร ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนยึดอำนาจนั้นเป็นการเตรียมการคิดมาเพื่อให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น ไม่อยากกล่าวหาแต่ไม่เชื่อ

เชื่อว่าไม่มีวันที่คนไม่เป็นประชาธิปไตยจะยื่นประชา ธิปไตยให้ประชาชน ไม่มีวันที่ประชาธิปไตยมาจากมือคนที่หัวใจไม่เป็นประชาธิปไตย เหมือนสุภาษิตไทยที่ว่า ไม่มีวันที่งาจะออกมาจากปากสุนัข

‘อุตตม’ไม่เหมาะเป็นขุนคลัง

เรื่องการพัฒนา การส่งเสริมการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การส่งเสริมให้นักการเมืองมีคุณภาพเป็นคนดีและมีคุณธรรม แต่ทำไมรัฐมนตรี รองนายกฯ พรรคการเมือง และผู้สนับสนุนของนายกฯที่บอกว่ามีคุณภาพจึงไปจัดสัมมนาในรีสอร์ตที่ทำผิดกฎหมายและถูกจับกุมมา 2 ครั้ง

อย่างนี้จะบอกว่าส่งเสริมให้นักการเมืองเป็นคนดี มีคุณภาพ มีคุณธรรมได้อย่างไร เมื่อตัวรัฐมนตรีไปกระทำการที่ขาดความเชื่อมั่น ผิดกฎหมาย นักการเมืองทำได้แล้วจะบอกว่าส่งเสริมนักการเมืองมีคุณภาพได้อย่างไร

รวมถึงรัฐมนตรีและนักการเมืองที่สนับสนุนท่านหลายคน ตอนนี้มีเสียงวิจารณ์มากว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้มีบางคนไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด บางคนบุกรุกป่า บางคนเปิดบ่อนเป็นนักเลงใหญ่โต สิ่งเหล่านี้พิสูจน์ไม่ได้ แต่ถ้าเขียนไว้ในนโยบายรัฐบาลต้องทำเป็นตัวอย่าง

นโยบายที่เกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจ และความสามารถในการแข่งขันของไทย เศรษฐกิจการเงินการคลังของไทย นโยบายที่เขียนไว้ในข้อ 5.1, 5.2 กำกับวินัยการเงินการคลังเคร่งครัด บทบาทและหน้าที่นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ทราบดีว่าเป็นเรื่องของรมว.คลัง

นายกฯ ที่ผ่านๆ มาเวลาเลือกตั้งรมว.คลัง ต้องดูว่ากำกับดูแลได้เคร่งครัดมากน้อยแค่ไหน เพราะไม่ได้ดูแลเงินของพรรคแต่ดูแลเงินของประเทศ ขณะที่รมว.คลัง ที่ได้รับแต่งตั้ง มีเสียงวิจารณ์ตลอดว่าไม่มีวินัยทางการเงิน ที่ผ่านมากำกับ ดูแลสถาบันการเงินซึ่งเล็กกว่ากระทรวงการคลังเยอะ คือธนาคารกรุงไทย แต่มีการอนุมัติเงินให้เกิดความเสียหาย ต่อประเทศและธนาคารเกือบหมื่นกว่าล้าน แล้วบอกไม่ผิด กันอย่างไร เพราะติดคุก 20 กว่าคน กรรมการธนาคาร 3 ใน 5 ติดคุก

และในข้อบังคับธนาคารจะอนุมัติไม่ได้ถ้าเงินเกิน 2 พันล้าน โดยที่มีกรรมการคนหนึ่งคัดค้าน นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เป็นคนหนึ่งที่อนุมัติ รายงานประชุมก็ชัดเจนว่า นั่งอยู่ บันทึกการประชุมก็ไม่ได้บอกว่าคัดค้าน จะให้เชื่อมั่นว่าจะมากำกับดูแลงบประมาณ 3 ล้านล้าน จะมีวินัยได้อย่างไร

สุดท้ายหลุดคดีมาได้ก็ไม่ว่าอะไรแต่มานั่งดูแลเงินประเทศ เงินของประชาชนและเงินของตนด้วยจึงไม่มั่นใจ ที่สำคัญ รมว.คลัง ต้องเซ็นลงนามในธนบัตร ซึ่งประชาชนต้องใช้กันทั้งประเทศ จึงไม่ควรให้รมว.คลังที่มีตำหนิ มีปัญหาไปเซ็นคู่กับพระบรมฉายาลักษณ์ ไม่อยากเห็นลายเซ็นของคนที่ไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับ

เสนอสลับเก้าอี้แรงงาน

ที่จริงนายกฯ มีอำนาจเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีได้ ไม่ได้บอกว่านายอุตตม ผิด แต่บอกว่าเขาไม่เหมาะสม นายกฯ ยังมีโอกาสเปลี่ยนตัว เพราะมีคนในรัฐบาลอีกหลายคนที่น่าจะเหมาะสมเป็นรมว.คลัง ซึ่งไม่ได้แนะนำแต่เสนอให้ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ซึ่งเคยเป็นผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ เซ็นในธนบัตรมาแล้ว แต่กลับไปตั้งให้อยู่กระทรวงแรงงาน

หากสลับมาเป็นรมว.คลังก็ได้ ไม่มีปัญหา โดยเอา ม.ร.ว. จัตุมงคล สลับมาเป็นรมว.คลัง เชื่อว่าจะสามารถรักษาวินัยทางการเงินการคลังได้ แล้วให้นายอุตตมไปอยู่กระทรวงแรงงาน ก็เหมาะสมดี

นอกจากนี้ การให้นายอุตตมเป็นรมว.คลัง ซึ่งดูเงินของ แผ่นดินและเงินของพรรคปะปนกัน คงไม่เป็นอย่างนั้นแต่ตนมีสิทธิ์สงสัย เพราะเป็นคนเสียภาษี เป็นเจ้าของประเทศ

นโยบายการปรับปรุงระบบที่ดิน ที่ทำกิน ลดเหลื่อมล้ำเรื่องการครอบครองที่ดิน จัดสรรที่ทำกิน–ที่อยู่อาศัยแก่ผู้ยากไร้และเกษตรกร ตามหลักเป็นนโยบายที่ดีแต่ไม่ได้บอกว่าจัดการอย่างไร ความเหลื่อมล้ำตอนนี้ยังมีสูงมาก คนเดียวครอบครองที่ดินหลายแสนหลายล้านไร่ แต่ชาวบ้านตาดำๆ ไม่รู้จะได้อย่างไร และคนที่ครอบครองที่ดินจำนวนมาก จะขึ้นภาษีได้อย่างไร และไม่รู้จะสำเร็จใน 4 ปีหรือไม่

นโยบายการรักษาความมั่นคงทางทรัพยากรแร่ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อพัฒนาประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แร่เรามีเยอะจัดสรรอย่างไรให้เป็นประโยชน์

นายกฯ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ยุติการทำเหมืองแร่ทองคำ จนทำให้บริษัทต่างชาติฟ้องร้องไทย ว่ากันว่ามีโอกาสแพ้สูง อาจมีการเสียค่าโง่หลายหมื่นล้าน

สมัยที่นายอุตตมอยู่กระทรวงอุตสาหกรรม ทำไมตอนนั้นไม่เร่งแก้ไขหรือแสดงความรับผิดชอบ หากใช้มาตรา 44 ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นายอุตตมก็เตรียมเงินใช้เขา แต่หากศาลรัฐธรรมนูญตีความว่านายกฯไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ท่านก็เตรียมเงินใช้เขา

กระทุ้งกระจายอำนาจ–แก้ไฟใต้

การกระจายอำนาจ เพิ่มบทบาทให้การปกครองท้องถิ่น และเอกชนในบริการสาธารณะ พูดกันมากในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง อย่างน้อย 3 พรรคที่ร่วมรัฐบาลบอกว่าสนับสนุน แต่ไม่มีการระบุชัดว่าจะกระจายอำนาจออย่างไร เรื่องงบประมาณก็มีปัญหาอยู่มาก รัฐบาลยังเอาเงินไปซื้ออาวุธ แต่ท้องถิ่นไม่มีเงิน

จึงอยากให้รัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคที่พูดเรื่องนี้ไว้มากต้องช่วยกันรับผิดชอบตรงนี้ การที่พรรคหาเสียงถือเป็นสัญญาประชาคม การกระจายอำนาจสำคัญที่สุดและน่าจะทำให้สำเร็จภายใน 2-3 ปี จึงอยากให้พรรคร่วมรัฐบาลร่วมติดตามให้เป็นวาระแห่งชาติ

ส่วนการแก้ปัญหายาเสพติดและปัญหาในชายแดนภาคใต้ ที่บอกว่าให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมและการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาในภาคใต้เท่านั้น ปัญหายา เสพติดไม่ใช่อยู่ที่รายใหญ่เท่านั้นแต่อยู่ที่รายย่อยตามตำบล

ขณะที่ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีส่วนเกี่ยวข้อง กับปัญหายาเสพติดอยู่บ้าง การรับสมัคร อส.ต้องไม่มีคนที่ ติดยาเสพติด ปรากฏว่าคนที่มาสมัครเป็นอส.นั้น ส่วนใหญ่ ติดยาเสพติด และพื้นที่ชายแดนใต้ยังมีเรื่องปัญหาความ ไม่ไว้วางใจ ทั้งที่มีการใช้กฎหมายมา 10 กว่าปี มีการใช้จ่ายประมาณไปจำนวนมาก

ส.ส.พรรคท่านก็เป็นทนายความให้กับผู้ต้องสงสัยในคดีความไม่สงบ รู้ดีว่ามีการใช้วิธีการนอกกฎหมาย เอาถุงดำมาทำให้ผู้ต้องสงสัยสารภาพ หรือการบังคับให้ถอดเสื้อแล้วนอนในห้องแอร์ อยากให้นายกฯ ไปตรวจสอบและแก้ไขเรื่องนี้