เมื่อเวลา 20.15 น. วันที่ 7 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน” ตอนหนึ่งว่า สำหรับมาตรการเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนที่ตนในฐานะหัวหน้าคสช. ได้ออกคำสั่งตามมาตรา 44 และเป็นประเด็นในสังคมอยู่ในเวลานี้ เป็นเพียงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย ที่มีอยู่เดิม โดยมุ่งหวังลดอุบัติเหตุ, ลดความเศร้าโศกจากการสูญเสีย และลดเรื่องสะเทือนใจในห้วงเวลาแห่งความสุข จากการเสนอข่าวที่คอยแต่นับตัวเลขอุบัติเหตุ คนเจ็บ คนตาย แต่ไม่เตือนให้ทุกคนเคารพกฎหมาย สร้างความตระหนักรู้ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะไม่มีอะไรดีไปกว่า การแก้ที่ต้นเหตุคือการป้องกันตนเอง การรับผิดชอบต่อผู้อื่น ผู้ร่วมทางและการมีจิตสำนึก จิตสาธารณะ หากไม่ทำแบบนี้ เราจะมีความสุขได้อย่างไร

นายกฯ กล่าวว่า ทุกคนทราบดี ทุกเทศกาลวันหยุดยาว เราจะได้พบเห็นอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นจำนวนมาก สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ญาติ พ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน โดยเฉพาะอุบัติเหตุใหญ่ๆ ที่ต้องมีคนเจ็บคนตายจำนวนมาก ไม่ว่าจะรถบัส รถตู้ รถกระบะที่มีคนนั่งท้าย พวกเมาแล้วขับ สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น พวกที่บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเพราะไม่คาดเข็มขัดนิรภัย พวกขับรถเร็วเกินไป คึกคะนอง และอีกมากมาย ทำไมเราต้องปล่อยให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า

 

นายกฯ กล่าวว่า ตนเข้าใจดี ประชาชนจะต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือไปเที่ยวตามที่ต่างๆ รวมถึงการฉลองเทศกาลสงกรานต์ คนจำนวนมากที่เดินทางโดยรถไฟ รถบัสโดยสาร รถตู้ และ เดินทางด้วยรถส่วนตัว รถปิคอัพ นั่งท้ายบ้าง ไม่นั่งบ้าง หากจะให้ไปนั่งรถทัวร์ หรือรถโดยสารก็ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือตั๋วเต็ม หาไม่ได้ ก็ไม่ได้กลับบ้าน จริงๆ แล้ว ถ้าทุกคนเคารพกฎหมาย กฎจราจร ซึ่งมีบังคับใช้ตามปกติอยู่แล้ว การบาดเจ็บสูญเสียก็จะไม่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะรถอะไร หากทุกคนระมัดระวัง คิดถึงผู้อื่น จะรู้ได้เองว่า ควรจะป้องกันได้อย่างไร อย่าหวังพึ่งกฎหมายอย่างเดียว เจ้าหน้าที่ทำงานหนักอยู่แล้ว
นายกฯ กล่าวว่า ด้วยความเข้าอกเข้าใจประชาชน ตนเข้าใจดี หากบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่ก็จะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนมากเกินไป เจ้าหน้าที่ก็อะลุ่มอล่วยให้ ในบางส่วนดังที่ตำรวจได้ชี้แจงไปแล้ว เช่น เพื่อสร้างวินัยการจราจรที่ถูกต้อง ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารที่นั่งเบาะหน้าทั้งรถส่วนบุคคล และรถแท็กซี่จะต้องคาดเข็มขัดนิรภัยตามกฎหมาย แต่จะอนุโลมผู้ที่นั่งเบาะหลัง หรือที่ยังไม่มีเข็มขัดนิรภัย ส่วนรถโดยสารสาธารณะ รถแท็กซี่ รถตู้ รถบัส ต้องคาดเข็มขัดทุกที่นั่ง และรถกระบะ อนุโลมให้นั่งท้ายกระบะได้ไม่เกิน 6 คน แต่ห้ามนั่งบนขอบ หรือ ท้ายกระบะ ซึ่งกฎหมายเหล่านี้ มีอยู่แล้วในอดีต แต่บังคับใช้ไม่ได้มาเป็นเวลานาน ค่อยๆ แก้ไขกันทั้งตัวเอง เจ้าหน้าที่ และรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน