นักสิทธิชาติพันธุ์ จี้เอาผิด คนเขียน-สื่อ เผยแพร่ บทความดูถูกม้ง ชี้เข้าข่ายเฟกนิวส์

วันที่ 29 ธ.ค. นายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และ เลขานุการอนุกรรมาธิการ ด้านผู้สูงอายุ ผู้พิการ และกลุ่มชาติพันธุ์ สภาผู้แทนราษฎร แสดงความคิดเห็นในกรณีที่ วาสนา นาน่วม นักข่าวสายทหาร เผยแพร่บทความ โดยอ้างว่าเขียนโดย “เสืออากาศ 24/7” ซึ่งวิพากษ์การลงพื้นที่ของ นายธนาธร ที่พบปะกับชาวม้ง พร้อมนำเสนอมุมมองที่ดูถูกเหยียดหยาม กลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ว่า

เรื่องดังกล่าวเป็นการสะท้อนมุมมองในทางการเมือง แต่เอาชาติพันธุ์ม้งเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย หลังจากมีภาพปรากฎว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ไปร่วมงานปีใหม่ม้ง ที่ อ.พบพระ จ.ตาก ทำให้คนม้งถูกรังเกียจ ตามพรรคการเมือง ที่ถูกโจมตีจากกลุ่มที่มีความคิดเห็นอยู่ตรงข้ามพรรคอนาคตใหม่ ทั้งที่เรื่องเชื้อสาย และเชื้อชาติของคนไม่ควรนำมาเชื่อมโยงกับเรื่องทางการเมือง

นายสุรพงษ์ กล่าวต่อว่า ทั้งที่ในความเป็นจริง คนม้ง เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างยาวนาน เป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ดั้งเดิมของไทย และได้รับการยอมรับให้อยู่ในประเทศไทย มีสิทธิเหมือนกับคนไทย ได้เป็น ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ก็มีแล้ว

ขณะเดียวกันในสมัยก่อน คนม้ง ยังมีส่วนสำคัญร่วมกับรัฐไทย รบเพื่อปราบปรามคอมมิวนิสต์ ทำให้ฝ่ายความมั่นคงกับคนม้งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะคนม้ง ที่พบพระ ซึ่งเคยร่วมพัฒนากับประเศไทย

และที่ผ่านมากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่แต่เดิมคือ กระทรวงมหาดไทย ได้เข้ามาดูแลกลุ่มชาติพันธุ์ม้งมานานกว่า 50-60 ปี โดยส่งเสริมเจ้าหน้าที่ม้ง ให้เรียนหนังสือจนจบระดับปริญญาเอมาแล้ว โดยให้คนเหล่านั้นกลับมาช่วยพัฒนาชาวเขา

อีกทั้งในรัฐธรรมนูญ 60 มาตรา 70 ก็ระบุอย่างชัดเจนว่า ให้รัฐมีหน้าที่ส่งเสริมกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งรัฐก็ทำด้วยดีมาตลอด และกำลังจะมี พ.ร.บ.ยุทธศาสตร์ส่งเสริมกลุ่มชาติพันธุ์ ที่กำลังดำเนินการอยู่

เป็นที่น่าเสียดาย ที่บทความดังกล่าวทำให้เกิดความเกลียดชังกันระหว่างชาติพันธุ์ ซึ่งเป็นความพยายามเสี้ยมของเจ้าหน้าที่ที่ถูกกล่าวอ้าง และสื่อ ที่นำมาเผยแพร่ ทำให้เกิดความเกลียดชังระหว่างชาติพนัธุ์ มีความพยายามเสี้ยม ของเจ้าหน้าที่ และ สื่อ ทำให้บ้านเมืองไม่สงบสุข

โดยใช้วิธีทำร้ายที่ไม่ยอมเปิดเผย ใส่ร้ายให้เกิดความเกลียดชัง โดยหลักการแล้ว เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ต้องดำเนินการผู้ที่ปล่อยข้อมูลดังกล่าวออกมา เนื่องจากเป็นข้อมูลที่บิดเบือนผิดจากหลักความเป็นจริง เป็นเฮทสปีด เป็นเฟกนิวส์ ที่รัฐต้องจัดการประธานมูลนิธิผสานวัฒนธรรม กล่าว

ขณะที่ นายปรีชา อย่างยอดเยี่ยม ผู้นำคนรุ่นใหม่กลุ่มชาวม้ง อ.พบพระ จ.ตาก กล่าวในเรื่องนี้ว่า รู้สึกเสียใจ ที่สมัยนี้ยังมีคนที่มีความคิดเช่นนี้อยู่ เราอยากบอกว่าม้ง ก็คือคนไทย เราอยู่ในผืนแผ่นไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ปู่ย่าตายาย เราก็อาศัยที่นี่ เราไม่ใช่คนต่างด้าว หรือคนที่เข้ามาสร้างปัญหาในประเทศนี้ เหมือนที่บทความดังกล่าวพูดถึง อีกทั้งที่ผ่านมาคนม้งก็เคยร่วมรบร่วมปราบปรามคอมมิวนิสต์เคียงคู่กองทัพไทย

ผู้นำคนรุ่นใหม่กลุ่มชาวม้ง อ.พบพระ กล่าวต่อว่า ที่เขาเขียนอย่างนั้นเพราะเขาไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ข้อเท็จจริง เลยเขียนออกมาโดยไม่ใช่ความคิด ซึ่งคนม้งอยากให้คนที่เขียน และคนที่เผยแพร่เรื่องนี้ออกมาขอโทษ และแสดงความรับผิดชอบ ต่อการนำเสนอข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งแยกในสังคม และหลังจากนี้จะร่วมกับกลุ่มคนม้ง ออกมาแสดงพลังไม่เห็นด้วยในเรื่องนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน