7 พรรคฝ่ายค้าน ยื่นญัตติซักฟอก บิ๊กตู่ ปมถวายสัตย์ -บริหารงานบกพร่อง ส่อผิดกฎหมาย ต่อประธานสภา 16 ส.ค.นี้

7 พรรคฝ่ายค้าน – วันที่ 15 ส.ค. เวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา แกนนำ 7 พรรคฝ่ายค้าน นำโดย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ และ นายสุทิน คลังแสง วิปฝ่ายค้าน ร่วมแถลงถึงการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ขอเปิดอภิปรายโดยไม่ลงมติ กรณีการถวายสัตย์ปฏิญาณของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม

น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจเข้าใจเอาเองว่าเรื่องการถวายสัตย์ฯ ที่ไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161 นั้น มีผู้ไปร้องและเรื่องเข้าสู่กระบวนการของผู้ตรวจการแผ่นดินไปแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมาชี้แจงสภา ซึ่งเข้าใจผิดอย่างมาก สะท้อนว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังขาดความรู้ความเข้าใจในระบบรัฐสภาที่มาจากประชาชน เพราะการตั้งกระทู้ถามคือ คำถามที่ส.ส.ถามต่อนายกฯ หรือรัฐมนตรี เพื่อขอให้ตอบในประเด็นการบริหารงานของรัฐบาล หรือเรื่องสำคัญใดๆ ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน หรือกระทบประโยชน์ของประเทศ ประชาชน หรือเป็นเรื่องเร่งด่วน

ดังนั้น การตั้งกระทู้ถามนายกฯ ในครั้งนี้ เนื่องจากนายกฯ กระทำการบกพร่อง ผิดพลาดและอาจผิดกฎหมาย ส่งผลให้การดำรงอยู่ของครม.สุ่มเสี่ยงเป็นโมฆะ จึงเป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องรีบมาชี้แจงต่อสภาอย่างเร่งด่วน ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยแบบนี้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวยืนยันว่า ฝ่ายค้านไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะใช้เรื่องถวายสัตย์ฯไม่ครบถ้วน มาเป็นเครื่องมือโจมตีนายกฯ และรัฐบาลตามที่นายกฯกล่าวหา แต่เรื่องนี้เป็นหน้าที่ฝ่ายค้านต้องตรวจสอบ หากไม่ดำเนินการฝ่ายค้านก็ต้องถูกดำเนินการในข้อหาละเว้นเช่นกัน ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจอำนาจหน้าที่ของตนเอง และให้เกียรติการทำงานของแต่ละฝ่าย

จากนี้หวังว่าฝ่ายค้านจะไม่ได้ยินนายกฯ ปฏิเสธความรับผิดชอบต่อสภาเช่นนี้อีก หากยังอ้างว่าเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบในช่องทางอื่นๆ ไปแล้ว และไม่ข้าสู่การตรวจสอบของสภา ฝ่ายค้านจำเป็นต้องใช้อำนาจสภาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 เพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ซักถามข้อเท็จจริงจากนายกฯ และจะไม่มีแค่ประเด็นกระทำความผิดตามรัฐธรรมนูญเรื่องถวายสัตย์ฯเท่านั้น แต่จะมีประเด็นบกพร่อง ผิดพลาดและอาจผิดกฎหมายอื่นๆ อีกด้วย

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ กล่าวว่า กรณีนายกฯ เป็นเรื่องบุคคล เข้าข่ายมาตรา 231 (2) ที่ว่ากฎคำสั่งหรือการกระทำอื่นใดของหน่วยงานของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย ให้เสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครอง และให้ศาลปกครองพิจารณาวินิจฉัยโดยไม่ชักช้า ทั้งนี้ เรื่องอาจใช้เวลานานพอสมควร ดังนั้น จะพิจารณาอะไรไม่ได้เลย ไม่ว่ากฎหมายหรือพ.ร.บ.งบประมาณฯ เราจึงคิดว่าควรใช้มาตรา 152 เพื่อช่วยหาทางออกให้รัฐบาลและนายกฯ

นายสุทิน คลังแสง กล่าวว่า วันที่ 16 ส.ค. พรรคฝ่ายค้านจะยื่นญัตติต่อประธานสภาในเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา หวังว่าประธานสภาจะบรรจุญัตติดังกล่าวโดยเร็ว ถ้าเป็นไปได้ควรบรรจุญัตตินี้ต่อจากการพิจารณาข้อบังคับการประชุมสภา เพื่อให้มีการอภิปรายก่อนพ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2563 จะเข้าที่ประชุมสภา

พล.ท.พงศกร รอดชมภู กล่าวว่า เราจะตั้งกระทู้ถามสดนายกฯ อีกครั้ง เป็นครั้งที่ 3 เราหวังว่านายกฯจะมาตอบกระทู้ในสภา รวมถึงเราจะตั้งกระทู้ถามถึงการแถลงนโยบายที่ไม่ได้ระบุแหล่งที่มารายได้และจำนวนงบประมาณด้วย เพราะฝ่ายค้านอยากได้รัฐบาลที่สง่างาม

นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และว่าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภา กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญว่า เพื่อประโยชน์แห่งข้อเท็จจริง ฝ่ายรัฐบาลก็ได้ประโยชน์เพราะจะได้ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจชัดเจน ตนเห็นว่าประเด็นการถวายสัตย์ฯ ของนายกฯ เป็นเรื่องสำคัญ ไม่แตกต่างจากความเดือดร้อนของประชาชนเรื่องอื่นๆ หากข้อกังขาในการทำผิดรัฐธรรมนูญยังอยู่ ประชาชนยังไม่ได้รับความกระจ่างก็ถือว่าเป็นความเดือดร้อนเหมือนกัน หากผิดรัฐธรรมนูญจริง สิ่งต่างๆที่รัฐบาลดำเนินการไปก็จะยุ่งยากวุ่นวาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

เมื่อถามว่านายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุเรื่องการถวายสัตย์ฯ น่าจะจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายสมพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่รู้ เพราะนายวิษณุ พูดอยู่เรื่อยๆ หลายครั้งก็ขัดกันเองบ้าง ซึ่งนายวิษณุ คงต้องไปปรับเหมือนกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน