รองโฆษกฯ พปชร. ขย่ม “ธนาธร” ยื้อโอนทรัพย์สินเข้า “บลายทรัสต์” เสี่ยงผิดกม.เลือกตั้ง ส.ส.มาตรา 73 (5) ชี้ โทษถึงเว้นวรรค 20 ปี ย้อน “ปิยบุตร” แค่ศรีธนญชัย

เมื่อเวลา 09.27 น. เมื่อวันที่ 24 ก.ย.น.ส. ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ยังไม่ได้นำทรัพย์สินเข้าบลายทรัสต์ (Blind Trust) ว่า เรื่องนี้แม้ไม่ได้มีข้อกฎหมายใดบังคับว่าให้นายธนาธรต้องทำตามที่ประกาศไว้

ซึ่งนายธนาธร บอกว่าต้องการสร้างมาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองใหม่ ป้องกันข้อครหาเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกับธุรกิจของครอบครัว เมื่อนายธนาธรได้รับการเลือกตั้งเป็นส.ส.ก็ควรปฏิบัติตามที่ประกาศไว้ เพราะเหนือข้อกฎหมายก็คือสัญญาประชาคม ที่เหมือนเป็นข้อตกลงกับประชาชน เมื่อนายธนาธรไม่ได้ทำตามที่ประกาศไว้ อาจทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นวาทกรรมหาเสียง เรียกคะแนนนิยมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง

“นายธนาธรประกาศเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2562 ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเพียงแค่ 6 วัน ซึ่งอาจเข้าข่ายผิดมาตรา 73 (5)พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.พ.ศ. 2561 ที่บัญญัติว่า หลอกลวง … หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง” มีโทษตามมาตรา 159 จําคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ซึ่งได้เคยมีผู้ยื่นร้องเรียนต่อ กกต. ไปแล้ว”น.ส.ทิพานัน กล่าวและว่า

เมื่อประกอบกับเรื่องราวในอดีต ทั้งการลงประวัติของตนเองว่าเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 2 สมัยติดต่อกัน ทั้งที่ความจริงเป็นเพียงประธานสภาอุตสาหกรรม จ.นครนายก หรือการให้สัมภาษณ์ข้อมูลวันโอนหุ้นที่กลับไปกลับมาจนต้องกล่าวว่านักข่าวถามคำถามผิด รวมถึงการให้สัมภาษณ์ยอดเงินกู้พรรคที่ไม่ตรงกันกับบัญชีทรัพย์สินที่แสดงจริง ยิ่งทำให้สังคมเกิดความสงสัยถึงความน่าเชื่อถือในคำพูดของนายธนาธร

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนกรณีที่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ชี้แจงว่าที่นายธนาธร ยังไม่ได้โอนทรัพย์สินเข้า ‘Blind Trust’ เพราะยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.นั้น เป็นการอ้างแบบศรีธนญชัย ขาดเหตุผลทางความคิดของนักกฎหมาย แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะสั่งให้นายธนาธรหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่สถานะของนายธนาธร ยังเป็นส.ส.อยู่ ทำให้นายธนาธรมีหน้าที่ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. จนทำให้ประชาชนทราบว่า บลายทรัสต์ ของนายธนาธรนั้นไม่มีจริง

ขณะที่น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์เพิ่มว่า ถ้าย้อนกลับไปดูข่าว คือการทำเอ็มโอยู ยังไม่ใช่การโอนไป และเมื่อนายธนาธรถูกระงับปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. จึงทำหนังสือเลื่อนการปฏิบัติตามเอ็มโอยูไปก่อน นั้น ทำให้สังคมตั้งคำถามว่า

ถ้านายธนาธรต้องการสร้างมาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองใหม่และความโปร่งใสจริงๆ ทำไมเมื่อมีการทำหนังสือแจ้งเลื่อนการปฏิบัติตามเอ็มโอยู นายธนาธรไม่แจ้งให้สังคมทราบ แต่กลับให้ประชาชนตรวจสอบและทราบข้อมูลเองจากบัญชีทรัพย์สินว่าบลายทรัสต์ของนายธนาธรนั้นไม่มีจริง ประชาชนจึงเกิดความสงสัยใน มาตรฐานจริยธรรมทางการเมืองใหม่ ในมาตรฐานของนายธนาธรและพรรคอนาคตใหม่


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน