กรมป่าไม้ลุยต่อจ่อรังวัดที่ดิน ส.ป.ก. 682 ไร่ใหม่ ยันเสร็จใน 7 วันทำการ ก่อนดำเนินคดี “ปารีณา” ฐานบุกรุกป่าสงวน

เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ว่า กรมป่าไม้จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อทำการรังวัดพื้นที่ที่แท้จริง ในเขต ส.ป.ก.จำนวน 29 แปลง เนื้อที่ 682 ไร่ ที่ น.ส.ปารีณา ส่งคืน ส.ป.ก.อีกครั้งในสัปดาห์นี้ ว่า

ข้อเท็จจริงมีจำนวนกี่ไร่ ซึ่งไม่น่าจะคลาดเคลื่อนไปจากจำนวน 682 ไร่มากหรือน้อย เพราะการรังวัด ต้องทำเฉพาะที่ น.ส.ปารีณา ใช้ประโยชน์ ทั้งนี้ จะใช้เวลาทำการรังวัดไม่เกิน 7 วันทำการจะแล้วเสร็จ จากนั้นกรมป่าไม้จะนำมาพิจารณาร่วมกับข้อเท็จจริงที่กรมป่าไม้มีอยู่ คือ

การครอบครองพื้นที่ 682 ไร่ ของน.ส.ปารีณา จากการแปลภาพถ่ายทางอากาศ และการใช้ประโยชน์จากที่ทำกิน ซึ่งพบว่ามีร่องรอยการเข้าทำประโยชน์ระหว่างปี 2537-2543 โดยจะนำข้อมูลใหม่จากการรังวัดและข้อมูลเดิมมาพิจารณาร่วมกับฝ่ายกฎหมาย

รวมทั้งคำตอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่จะชี้แนวทางเรื่องนี้ด้วยว่า ที่ดิน ส.ป.ก.ที่เจ้าหน้าที่ทำการรังวัดมาใหม่ ยังคงถือเป็นที่ดินตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 หรือไม่ หากชัดเจนว่ายังคงเป็นที่ป่าไม้ จะดำเนินคดีฐานความผิดบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่ม

อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวต่อว่า ยืนยันว่ากรมป่าไม้ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศกับผู้กระทำความผิดฐานบุกรุกป่า โดยขณะนี้ได้กำชับให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาอย่างรอบคอบว่าจะยึดถือตามการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกาซึ่งระบุว่า เขตปฏิรูปที่ดินซึ่ง ส.ป.ก.ได้มีแผนการดำเนินการงานและงบประมาณเพื่อจัดสรรสิทธิแล้วถือว่าเป็นที่ดินของ ส.ป.ก.

หรือยึดถือตามคำตัดสินของศาลฎีกาที่พิพากษาลงโทษผู้ครอบครอบเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งยังไม่เข้าสู่กระบวนการจัดสรรสิทธิว่า ยังคงถือเป็นที่ดินตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 ดังนั้นจะเข้าข่ายบุกรุกที่ป่าไม้ ซึ่งพร้อมจะดำเนินคดีแก่ผู้ครอบครองตามมาตรฐานเดียวกันทุกราย

นายอรรถพลกล่าวว่า การดำเนินคดีกับที่ดิน ส.ป.ก.จำนวน 682 ไร่ ที่กรมป่าไม้จะลงพื้นที่รังวัดใหม่ จะใช้เวลาไม่นานและขอให้ได้ข้อยุติในเรื่องกฎหมายก่อน ถ้าผิดฟ้องแน่นอนเหมือนกรณีที่กรมป่าไม้ได้ดำเนินคดีใน 46 ไร่เศษ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เมื่อถามมี ส.ส.กว่าสิบคนที่ครอบครองพื้นที่ ส.ป.ก.อยู่เวลานี้ ทางกรมป่าไม้จะต้องไปตรวจสอบร่วมกับ ส.ป.ก.หรือไม่ นายอรรถพลกล่าวว่า ต้องดูว่าพื้นที่ดังกล่าวก่อนประกาศเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.นั้น อยู่ในพื้นที่อะไร อย่างไรก็ตาม หากผู้ครอบครองไม่มีคุณสมบัติครอบครองที่ดินส.ป.ก.นั้น เบื้องต้น ส.ป.ก.จะต้องดำเนินการก่อน เพราะส.ป.ก.ก็มีหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติด้วยเช่นกัน


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน