ย้อนดู! นโยบายพลังประชารัฐ สัญญาค่าแรง 425 บาท หลังล่าสุด รัฐบาล ขึ้นไม่ถึง 10 บาท
จากกรณีที่ นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ทุกฝ่ายมีมติร่วมกันให้ ปรับค่าจ้างขั้นต่ำขึ้น 6 บาท 9 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ภูเก็ต กรุงเทพฯ นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และปราจีนบุรี ส่วนที่เหลือจะได้รับการปรับขึ้นในอัตรา 5 บาททั่วประเทศ แบ่งเป็น 10 กลุ่มอัตราสูงสุดคือ ชลบุรี กับ ภูเก็ต ที่ 336 บาท ส่วน อัตราต่ำสุดอยู่ที่ 313 บาท ในจ.นราธิวาส ปัตตานี และยะลา
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
โดยอัตราที่ปรับขึ้นนี้เป็นระดับที่เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันแล้ว ทั้ง เงินเฟ้อ อัตราความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง เพื่อให้ทุกฝ่ายอยู่ได้อย่างสมดุล เตรียมเสนอ ครม. ให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.63 ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดข่าวไปแล้วนั้น
- ลูกจ้างเฮดังๆ เคาะแล้ว ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทั่วประเทศ เริ่ม 1 ม.ค.63 ยันเหมาะ ภาวะเศรษฐกิจ
- พปชร. ยัน ค่าแรงขั้นต่ำ 425 บาท ทำได้จริง ไม่เกิดภาวะเงินเฟ้อ แม้บิ๊กตู่เบรก
- โซเชี่ยลขอให้ทำตามสัญญา? นโยบายพลังประชารัฐ ค่าแรง 425 บาท ป.ตรี 2 หมื่น
- พลังประชารัฐ ยอมรับ ขึ้นค่าแรง 425 บาท ต้องรอไปก่อน เกรงกระทบหลายส่วน
หากย้อนไปก่อนการเลือกตั้ง 24 มีนาคม เพียง 10 วัน (14 มี.ค.) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ร่วมแถลงเปิดนโยบายประชารัฐ “ประเทศไทยต้อง…รวย” ด้วยพลังประชารัฐ
โดยได้เปิดเผยนโยบายโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ตอนหนึ่ง ระบุว่า จะดูแลแรงงานขั้นต่ำ 400-425 บาทต่อวัน ค่าจ้างอาชีวะ 18,000 บาทต่อเดือน ค่าจ้างปริญญาตรี 20,000 บาท ส่วนพนักงานเงินเดือนจะได้รับการลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ในทุกขั้นบันได คนที่มีรายได้ต่ำกว่า 200,000 บาทต่อปี ไม่ต้องเสียภาษี นอกจากนั้นเราจะยกเว้นภาษีเด็กจบใหม่ 5 ปี ยกเว้นภาษีค้าขายออนไลน์ 2 ปี
หลังการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 5 ก.ค. นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดทำนโยบายรัฐบาลว่า ขณะนี้พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค ได้ส่งนโยบาย ของแต่ละพรรคมาที่พรรคพลังประชารัฐแล้ว
สำหรับเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ วันละ 400-425 บาท เป็นนโยบายที่พรรคพลังประชารัฐใช้หาเสียงและยอมรับว่าตอนนี้ยังไม่ใช่นโยบายเร่งด่วน เพราะการขยับขึ้น 400-425 บาทในทีเดียวจะมีผลกระทบต่อภาคเอกชนแน่นอน