เพื่อไทย ถาม “รัฐบาล” ขอประชุมสภาลับ “ปมถวายสัตย์ฯ” กลัวอะไร? ชี้ ไม่มีเหตุผลพอ

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายสามารถ แก้วมีชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ที่รัฐบาลระบุสามารถขอเปิดประชุมลับได้ว่า ตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมสภา สมาชิกหรือรัฐมนตรีสามารถร้องขอให้เปิดเป็นประชุมลับได้

แต่การประชุมลับนั้นจะเป็นเรื่องของความมั่นคงของประเทศ หรือกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือเรื่องอื่นเรื่องใดที่กระทบกับความมั่นคงทั้งของชาติ หรือของสถาบันหลัก แต่การยื่นญัตติตามมาตรา 152 เรื่องการถวายสัตย์ฯ ไม่ครบถ้วน รวมถึงเรื่องการแถลงนโนยบายที่ไม่พูดที่มาของงบประมาณตามที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญนั้น ถือเป็นการกระทำที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญมาตรา 5

ฝ่ายค้านจึงอยากซักถามถึงสิ่งเหล่านี้ และอาจมีข้อเสนอแนะที่เหมาะสม ก็ต้องดูว่าเรื่องเหล่านี้กระทบความมั่นคงอะไรหรือไม่ แต่ส่วนตัวมองว่าการไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญของนายกฯ และครม. ไม่ได้เกี่ยวหรือกระทบกับความมั่นคงตรงไหน ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะขอประชุมลับ หรือความมั่นคงที่รัฐบาลกลัวจะกระทบนั้น เป็นความมั่นคงของรัฐบาล

ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปนายกฯโดยไม่ลงมติของพรรคร่วมฝ่ายค้านตามมาตรา 152 ว่า แม้ฝ่ายรัฐบาลจะสามารถเสนอให้มีการประชุมลับตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ได้ แต่ไม่อยากให้รัฐบาลวิตกจริต ตีตนไปก่อนไข้ การอภิปรายทั่วไปเป็นการทำหน้าที่ตรวจสอบของพรรคฝ่ายค้านตามวิถีประชาธิปไตย และมีบทบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับนี้

ในส่วนของผู้อภิปรายก็ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงอยู่แล้ว การเคารพสภาฯ คือการเคารพประชาชน หากประชุมลับจะทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร ที่ผ่านมามีแต่ลูกหาบออกมาการันตีว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม พร้อมมาตอบคำถามในสภาฯ

แต่ตัวพล.อ.ประยุทธ์เอง จนบัดนี้ยังไม่เคยยืนยันชัดๆ ว่าจะกล้าเข้ามาตอบหรือไม่ พอกลัวสภาฯ กลัวการตรวจสอบก็บิดเบือนว่าฝ่ายค้านเอาเวลาไปแก้ปัญหาปากท้องดีกว่า ทั้งที่คนที่ต้องแก้หลักคือรัฐบาล ได้ทำหน้าที่ของตัวเองครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ คำถามมีเพียง 2 ประเด็นคือ พล.อ.ประยุทธ์ถวายสัตย์ครบหรือไม่ และแจ้งที่มารายได้ครบหรือไม่ ความกลัวทำให้เสื่อม อย่าปากกล้าขาสั่น ถ้ามั่นใจก็เพียงแค่เข้ามาตอบคำถามนี้ในสภาฯ เท่านั้นเอง

“พอเข้าตาจนก็บอกว่าฝ่ายค้านเอาเวลาไปแก้ไขปัญหาปากท้องให้ประชาชนดีกว่ามาตรวจสอบรัฐบาล ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยและพรรคฝ่ายค้าน ทำหน้าที่ทั้ง 2 ด้านควบคู่กันมาโดยตลอด แต่เวลาเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจที่กระทบต่อประชาชน รัฐบาลเคยรับเอาไปดำเนินการแก้ไขหรือไม่” นายอนุสรณ์ กล่าว


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน