วรวัจน์ หวั่นตัดจีเอสพี กระทบส่งออกไทยหมื่นล้าน อัดพณ.ไร้มาตรการรับมือ
วรวัจน์ / เมื่อวันที่ 29 ต.ค. นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 เปิดเผยว่า
การประชุมกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จะเป็นการพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ต่อเนื่อง เพราะยังมีอีก 11 หน่วยงานและ 1 รัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะกลุ่มงานการค้าต่างประเทศ ทั้งกรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นต้น
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุมกรรมาธิการฯ ผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยข้อมูลว่าหลังการรัฐประหารปี 2557 หลายประเทศเริ่มดำเนินการตัดสิทธิพิเศษทางภาษี หรือจีเอสพีไทย โดยปี 2558 สหภาพยุโรปหรืออียู มีการตัดจีเอสพีไทย ต่อมาต้นปี 2562 ประเทศญี่ปุ่นก็ตัดจีเอสพีไทย ล่าสุดสหรัฐฯ ก็ตัดจีเอสพีไทย นอกจากนี้ที่ผ่านมามาตราการเจรจาของรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ขณะที่มาตราการช่วยเหลือภาคเอกชนยังไม่มีความชัดเจน มีแต่การออกมาขอให้ภาคเอกชนปรับตัวลดต้นทุน และปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตเอง กระทรวงพาณิชย์คาดว่าถึงแม้ถูกตัดจีเอสพีแต่ก็ไม่มีผลกระทบกับเกษตรกร
นายวรวัจน์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ยืนยันในที่ประชุมกรรมาธิการงบประมาณฯ ว่าปัญหาจีเอสพีจะทำให้ประเทศไทยได้รับผลกระทบเพียง 1,800 ล้านบาท ไม่ใช่ 40,000 ล้านบาทอย่างที่มีการวิเคราะห์ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ก็มีมาตรการในการรับมือ แต่ไม่แจ้งรายละเอียดต่อกรรมาธิการฯ นั่นอาจหมายถึงไม่ได้มีแผนมาตรการแก้ไขเตรียมไว้ และบรรจุในงบประมาณปี 63 ทั้งที่เรื่องนี้เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ควรมีคำตอบให้กับประชาชน
“ที่ประชุมได้ท้วงติงไปยังกระทรวงพาณิชย์ว่าจำนวนเงิน 1,800 ล้านบาทดังกล่าวที่กระทรวงพาณิชย์ชี้แจง อาจเป็นเพียงแค่ส่วนต่างทางภาษี หากจะคำนวณแบบนี้คงไม่ถูกต้อง เพราะต้องรวมมูลค่าส่งออกในภาพรวมทั้งหมดไปด้วย ดังนั้นการดำเนินการของสหรัฐฯ ครั้งนี้อาจจะส่งผลเสียมากกว่าที่หน่วยงานรัฐคาดการณ์ คาดว่าผลกระทบจากการส่งออกสินค้าไทยอาจสูงถึงหลักหมื่นล้านบาท”นายวรวัจน์กล่าว
