‘สรรเสริญ’แจง’กอร์ปศักดิ์’ พาณิชย์เตรียม 6 มาตรการแก้ราคาผลไม้ตกต่ำนานแล้ว

 

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. นายสรรเสริญ สมะลาภา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ว่าที่กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กวันที่ 9 ส.ค.เสนอแนะเชิงตำหนิกระทรวงพาณิชย์ถึงมาตรการทางการตลาดของผลไม้ โดยเสนอให้ไปรษณีย์ไทยส่งผลไม้ไปสาขาทั่วประเทศและวางขายหน้าสำนักงาน อีกทั้งยังกล่าวว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่ควรรอให้ถึงฤดูผลผลิตออกแล้วค่อยคิดแก้ว่า นายจุรินทร์ ได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผลไม้ไว้นานแล้ว และได้เป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ระหว่างภาครัฐและเอกชน 44 หน่วยงาน ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.2562 ก่อนที่นายกอร์ปศักดิ์แสดงความเห็นหลายวัน ซึ่งมาตรการนั้นครอบคลุมสิ่งที่เสนออยู่แล้ว และไปไกลกว่านั้นมาก คือ

1.พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ได้ส่งกล่องขนาดต่างๆ ให้กับเกษตรกรเพื่อบรรจุผลไม้ไว้จำหน่าย และสนับสนุนค่าขนส่งตั้งแต่แหล่งผลิตและจุดรวบรวม ไปยังจุดจำหน่าย 2.จัดหาช่องทางจำหน่ายให้กับเกษตรกร ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ร้านธงฟ้าประชารัฐ ตลาดต้องชม สมาคมภัตตาคารไทย สมาคมโรงแรมไทย สถานบริการน้ำมัน เช่น ปตท. ที่รับซื้อผลไม้เพื่อนำไปวางจำหน่ายใน 1,800 สาขา บางจาก และพีที ที่รับซื้อผลไม้จากกลุ่มสหกรณ์เพื่อไปวางจำหน่ายในกว่า 1,750 สาขา เป็นต้น

3.ช่วยเหลือด้านน้ำหนักสำหรับผู้โดยสารเครื่องบินที่ต้องการขนผลไม้ โดยไม่คิดค่าบริการเพิ่ม โดยสายการบินไทยสไมล์ นกแอร์ แอร์เอเชีย และบางกอกแอร์เวย์ส ขณะที่ท่าอากาศยาน 28 แห่งทั่วประเทศจะสนับสนุนกล่องที่จะบรรจุผลไม้ 4.ผลักดันการส่งออก โดยให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการล้งไทยที่ต้องการส่งผลไม้ไปต่างประเทศ ถ้ากู้เงินจากสถาบันการเงิน จะช่วยเหลือด้านภาระดอกเบี้ยอัตรา 3%

5.จัดกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจเพื่อจำหน่ายผลไม้ โดยมีเป้าหมายขยายตลาดใหม่ไปอินเดียและตะวันออกกลาง ภายหลังที่ประสบความสำเร็จจากการซื้อขายร่วมกับจีน และ6.เร่งการวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ โดยเฉพาะทุเรียนเพื่อป้องกันกลิ่นให้สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ และเพื่อถนอมอาหาร ลดความสูญเสีย ซึ่งถือเป็นการยกระดับมาตรฐานการจัดการผลไม้ อีกทั้งจัดทำมาตรฐานการจัดการของศูนย์คัดแยกคุณภาพ เช่น มาตรฐานคุณภาพ การคัดแยกคุณภาพ การบรรจุภัณฑ์ และการตรวจสอบสารพิษตกค้าง เป็นต้น โดยมีระบบการขึ้นทะเบียนเกษตรกรและผู้ค้าที่เข้ามาใช้บริการ เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับแหล่งผลิตคุณภาพและศึกษาช่องทางการตลาด พฤติกรรมการบริโภค และจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทยในต่างประเทศ

นอกจากเอ็มโอยู 6 ข้อแล้ว ยังได้ส่งเสริมการขายมังคุดภาคใต้ผ่านตลาดออนไลน์ ซึ่งบริษัทไปรษณีย์ไทยจะเป็นผู้จัดส่งแบบ Door to Door โดยไม่คิดค่าบริการจัดส่ง ส่วนด้านการส่งเสริมการบริโภค ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชน วางแผนให้มีการจัดกิจกรรมรณรงค์การบริโภคผลไม้ภาคใต้ และกิจกรรมรณรงค์บริโภคสินค้า ณ หัวเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว 4 แห่ง ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี สงขลา รวมถึงการนำผลไม้ไทยไปโรดโชว์ยังต่างประเทศ

มาตรการดังกล่าวเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อบริหารด้านการตลาดให้แก่เกษตรกรชาวสวนผลไม้ ที่จะออกผลผลิตในช่วงปลายปี 2562 เพื่อกระจายผลผลิต 20,000 ตันจากแหล่งผลิตไปจำหน่ายช่องทางต่างๆ มั่นใจว่าจะสามารถจัดการและดูแลราคาผลไม้ให้มีเสถียรภาพขึ้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นได้แน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน