ชาวแรงงานจัดเมย์เดย์ จี้รัฐบาลเร่งจัดการเลือกตั้งให้ประเทศไทยสู่สังคมประชาธิปไตยแท้จริง “บิ๊กตู่”รับ 5 ข้อเสนอ ระบุเป็นหนึ่งในร้อยปัญหาที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ส่วนเรื่องขึ้นค่าจ้าง เบี้ยสูงอายุให้ติดตามการประชุมร่วม 3 ฝ่าย รัฐบาล สมาคมผู้แทน และผู้ประกอบการ หนุนด้วยให้เด็กเรียนอาชีวะ ชี้พ่อแม่อย่าส่งลูกเรียนให้กลับมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บ้าน ต้องส่งลูกเรียนให้มีงานทำ ลั่นเด็กอาชีวะทุกคนต้องมีงานทำเพราะการพัฒนาไทยแลนด์ 4.0 จะใช้เทคโนโลยีใช้ช่างเต็มไปหมด ปริญญาไม่ได้ใช้ ด้านคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยเผยปีนี้ไม่เรียกร้องค่าจ้างขั้นต่ำ เพราะเรียกร้องเมื่อไหร่ค่าครองชีพขึ้นก่อนค่าแรง และค่าจ้างที่ขึ้นก็ไม่มาก จึงเรียกร้องขอให้ปฏิรูปโครงสร้างค่าจ้างอย่างเป็นธรรมเท่ากันทั่วประเทศ ยืนพื้นต้องมากกว่า 300-400 บาทต่อวัน

เมื่อวันที่ 1 พ.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวคำปราศรัยเนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ ประจำปี 2560 ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สรุปความว่า แรงงานถือเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ ทั้งในภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการผลิตและบริการ ให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็ง และการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ

รัฐบาลมีนโยบายในการสร้างงาน สร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่คนไทย โดยมุ่งหวังให้คนไทยทุกคนมีงานทำ มีรายได้ และมีหลักประกันทางอาชีพ พร้อมทั้งมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลพี่น้องแรงงานไทยในทุกสาขาอาชีพ ทั้งแรงงานภายในประเทศและในต่างประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ พี่น้องผู้ใช้แรงงานทั้งในระบบและนอกระบบ ให้ได้รับความคุ้มครอง สามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐอย่างเท่าเทียม และมีรายได้ที่มั่นคง ตลอดจนได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่ยุคประเทศไทย 4.0 ซึ่งจะทำให้สามารถเพิ่มรายได้ให้กับทุกคนได้ในระยะต่อไป

รัฐบาลขอขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจ ร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เดินหน้าไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนตลอดมา ในโอกาสวันแรงงานแห่งชาติ วันที่ 1 พฤษภาคม 2560 นี้ ผมขออัญเชิญคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก อีกทั้งเดชะพระบารมีแห่งองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ได้โปรดอภิบาลประทานพรให้พี่น้องผู้ใช้แรงงานทุกท่าน พร้อมทั้งครอบครัว จงประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีกำลังกาย กำลังใจที่เข้มแข็ง เพื่อร่วมเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยให้เจริญก้าวหน้าต่อไป

ต่อมาเวลา 11.30 น. ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ ปี 2560 ภายใต้คำขวัญ “แรงงานรู้รักสามัคคี สดุดีจักรีวงศ์ รณรงค์เศรษฐกิจพอเพียง” โดยมีรมว.แรงงาน ข้าราชการ และสภาองค์การลูกจ้าง 15 องค์กร สหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย และศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ ร่วมงาน

นายชินโชติ แสงสังข์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ นำเสนอข้อเรียกร้องวันแรงงานจัดทำโดยสภาองค์การลูกจ้าง 15 องค์กร ร่วมกับสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจฯ และศูนย์ประสานงานแรงงานนอกระบบ โดยกล่าวว่า ปีนี้เครือข่ายแรงงานมีข้อเรียกร้องต่อกระทรวงแรงงานและรัฐบาล 5 ข้อ เน้นเรื่องการดูแลค่าจ้างให้เป็นธรรม จัดสวัสดิการ ประกันสังคม และสิทธิประโยชน์ ให้คุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงานดีขึ้น

นายชินโชติกล่าวว่า ข้อเรียกร้อง 5 ข้อ ได้แก่ การรับรองอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 และ 98 ให้ปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม(สปส.) เป็นองค์กรอิสระ ไม่แปรรูปรัฐวิสาหกิจ จัดตั้งองค์กรหรือสถาบัน ดูแลแรงงานนอกระบบ ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 20 ล้านคน และจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ สหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบการ

ด้านพล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนได้รับฟังแล้วทั้ง 5 ข้อ และจะบอกเล่าสิ่งที่รัฐบาลทำไปแล้วและสิ่งที่กำลังจะทำ เพื่อชี้แจงให้ทุกคนเข้าใจและมีส่วนในการสร้างประเทศทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ถือเป็นหุ้นส่วนประเทศ รัฐบาลมีหน้าที่ต้องทำให้เกิดความเท่าเทียม ไม่ว่าจะขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่

นายกฯกล่าวว่า ประเทศไทยยังต้องการใช้แรงงานขับเคลื่อนประเทศ นับวันยิ่งมากขึ้นไม่ได้น้อยลง แม้จะมีการปิดกิจการลงไปบ้าง ไม่ใช่ไม่อยากทำ แต่ต้องการเปลี่ยนแปลงการผลิต ยกระดับประเทศให้สูงขึ้น อาจมีการลงทุนประเภทอื่น หรือประเภทเดิมที่เพิ่มเครื่องไม้เครื่องจักรให้มากขึ้น แต่ยังต้องการใช้แรงงานเหมือนเดิม เพราะรัฐบาลกำหนดไว้แล้วว่าต้องมีการใช้แรงงานในประเทศให้มากขึ้น ขออย่ากังวลในข้อนี้ หากไม่มีงานให้ทำ รัฐบาลก็จะหางานให้ทำจนได้

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเสนอแรงงาน 5 ข้อ คือหนึ่งในร้อยปัญหาที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ เพื่อปลดล็อกอุปสรรคของประเทศให้พ้นขีดจากประเทศที่มีรายได้ ปานกลาง เมื่อความต้องการใช้แรงงานขับเคลื่อนประเทศ ต้องมีทั้งแรงงานในระบบ และแรงงานนอกระบบ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกคนมีส่วนร่วมในสถานประกอบการ ให้รู้สึกว่าเป็นเจ้าของร่วมกัน หากแรงงานแสดงให้ผู้ประกอบการเห็น เขาก็ต้องดูแลเรา ไม่ทอดทิ้งเรา ทั้งสองฝ่ายต้องทั้งกี๊ฟ ทั้งเทก คือทั้งให้และรับ เวลาไปต่างประเทศก็พูดอย่างนี้ ไทยไม่ได้รับอย่างเดียว ต้องให้เขาด้วยเช่นเดียวกัน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การพัฒนาแรงงานเป็นสิ่งสำคัญ วันนี้อยู่ 3.0 คือมีโรงงาน เครื่องจักรหนัก แต่พอก้าวเข้าสู่ 4.0 เป็นเศรษฐกิจใหม่ที่จะพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจขนาดใหญ่ รัฐบาลกำลังสร้างพื้นที่เศรษฐกิจอีอีซีที่มีระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานอยู่พอสมควรที่จะเชื่อมโยงสามจังหวัดตะวันออก เชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้านด้วยระบบถนน รถไฟ รถไฟฟ้าและรถไฟความเร็วสูง ทุกคนก็จะมีส่วนช่วยสร้างไทยแลนด์ 4.0 เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น ก็จะมีภาษีมากขึ้น ก็จะพัฒนาประเทศได้มากขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า สิ่งที่เราได้เปรียบคือแรงงานของเรา คนของเรา รอยยิ้มของเรา ทุกคนไม่เคยโกรธว่าแรงงานไทยไม่มีประสิทธิภาพ เสียอย่างเดียวคือต้องพูดภาษาเขาให้ได้ ใครจะเป็นหัวหน้างานต้องทำให้ได้ ได้เร่งรัดกระทรวงศึกษาธิการไปแล้ว ว่าให้ดำเนินการและให้ประสานบริษัทผู้ประกอบการเพื่อติดตั้งคำแนะนำองค์ความรู้เกี่ยวกับภาษาต่างประเทศ ให้เกิดการเรียนรู้ เหมือนรุ่นลูกเราฟังเพลงเกาหลี ก็ฟังภาษาเกาหลีได้ รุ่นพ่อรุ่นแม่จะยอมหรือไม่ เหมือนกับการฝึกทหารใหม่ ในค่ายจะติดป้ายบอกวิธีการเป็นทหาร สอนวิธียิงเป้าให้แม่น ติดให้หมดทุกที่ เดินผ่านไปผ่านมาทุกวันต้องอ่าน สุดท้ายเดี๋ยวก็ยิงแม่นกันเอง นี่คือประสบการณ์จริง ดังนั้นแรงงานต้องไม่กลัวชาวต่างชาติ ต้องเป็นเจ้าภาพที่ดี ไม่เดินหนี

“ขอให้ติดตามเรื่องขึ้นค่าจ้าง เบี้ยสูงอายุ ที่จะมีการประชุมร่วมกันสามฝ่าย จากรัฐบาล สมาคมผู้แทน และผู้ประกอบการ ทุกอย่างจะเกิดขึ้นได้ ต้องผ่านที่ประชุมร่วมกันสามฝ่าย นอกจากนั้นเด็กทุกคนต้องมีงานทำ ทุกสาขาต้องมีงานทำ อาชีวะทุกคนต้องมีงานทำทั้งหมด จะพัฒนาไทยแลนด์ 4.0 จะใช้เทคโนโลยี ใช้ช่างเต็มไปหมด ปริญญาไม่ได้ใช้ อย่าไปส่งลูกเรียนให้กลับมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บ้าน ต้องส่งลูกเรียน กลับมาให้มีงานทำ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณทางเข้าศูนย์ เยาวชนกรุงเทพมหานคร 2 ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานวันแรงงานแห่งชาติ แกนนำแรงงาน สับเปลี่ยนกันขึ้นกล่าวถึงความสำคัญของแรงงานและวันแรงงานแห่งชาติ ซึ่งมีใจความตอนหนึ่งเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดการเลือกตั้งเพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมประชาธิปไตยอย่างแท้จริง เนื่องจากความเป็นประชาธิปไตยมีส่วนสำคัญอย่างมากกับชีวิตของแรงงานและคนไทย เศรษฐกิจไม่ดีต้องแก้ด้วยการเลือกตั้ง

วันเดียวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีเครือข่ายแรงงานจากภาคส่วนต่างๆ จำนวนกว่า 3,000 คน อาทิ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) สมาพันธ์รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ กลุ่มสหภาพแรงงานภาคตะวันออก สหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ ฯลฯ ทยอยเดินทางมาร่วมกิจกรรม “วันแรงงานแห่งชาติ” (เมย์เดย์) เพื่อเรียกร้องสิทธิลูกจ้างผู้ใช้แรงงานทุกคน

ต่อมาผู้ใช้แรงงานได้เคลื่อนขบวนล้อมรอบบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และตั้งเวทีรถบรรทุกด้านหน้าอนุสาวรีย์ โดยนาย สาวิทย์ แก้วหวาน ประธาน คสรท. กล่าวว่า ผู้ใช้แรงงานได้เคยยื่นข้อเสนอต่อนายกรัฐมนตรีไปแล้ว 10 ข้อ ในเรื่องค่าจ้าง ปีนี้ไม่เรียกร้องค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งเรียกร้องทุกปี แต่ไม่เป็นผล เพราะเรียกร้องเมื่อไหร่ค่าครองชีพขึ้นก่อนค่าแรง และค่าจ้างที่ขึ้นก็ไม่มากมาย ที่ผ่านมาคณะกรรมการค่าจ้างไม่ตอบโจทย์จุดนี้ ดังนั้น ปีนี้จึงเรียกร้องขอให้ปฏิรูปโครงสร้างค่าจ้างอย่างเป็นธรรมเท่ากันทั่วประเทศ ส่วนอัตราเท่าไหร่นั้นต้องมาหารือร่วมกัน ยืนพื้นต้องมากกว่า 300-400 บาทต่อวัน เพราะค่าจ้างวันละ 300-310 บาท แค่คนเดียวยังไม่เพียงพอ ขณะที่ความเป็นจริงต้องเลี้ยงดูครอบครัวถึง 2 คน เรียกว่า มีพ่อ แม่ ลูก ซึ่งมากกว่า 600-900 บาทด้วยซ้ำ จึงต้องมาหารือกันทุกฝ่าย ทั้งรัฐ นายจ้าง ลูกจ้าง ว่าต้องอัตราเท่าไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเครือข่ายผู้ใช้แรงงานได้ทำพิธีเปิดงานด้วยธีม “แรงงานสร้างชาติ ไม่เป็นทาส 4.0” และเคลื่อนขบวนไปยังองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เป็นอันเสร็จกิจกรรมวันแรงงานแห่งชาติ

เมย์เดย์ – เครือข่ายผู้ใช้แรงงานทั่วประเทศชุมนุมแสดงพลัง เรียกร้องรัฐปฏิรูปโครงสร้างค่าจ้างแรง งานทั้งระบบและเร่งคืนประชาธิปไตย ในวันแรงงานแห่งชาติ 2560 ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ วันที่ 1 พ.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน