โฆษกพรรคอนาคตใหม่ โพสต์เฟซบุ๊ก “อย่าคิดซับซ้อน จงเชื่อมั่น หนักพอที่จะยืนในหลักการประชาธิปไตย”

เมื่อวันที่ 17 ต.ค. จากกรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้ความเห็นชอบพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพล และงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์

โดยระหว่างการพิจารณา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ลุกขึ้นอภิปรายไม่เห็นด้วยกับการออกพ.ร.ก.ดังกล่าว โดยระบุการออกพระราชกำหนดตามอำเภอใจ คือการใช้มาตรา 44 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ใช้อำนาจโดยไม่แยแสรัฐธรรมนูญ พระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการเมือง “ทรงปกเกล้า แต่ไม่ปกครอง” หากมีอะไรเกิดขึ้นครม.ต้องรับผิดชอบ และการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ไม่ใช่การใช้อำนาจตามอำเภอใจ อย่ากล่าวหาคนอื่นว่าไม่จงรักภักดี

อย่างไรก็ตามในที่สุดที่ประชุมเสียงส่วนใหญ่ มีมติเห็นชอบอนุมัติพ.ร.ก. ด้วยคะแนน 374 ต่อ 70 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง โดยจะส่งพ.ร.ก.ดังกล่าวต่อให้วุฒิสภาอนุมัติในวันที่ 20 ต.ค. เพื่อประกาศใช้เป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่อไป โดยทั้ง 70 เสียงที่ไม่เห็นชอบนั้น เป็นส.ส.จากพรรคอนาคตใหม่ทั้งหมด

ล่าสุดน.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า 70 เสียงในสภา แม้ไม่มาก แต่หนักพอยืนยันหลักการประชาธิปไตย ในช่วงเวลาที่ไม่รู้จะตัดสินใจอย่างไร ประเมินสถานการณ์ไม่ถูก ข้อมูลหลายด้านไม่รู้จะชั่งน้ำหนักอย่างไร ใดจริงใดเท็จ แรงกดดันมีมากมาย ไม่มีใครกล้าฟันธง

ในเวลาเช่นนี้อย่าคิดซับซ้อน จงเชื่อมั่นในหลักการ ตัดสินใจอย่างตรงไปตรงมา รักษาระบบรัฐสภาอันเป็นตัวแทนอำนาจสูงสุดซึ่งเป็นของประชาชน หลักการที่ถูกต้อง ย่อมนำเราไปในทิศทางที่ถูกต้อง แม้จะเป็นเส้นทางที่ยากลำบาก เต็มไปด้วยอุปสรรค แต่มันจะพาเราไปข้างหน้าในทางที่เราฝัน สู่เป้าหมายที่เราต้องการ

และนี่คือพรรคอนาคตใหม่ พรรคที่จะไม่คลอนแคลนในอุดมการณ์ที่ยึดโยงเราเข้ากับประชาชนทั้งประเทศ วันนี้ 70 ผู้แทนราษฎรอนาคตใหม่เดินไปบนหลักการที่ถูกต้อง และเราเชื่อว่าไม่ได้มีแค่ 70 คน แต่มีหลายสิบ หลายร้อย หลายพัน หรือหลายล้าน เดินไปกับเรา บนถนนประชาธิปไตย สู่เป้าหมายคือความเท่าเทียมและเป็นธรรมในสังคม


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน