เล่นแรง! พบ 4 ตัวเงินตัวทอง ในพรรคอนาคตใหม่ หลังขับไล่งูเห่า ใครเอามาวางไว้

จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. นายณัฐชา​ บุญไชยอินสวัสดิ์ รองโฆษกพรรคอนาคตใหม่ เปิดเผยว่า ที่ประชุมใหญ่วิสามัญสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ มีวาระการพิจารณากรณี ส.ส.ลงมติไม่ตรงกับมติพรรค ซึ่งมี ส.ส. 4 คน ได้แก่ นางศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 , นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี เขต 2 , พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี เขต 1 และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เขต 7

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายณัฐชา กล่าวว่า โดยที่ประชุมฯ มีมติ 250 เสียงให้ขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ และมีมติ 5 เสียง ไม่ขับออกจากสมาชิกพรรค รวมถึงมีบัตรเสีย 6 ใบ โดยจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ส.ส.และที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ในวันพรุ่งนี้ (17 ธ.ค.) โดยจะทราบผลทันทีหลังเสร็จสิ้นการประชุม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ 17 ธ.ค. ช่วงก่อนประชุม ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ บริเวณหน้าห้องประชุม ที่ชั้น 8 อาคารไทยซัมมิท พบตุ๊กตาตัวเงินตัวทอง ติดชื่อ 4 ส.ส. ที่ได้รับมติขับออกจากพรรค อย่างไม่เป็นทางการ มาวางไว้หน้าห้องประชุม ส.ส. อนาคตใหม่ โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำมาวางไว้

จากนั้น น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กรณีการประชุมวิสามัญของพรรคในวานนี้ (16ธ.ค.) มีมติ 250 ต่อ 5 เสียง ให้ขับส.ส. 4 คน คือ 1.น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ 2.นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี 3.พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี และ 4.น.ส.กวินนาท ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี เนื่องจากมีประพฤติกรรมสวนทางอุดมการณ์พรรค ว่า

ตามข้อบังคับของพรรคที่ระบุเอาไว้ การขับส.ส.ออกจากพรรค จะไม่ใช่มติของที่ประชุมวิสามัญ แต่จะเป็นมติของกรรมการบริหารร่วมกับที่ประชุมส.ส. เพื่อมีมติเสียงส่วนมากเพื่อขับส.ส.ออกจากพรรค ส่วนที่ประชุมวานนี้ถือเป็นตัวตั้งเรื่องนี้เท่านั้น เพราะที่ผ่านมามีปัญหากันเยอะ








Advertisement

จึงส่งเรื่องร้องเรียนเข้ามาหลายเดือนนับตั้งแต่เริ่มมีการโหวตสวนมติพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในนโยบายกมธ.วิสามัญ การศึกษาผลกระทบมาตรา 44 ซึ่งในวันนี้จะมีผลสรุปจากการประชุมกรรมการบริหารและส.ส. อย่างเป็นทางการว่าขับส.ส. ทั้ง 4 ออกจากพรรค จากนั้นทางพรรคจะมีหนังสือไปยังส.ส. และแจ้งไปยังคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)

เมื่อถามว่าการขับส.ส.ในครั้งนี้ ถือเป็นบรรทัดฐานในการทำงานของพรรคอนาคตใหม่ด้วยหรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราพยายามทำตามกฎระเบียบของพรรคมากที่สุด แต่เมื่อมีการโหวตสวนมติพรรคเกิดขึ้น เราให้คณะกรรมการวินัยตั้งสอบเรื่องการโหวตสวนมติพรรค และการนำความลับของที่ประชุมไปเปิดเผย

และให้สัมภาษณ์ทำให้เพื่อนสมาชิกและพรรคเสื่อมชื่อเสียง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้นำไปสู่การภาคทัณฑ์ในครั้งแรก แต่ก็ยังมีการกระทำผิดซ้ำ ดังนั้นการทำผิดครั้งที่ 2 จึงต้องมีมาตรการเพิ่มขึ้นและนำมาซึ่งการขับออกจากพรรค และนี่คือขั้นตอนตามระเบียบข้อบังคับของพรรค ไม่ใช่การตัดสินใจของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

“การที่ส.ส.โหวตสวนมติพรรค แล้วเราจะขับออกจากพรรคคงไม่ใช่ เพราะเราอภิบายเสมอว่าก่อนจะโหวตแต่ละครั้ง ที่ประชุมส.ส.จะคุยกันก่อน เพื่อนำไปสู่ข้อสรุป และบางครั้งส.ส.บางท่านขอสงวนสิทธิ เช่น กมธ.เรื่องความหลากหลายทางเพศ แต่ ส.ส.บางคนมีข้อจำกัดทางศาสนา ก็ของสงวนสิทธิ

ทางพรรคก็เข้าใจ ไม่มีการลงโทษใดๆ ทั้งสิ้น แต่ในกรณีการขับ 4 ส.ส. ออก คือ การโหวตสวนมติพรรค โดยเฉพาะนโยบายที่พรรคหาเสียง คือ การล้างมรดก คสช. ซึ่งเป็นนโยบายที่ประชาชนเลือกคุณมา ดังนั้นถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรง” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวถึงการคำนวนคะแนนเสียงเมื่อขับ 4 ส.ส.ออกไป ว่า เราคำนวณทิศทางที่จะเป็นไปได้ ซึ่งมี 2 ทาง ว่า กกต.จะตีความยังไง ซึ่ง 4 คน เป็นส.ส.เขต รวมคะแนนประมาณ 1.6 แสนคะแนน 1.คะแนนดังกล่าวยังเป็นของพรรค รวมเป็น 6.2 ล้านคะแนน ส.ส.พึงมีจะเป็น 81 คน ส่วนส.ส. มี 80 คนขับออกไป 4 คน เหลือ 76 คน

จึงต้องมีปาร์ตี้ลิสต์ให้ครบ 81 คน โดยไปตัดปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคอื่นออก เพราะส.ส.ในสภาต้องมีแค่ 500 คน แต่กรณีที่กกต.ตีความว่า คะแนนไปกับส.ส. ด้วย เราก็ยังมีส.ส.พึงมี 78 ที่นั่ง เราจะหายไป 2 เสียงเรื่องนี้เมื่อเทียบกับบรรทัดฐานที่พรรคต้องดำเนินการ ก็ถือว่าคุ้มค่า

น.ส.พรรณิการ์ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ต้องจับตาคือ พรรคใดที่รับส.ส.เหล่านี้ไป ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง ว่าที่ผ่านมามีแต่คนพูดว่า ให้กล้วยรับกล้วย แต่คราวนี้จะได้ชัดเจนว่าเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญคือ อุดมการณ์ของพรรค ซึ่งหากเสียงที่มีอยู่ไม่ได้เป็นไปตามอุดมการณ์ของพรรค เราก็ไม่จำเป็นต้องรักษาเสียงเหล่านั้นไว้

โฆษกฯ กล่าวถึงประเด็นการนัดพบกันที่สกายวอล์คปทุมวันเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา ว่า เราแค่เชิญชวนคนที่ไม่ทนอีกแล้ว ไม่ถอยอีกแล้ว ไม่ต้องการเห็นสภาพบ้านเมืองเป็นแบบนี้ต่อไป ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 2560

เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายมองว่าทำไมพรรคอนาคตใหม่ไม่ใช้กลไกทางสภาให้เต็มที่ก่อนจะปลุกม็อบลงถนน โฆษกฯ กล่าวว่า เรายังใช้กลไกทางสภาอยู่ การตั้งอภิปรายหรือการยื่นญัตติต่างๆ ยังคงดำเนินการต่อไป และเราไม่คิดว่าในวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมาไม่ใช่การชุมชนทางการเมือง ถ้าเป็นการชุมนุมทางการเมืองจะเจอของจริงมากกว่านี้ ส่วนกิจกรรมวิ่งไล่ลุงไม่ใช่กิจกรรมของพรรคอนาคตใหม่ และกิจกรรมชุมชนของพรรคจะมีอีกครั้งเมื่อไรต้องคอยดูตามสถานการณ์


 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน