นายกสมาคมทนาย ชี้ บิ๊กตู่ ถวายสัตย์ไม่ครบ เรื่องร้ายแรง อาจผิดกฎหมาย ม.112

นายกสมาคมทนาย – เมื่อวันที่ 3 ส.ค. นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สมาคมทนายความเเห่งประเทศไทย กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วน บางคำขาดหาย และมีเพิ่มเติมมาบางคำแทน ไม่ตรงกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 มาตรา 161

นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า ปัญหาที่ตามมา จึงเกิดการถกเถียงกันอย่างมากจากกระแสสังคมนักวิชาการและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องออกมาแสดงความกังวลว่า การถวายสัตย์ปฏิญาณดังกล่าวชอบด้วยกฎหมายและมีผลสมบูรณ์หรือไม่ และมีผลกระทบทางการเมืองทำให้คณะรัฐมนตรีเข้ารับทำหน้าที่โดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่

โดยหลักสากลและจารีตประเพณีในระบบประชาธิปไตยในอารยธรรมโลก การกล่าวคำสัตย์ปฏิญาณของผู้นำประเทศก่อนทำหน้าที่รัฐบาล มีความสำคัญเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ซึ่งทุกๆรัฐบาลจะต้องทำหน้าที่กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตามข้อกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด และถูกต้องทุกประการ ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นและเงื่อนไขบังคับก่อนที่จะเข้าทำหน้าที่รัฐบาล

“กรณี พล.อ.ประยุทธ์ ที่ถวายสัตย์ปฏิญาณโดยตัดถ้อยคำว่า “ทั้งจะรักษาไว้และปฎิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกประการ” ออกไป ถือเป็นสาระสำคัญในการที่นายกรัฐมนตรีไม่สามารถละทิ้ง ถ้อยคำสำคัญนี้ได้อย่างเด็ดขาด”

เพราะการปฏิญาณไม่ครบถ้อยคำที่บัญญัติไว้ จะมีผลกระทบทางการเมืองอย่างรุนแรง ถึงขนาดอาจทำให้รัฐบาลชุดนี้เป็นโมฆะ ไม่สามารถทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินได้ต่อไป ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญ และอาจนำไปสู่ข้อกล่าวหาร้ายแรงในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ มาตรา 157 ได้ เช่นกัน”

ทนายโบ้ กล่าวต่อว่า ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดระแวงไม่เชื่อถือต่อผู้นำและ คณะรัฐมนตรีชุดนี้ อีกทั้งจะเห็นได้ว่า จนถึงวันนี้ยังไม่มีผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาล โดยเฉพาะรองนายกฝ่ายกฎหมายออกมาชี้แจงในเรื่องนี้แต่อย่างใด ไม่ว่าจะเกิดด้วยความประมาทเลินเล่อ หรือเจตนาหรือไม่ ทางออกที่ดีที่สุดคือให้ผู้เกี่ยวข้องในรัฐบาล รีบออกมาชี้แจง เพื่อให้สังคมได้รับทราบถึงเหตุที่เกิดขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน