‘คารม’ ซัด ‘ประยุทธ์’ เป็นโรคไม่สนใจใคร พูดซ้ำเติมคนน้ำท่วม
หลังบอกชาวบ้านชอบอยู่บนถนน

เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวกับคนไทยที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาว่า ทางรัฐบาลจัดห้องแอร์ให้ประชาชนที่เดือดร้อนจากน้ำท่วม ที่จ.อุบลราชธานี แต่ชาวบ้านไม่ยอมไปอยู่ ชอบอยู่บนถนน เพราะมีคนมาเยี่ยมเยอะ โดยทิ้งท้ายว่า ‘นี่แหละคนไทย’

นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนเป็นคนให้ความเป็นธรรมเวลาวิจารณ์รัฐบาล แต่เมื่อครั้งก่อน พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดเชิงตำหนิส.ส.พรรคเพื่อไทยที่ไม่มาต้อนรับเมื่อท่านลงพื้นที่ ส่วนกรณีนี้นายกฯ ก็ไม่ควรจะพูดถึงชาวบ้านแบบนี้ ท่านต้องรู้ว่าปัญหาน้ำท่วมในปีนี้ถือว่าหนักมาก โดยเฉพาะ จ.อุบลราชธานี คงไม่มีนายกฯ คนไหนที่จะมาบอกว่าประชาชนไม่ยอมอยู่ในห้องแอร์

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

นายคารม กล่าวต่อว่า ตอนที่ตนได้ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เจ้าหน้าที่จัดพื้นที่ให้ชาวบ้านไปอยู่ใกล้กับค่ายทหาร ซึ่งอยู่ห่างไกลจากบ้านของตัวเอง โดยธรรมชาติของคนอีสานจะไม่อยากห่างไกลบ้าน เพราะห่วงข้าวของ ดังนั้นเวลาน้ำท่วมชาวบ้านจึงมักจะไปสร้างเพิงพักอยู่บนถนน การที่พล.อ.ประยุทธ์พูดว่า คนไทยเป็นแบบนั้นแบบนี้ คนเป็นผู้นำของประเทศมองอย่างนี้ไม่ได้ แต่ควรจะพูดในเชิงว่าปัญหานี้เป็นภัยธรรมชาติและต้องเห็นใจความเดือดร้อนของประชาชน แสดงออกที่จะช่วยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่

นายคารม กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนยังไม่เคยเห็นความจริงจังในการช่วยคนอีสานของ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่มีสิทธิ์จะได้รับความช่วยเหลือเหมือนคนไทยทุกคนและทุกภาค การที่ท่านพูดแบบนี้อาจทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นการเลือกปฏิบัติกับคนอีสาน ลักษณะการพูดของท่านเหมือนคนเป็น ‘โรคไม่สนใจใคร’ เหมือนที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่พูดในสภาฯ เพราะอยู่ในสภาก็ไม่เคยแคร์ใคร นึกจะพูดอะไรก็พูด ไม่สนว่าคนอื่นจะเข้าใจหรือไม่

นายคารม กล่าวอีกว่า พอมาถึงเรื่องน้ำท่วมก็พูดกับประชาชนโดยไม่สนใจคนที่เดือดร้อนอยู่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ สามารถพูดดีกว่านี้ได้ เมื่อตอนที่ได้เงินมาจากการรับบริจาคจากการรับโทรศัพท์ นายกฯ ก็ออกมาพูดว่า การนำเงินส่วนนี้ออกมาใช้จะต้องมีระบบการเบิกจ่ายที่ล่าช้า นี่ถือว่าเป็นการพูดทำลายน้ำใจมาก

“ไม่ได้กล่าวหาว่าการนำเงินมาใช้จะต้องไม่ทำตามระเบียบ แต่เมื่อย้อนกลับไปดูเมื่อตอนที่ท่านมีอำนาจตามมาตรา 44 ในบางเรื่องคุณใช้ได้แบบรวดเร็วมาก ตอนนั้นทำไมถึงทำได้ ทำไมการงดเว้นระเบียบบางอย่างเพื่อคนที่ประสบภัยถึงทำไม่ได้ บางครั้งเหตุการณ์ที่เป็นภัยพิบัติรัฐบาลสามารถออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ได้ วิธีคิดแบบนี้ไม่สามารถเป็นผู้นำประเทศได้ หากเกิดภัยสงครามหรือภัยเร่งด่วนกับประชาชน คุณจะปกป้องใครไม่ได้เลย”

นายคารม กล่าวว่า หน่วยราชการต้องรับผิดชอบกับความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะการที่ไม่พร่องน้ำที่อยู่ในเขื่อนปากมูลออกมา และไม่มีคำเตือนต่อประชาชนด้วย เมื่อตอนที่น้ำท่วม จ.ร้อยเอ็ด ทำไมไม่บอกให้ประชาชนที่ จ.อุบลราชธานีเตรียมตัว ถือเป็นความล้มเหลวของระบบการเตือนภัยของกระทรวงมหาดไทย

“คนอีสานเป็นคนที่อยู่ง่ายกินง่าย ภาพที่ปรากฏออกมาก็คือเป็นของจริง รัฐบาลมาดูผู้ประสบภัยก็เหมือนกับมาทัศนศึกษา เพราะไม่มีความจริงใจในการช่วยแก้ปัญหา หากเปิดสภาในสมัยหน้า พรรคอนาคตใหม่จะขอตั้งกระทู้หรือยื่นญัตติถามรัฐบาลในเรื่องนี้ด้วย”

“ผมเสียใจกับคำพูด พล.อ.ประยุทธ์หลายครั้ง เคยคิดว่าท่านจะมีจิตสำนึก แต่สุดท้ายก็เป็นโรคไม่สนใจใคร มี ‘My Way’ อยู่ในสภาเวลาพูดเสร็จอารมณ์เสียอารมณ์เสีย พออารมณ์ดีก็มา ‘สวัสดีครับ ผมรักทุกคน’ นายกฯ จะเป็นแบบนี้ไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรับฟังคนที่ตำหนิท่าน และพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วย” นายคารมกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน