ไพบูลย์ สมัครสมาชิก พปชร.แล้ว เข้าประชุมพรรคพรุ่งนี้ 15.00 น. ยื่น “ชวน” แก้ทะเบียนส.ส.บวกอีกหนึ่งเสียงเป็น 117 ลั่นวันที่ 18 ก.ย. จะอภิปรายในนามพลังประชารัฐด้วย

พลังประชารัฐ – เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 9 ก.ย. ที่รัฐสภา นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป(ปชช.) แถลงว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนไปยื่นเอกสารสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต่อนายทะเบียนพรรค พร้อมชำระค่าสมัครสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ 2,000 บาท โดยได้รับใบเสร็จรับเงินจากพรรคและมีชื่อในทะเบียนของพรรคแล้ว มีผลเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐโดยสมบูรณ์

พร้อมกันนี้ยังยื่นหนังสือต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนฯ ผ่านเจ้าหน้าที่เพื่อแจ้งถึงการเปลี่ยนแปลงพรรคสังกัด โดยยื่นเอกสาร 4 รายการ ได้แก่ 1.สำเนาประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรค 2.สำเนาหนังสือรับรองการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ 3.สำเนาใบเสร็จค่าสมัคร และ 4.สำเนาใบสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ

นายไพบูลย์ กล่าวว่า การยื่นหนังสือต่อประธานสภา เพื่อให้สภาแก้ไขข้อมูลในทะเบียนส.ส. เปลี่ยนเป็นสังกัดพรรคพลังประชารัฐ และเปลี่ยนแปลงเพิ่มจำนวนส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐจากเดิม 116 คนเป็น 117 คน เพื่อประโยชน์ในการคำนวณสัดส่วนส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐในสภาต่อไป โดยวันที่ 10 ก.ย.นี้ ตนจะเข้าประชุมพรรคครั้งแรก และวันที่ 18 ก.ย.จะร่วมอภิปรายในนามส.ส.พรรคพลังประชารัฐด้วย เนื่องจากได้ดำเนินการตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้ เชื่อว่าคนที่เลือกและลงคะแนนให้กับพรรคประชาชนปฏิรูปส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการดำเนินการของตน เพราะทำตามขั้นตอนของกฎหมาย ส่วนคนที่ไม่เห็นด้วยน่าจะเป็นคนที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับพรรคประชาชนปฏิรูป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

เมื่อถามว่าขณะนี้มีทั้งนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย และ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) เตรียมยื่นให้ กกต.ตรวจสอบ จะมีผลให้สภาชะลอการเปลี่ยนทะเบียนจำนวนส.ส.ของพปชร.หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ไม่น่าจะมีผล เพราะ ปชช.ดำเนินการตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองโดยสมบูรณ์แล้ว ส่วนการดำเนินการของนายเรืองไกรและนายศรีสุวรรณ เป็นคนละขั้นตอนไม่เกี่ยวข้องกัน จึงคิดว่าจะไม่มีผลกระทบ

ต่อข้อถามว่าที่ผ่านมามีการฟ้องร้องกับบุคคลที่ไม่เห็นด้วยกับการยุบปชช. เข้าข่ายใช้กฎหมายปิดปากหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ถ้าจะใช้กฎหมายปิดปากจริง คงฟ้องร้องดำเนินคดีกับทุกคนที่แสดงความคิดเห็นแล้ว แต่มีหลายคนที่แสดงความคิดเห็นนอกกรอบกฎหมาย จึงจำเป็นต้องใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อให้เป็นบรรทัดฐาน ส่วนบุคคลอื่นหรือการเสนอข่าวของสื่อ ตนก็ไม่ได้ฟ้องร้องเพราะการแสดงความคิดเห็นเป็นสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน