รองโฆษก พลังประชารัฐ ออกโรงฉะ อนาคตใหม่ ปมตุ๊กตาตัวเงินตัวทองเขียนชื่อ 4 ส.ส. ที่ถูกขับพ้นพรรควางหน้าห้องประชุม ชี้ย่ำยีศักศรีความเป็นมนุษย์-ละเมิดสิทธิมนุษยชน จี้ ขอโทษ
วันที่ 20 ธ.ค. น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีพรรคอนาคตใหม่ปล่อยให้มีการนำตุ๊กตาสัตว์ติดรายชื่อ 4 ส.ส.ในระหว่างที่มีการประชุมพรรคเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า น่าแปลกใจที่พรรคอนาคตใหม่ปล่อยให้มีการกระทำละเมิดสิทธิมนุษยชน ย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เกิดขึ้น ทั้งที่พรรคอนาคตใหม่อ้างตัวว่ายึดมั่นในหลักประชาธิปไตย นิติรัฐ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความเท่าเทียม
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า แต่กลับเพิกเฉย ละเว้นความรับผิดชอบต่อการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับ ส.ส. ทั้ง 4 คน และในวันดังกล่าว น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของความไม่พอใจของสมาชิกพรรค ผู้สนับสนุนพรรค ทั้งนี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ไม่มีการดำเนินการตรวจสอบและลงโทษผู้แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่ได้ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เกิดขึ้น ไม่ยอมรับความเห็นต่าง
ตุ๊กตาตัวเงินตัวทองโผล่หน้าห้องประชุมพรรค อนาคตใหม่
น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นพฤติกรรมขัดแย้งกับแนวคิดอุดมการณ์ของนายธนาธรอย่างชัดเจน และยังไม่เห็น นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคฯ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน แสดงท่าทีในเรื่องดังกล่าว ทำให้สังคมสงสัยว่าพรรคอนาคตใหม่จะดำเนินการคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ให้กับเฉพาะผู้ที่เห็นคล้อยตามกับพรรคอนาคตใหม่เท่านั้นหรือไม่ หากเป็นแบบนี้แล้วจะถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติและการดำเนินการมีสองมาตรฐานหรือไม่
“มีคำถามว่าการกล่าวหา ส.ส. ทั้ง 4 ท่านที่โหวตสวนมติพรรคเพราะได้รับประโยชน์ เป็นงูเห่า พรรคอนาคตใหม่มีหลักฐานที่จะกล่าวโทษบุคคลดังกล่าว และมีกระบวนการไต่สวนที่ชอบธรรมแล้วหรือไม่ ที่สำคัญพรรคอนาคตใหม่ควรดำเนินการตรวจสอบและลงโทษผู้ละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมถึงออกมาขอโทษ ส.ส. ทั้ง 4 คน แม้พรรคอนาคตใหม่จะไม่ได้เป็นผู้ลงมือกระทำเอง แต่พรรคอนาคตใหม่อาจเข้าข่ายเป็นผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยที่ 4 คน ไม่มีโอกาสปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตนเองเอง” น.ส.ทิพานัน กล่าว
_______________________________________
