โรม สารภาพ! เจอ ‘บิ๊กตู่’ ครั้งแรกหยุดมองไม่ได้ รู้สึกแปลกๆ “พูดต่อหน้าไม่โดนจับ”
วันที่ 26 ก.ค. นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงโอกาสการขึ้นอภิปรายนโยบายรัฐบาล ต่อหน้าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นครั้งแรกว่า ตนบอกนายปิยบุตรว่า เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อที่วันหนึ่งตอนที่ตนเป็นนักศึกษานั้นไม่มีความรู้สึกอยากเป็นนักการเมืองเลย อยู่ๆได้มาเป็น ส.ส. แล้วต้องมาเจอกับคนที่ครั้งหนึ่งมีบทบาทหลักในการพาตนไปอยู่ในค่ายทหารและดำเนินคดีในศาลทหารจนวันนี้เป็นศาลยุติธรรม
ไม่คิดว่าจะมีโอกาสเจอหน้ากันแล้วได้พูดกันต่อหน้า มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายยาก จะว่าความฝันก็ไม่ใช่ ซึ่งตนก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
“ความรู้สึกที่เคยโดนจับ หรือ ถูกทำร้าย มันเหมือนเพิ่งเกิดขึ้น แต่อยู่ดีๆ ตอนนี้ผมก็มีโอกาสได้พูด แม้ว่าเนื้อหาที่พูดอาจจะเหมือนกับที่เคยพูดมาก่อน แต่ความแตกต่างคือ ก่อนหน้านี้ ผมถูกจับดำเนินคดี แต่ครั้งนี้ผมไม่โดนดำเนินคดีอีกแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์อยู่” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ตนมีโอกาสได้ดูวีดีโอตอนพูดในสภา และคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่านี้ นอกจากนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ เราโดนประท้วงตลอดเวลา ซึ่งตนอาจพูดเรื่องเสียดแทงรัฐบาล แต่อีกด้านซึ่งเป็นเทคนิคในสภาอย่างที่ ส.ส.ที่มีประสบการณ์ใช้ นั่นคือจะมีคนประท้วงเพื่อให้คนที่พูดอยู่ ถูกดึงความสนใจไป ดังนั้นตนคิดว่าปัจจัยหลังก็มีส่วนเช่นกัน จึงไม่พยายามตอบโต้ไม่ว่าจะโดนพูดพาดพิงประเด็นใดๆ เพราะตนพยายามโฟกัสกับประเด็นที่ต้องการพูดเท่านั้น
“ผมมองหน้าพล.อ.ประยุทธ์ ตลอดเวลา โดยมองไม่เห็นหน้ารัฐมนตรีคนอื่นเลย ที่ผมเห็นผมคิดว่า หน้าหน้าเขาไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร และบึ้งกว่าที่เคยเห็นในข่าว” รังสิมันต์ ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์รัฐสภาลงประวัตินายรังสิมันต์ โดยระบุว่า จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งมีประสบการณ์ที่สำคัญคือ
– คดีชุมนุมทางการเมืองต่อต้าน คสช. เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2558
– คดี 14 นักศึกษาชุมนุมต่อต้านรัฐประหาร เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2558
– คดีประชามติจากการรณรงค์ประชามติ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559
– คดีชุมนุมทางการเมืองจากรณรงค์ประชามติ เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2559
– คดีรณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2561
– คดีรณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561
– คดีไม่พิมพ์ลายนิ้วมือ ขัดคำสั่ง คมช. เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2561
– คดีรณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2561
– คดีรณรงค์ให้เกิดการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2561
– ถูกศาลทหารสั่งขัง 2 ครั้งในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ทั้งนี้คดีที่ปรากฏล้วนเกิดขึ้นในยุคคสช.ทั้งหมด
