คนหนุ่ม แห่สมัครทหารชั่วคราว คึกคัก รับเงินเดือน-สวัสดิการเท่าราชการ จบ 8 ปี ได้เป็นแสน!

แห่สมัครทหารชั่วคราว / วันที่ 9 ธ.ค. ที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน(นรด.) พล.ท.ปราการ ปทะวาณิช ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ตรวจเยี่ยมสถานที่เปิดรับสมัครกำลังพลสำรอง เพื่อเข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราวของกองทัพบก ปี 2563 จำนวน 243 อัตรา ในวันแรก โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กำลังพลสำรองต่างทยอยมายื่นใบสมัครตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่าน ซึ่งส่วนใหญ่มีอายุในช่วง 21-25 ปีบริบูรณ์ และพึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี

พ.อ.สฤษดิ์ โตจรูญ ผอ. กองการควบคุมกำลังพลสำรอง นรด. กล่าวถึงภาพรวมของการรับสมัครในวันแรกว่า ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามที่ได้วางแผนเอาไว้ คิดว่าจากนี้จะมีกำลังพลสำรอง ทยอยมาสมัครเป็นจำนวนมาก สำหรับขั้นตอน และหลักเกณฑ์การรับสมัครจะเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยใช้เวลา 30 วัน จากนั้นจะเป็นขั้นตอนของการสอบสวนกลาง ที่ ศูนย์การนักศึกษาวิชาทหารถนนวิภาวดี ในวันที่ 19 ม.ค.2563 จากนั้นก็จะประกาศผลสอบ

ในวันนี้กำลังพลสำรอง จะต้องเลือกว่าจะต้องเลือกว่าจะสังกัดกองทัพภาคไหน เพื่อจะได้ทราบจุดประสงค์ เมื่อสอบได้คะแนนเรียบร้อยแล้ว จะให้ผู้ที่สอบได้คะแนนสูงสุดตามลำดับเลือกมณฑลทหารบกในสังกัดกองทัพภาคที่ตนเองสังกัดก่อน

ทั้งนี้คนที่มาสมัครได้ต้องผ่านการเป็นกำลังพลสำรองมาก่อนคือผู้ที่สำเร็จหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 3 และปีที่ 5 รวมถึงบุคคลที่เคยผ่านการเกณฑ์ทหาร มาแล้ว โดยจะทำหน้าที่เป็นส่วนที่อยู่ในกำลังรบ โดยกองทัพบกกำหนดว่าให้มณฑลทหารบกอยู่ในตำแหน่งของครูฝึกและผู้ช่วยครูฝึกทั้ง 34 มณฑลทหารบก ยกเว้น กทม.

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พ.อ.สฤษดิ์ กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก คิดว่าน่าจะเป็นการทดลอง ซึ่งไม่ได้ยากเย็นอะไรมากนักถ้ามีโอกาสก็จะสอบผ่าน ซึ่งเราคาดหวังว่าจะมีผู้มาสมัครเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงกลาโหมที่ต้องการให้ทุกเหล่าทัพนำกำลังพลสำรองมาใช้งาน เพื่อลดการบรรจุ ทหารกองประจำการและลดงบประมาณของกองทัพ

ผอ.กองการควบคุมกำลังพลสำรอง นรด. กล่าวอีกว่า ในส่วนของเงินเดือนและสวัสดิการนั้นยืนยันว่าจะได้รับเหมือนทหารประจำการทุกอย่างตามขั้นที่บรรจุ แต่จะอยู่ในอัตราสัญญาจ้างเพียงแค่ 4 ปีหลังจากนั้นเราก็จะมีให้เลือก 3 แนวทางคือ 1 สามารถอยู่ต่อได้อีก 4 ปี แต่ต้องไม่เกิน 8 ปี ซึ่งในส่วนของนายทหารสัญญาบัตร จะต้องมี อายุไม่เกิน 35 ปี ขณะที่นายทหารชั้นประทวนจะต้องไม่เกิน 30 ปี แนวทางที่ 2. จะได้รับเงินก้อนหรือเงินช่วยเหลือโดยคิดตามกระทรวงการคลังก็คือ เงินเดือนเดือนสุดท้าย x กับปีราชการ x 2.5

เบื้องต้นคาดว่าจะได้รับคนละประมาณ 200,000 กว่าบาท และ 3. เข้าสอบส่วนกลางเพื่อเข้ารับราชการเป็นทหารในอัตราร้อยละ 20 ของ 243 คน นั้นหมายความว่า จะมีผู้ที่ได้รับการคัดเลือกบรรจุเป็นทหารประจำ จำนวน 94 คน

ส่วนกำลังพลสำรองที่สมัครเป็นคนแรก นายณัฐพล ศรีแดง อายุ 22 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี คณะ รัฐประศานสนศาสตร์ กล่าวว่า ทราบข่าวรับสมัครจากฝ่ายสรรพกำลัง มทบ. 45 เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งส่วนตัวอยากเป็นทหาร ใจรัก ชอบความมีระเบียบวินัย ความเข้มแข็ง และมีความมั่นคง

ซึ่งได้เตรียมตัวมาอย่างดี อีกทั้งยังพึ่งจบการศึกษา และยังเป็นกองกำลังสำรอง ผลัดที่ 1/2562 ส่วนบิดาก็เคยรับราชการทหาร โดยเลือกลง มทบ.45 จ. สุราษฎร์ธานี เป็นพื้นที่ภูมิลำเนา และตนมีทักษะการใช้โซเชียลมีเดีย และมองว่า เด็กรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงโซเชียลได้ง่ายแต่ก็ต้องยอมรับว่ามีทั้งผลดีและผลเสีย

ผมตั้งใจเป็นทหารครบ 4 ปี เชื่อว่าจะก้าวไปเป็นทหารประจำการในอนาคต ผมเตรียมตัว อ่านหนังสือ ทดสอบร่างกาย ซ้อมวิ่ง มาเป็นอย่างดี สำหรับแนวคิดยกเลิกเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนมาสมัครใจนั้น ผมมองว่า เป็นแนวความคิดที่ดี แต่อยากให้คงการเกณฑ์ทหารไว้ เพื่อเป็นทางเลือกให้ทั้งคนที่อยากเป็น และไม่อยากเป็น เพราะบางครั้งจำนวนคนที่อยากเป็นอาจน้อยกว่าจำนวนคนที่กองทัพต้องการ อยากให้มีสองระบบ”นายณัฐพล กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน