“ธนาธร” มาตามนัด คดีแฟลชม็อบ 4 ข้อหา ลั่น วันอาทิตย์ จะไปแน่ๆ “วิ่งไล่ลุง” เผยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
10 ม.ค. ที่ สถานีตำรวจนนครบาลปทุมวัน (ส.น.ปทุมวัน) พ.ต.อ.อัศวยุทธ นุชพุ่ม รองผบก.น. 6 เปิดเผยถึงกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่(อนค.) และพวก จะเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน เพื่อเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีแฟลชม็อบ ดูแลความปลอดภัย ว่า
วันนี้ พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้นัดนายธนาธร เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา จากนั้นจะสอบปากคำ ส่วนตัวผู้ถูกกล่าวหาจะให้การอย่างไรก็เป็นเรื่องของชั้นสอบสวน ส่วนการดูแลความปลอดภัย ได้จัดกำลังตำรวจหญิงจาก สน.ปทุมวัน และบก.น.6 เพื่อดูแลความเรียบร้อย ไม่ให้เกิดความวุ่นวาย นำแผงรั้วมาวางรอบโรงพัก เพื่อกำหนดเขตและจัดระเบียบโดยให้ผู้ติดตาม ผู้สังเกตุการณ์ อยู่ภายนอกโรงพัก
เวลา 15.00 น. ที่ สน.ปทุมวัน นายธนาธร พร้อมด้วยนายไพรัฏฐโชติก์ จันทรขจร อดีตผู้สมัครส.ส.นครปฐม เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกกรณีมีการชุมนุมเคลื่อนไหวการเมืองที่สกายวอล์ก ปทุมวัน ช่วงกลางเดือนธันวาคม 2562 โดยมีประชาชนกลุ่มหนึ่งมารอให้กำลังใจ
นายธนาธร ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหาว่า วันนี้ตนและนายไพรัฏฐโชติก์ เข้ามารับฟังข้อกล่าวหา เบื้องต้นมีการแจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อ ในกระบวนกานี้จะมีกี่ข้อกล่าวหานั้น ต้องรอฟังตำรวจ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้น เราจะออกมาแถลงอีกครั้ง ทุกข้อกล่าวหาเกี่ยวข้องกับการจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ นอกจากตน และ นายไพรัฏฐโชติก์
ยังมีประชาชนอีก 3 คนโดนแจ้งข้อกล่าวหาด้วยคือ นายธนวัฒน์ วงค์ไชย หรือบอล น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา หรือโบว์ และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ซึ่งเดินทางมาพร้อมกับพวกตนด้วย ส่วน 3 ส.ส.อีก 3 คนคือนายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช และนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ติดประชุมสภา ซึ่งคงจะเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาหลังจากเสร็จสิ้นสมัยประชุมสภา ซึ่งวันนี้ก็มีประชาชนมาให้กำลังใจจำนวนมาก
นายธนาธร กล่าวว่า ตนอยากให้ข้อสังเกตว่าสิทธิเสรีภาพของประชาชนถูกริดรอน นายไพรัฏฐโชติก์ ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายมั่นคงเข้าไปเยี่ยมที่บ้าน 2 วันติดกัน วันแรกไปถ่ายรูป พอวันที่สองนำเจ้าหน้าที่ไป 2 คนเพื่อไปพูดคุย มีการข่มขู่การใช้สิทธิเสรีภาพการชุมนุมของประชาชน ดังนั้น ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยคงเรียกได้ไม่เต็มปาก ถ้าเราไม่กลัวเผด็จการ และลุกขึ้นต่อสู้ ยืนหยัดในสิทธิของเรา ชัยชยะจะเป็นของประชาชน
“ผมจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ไม่กังวลอะไร เราเชื่อว่าตรงนี้เป็นเรื่องที่ต้องการทำลายเรา คิดว่าเป็นมูลเหตุจูงใจทางการเมืองมากกว่ามูลเหตุทางกฎหมาย อย่างกรณีเงินกู้ เราได้เอกสารชัดเจนว่าอนุกรรมการยกคำร้องเงินกู้ไปแล้ว
แต่ เหตุใดกกต.ชุดใหญ่จึงยกเรื่องนี้ขึ้นมาอีก กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรธน. มีมาตรา 72 เพิ่มด้วย ซึ่งเป็นมาตราที่นำไปสู่การยุบพรรคได้ ทั้งที่การสอบสวนเป็นเรื่องของมาตรา 66 จึงชัดเจนว่าต้องการทำลายอนาคตใหม่ โดยก้าวไกลไปกว่าการใช้หลักนิติรัฐ นิติธรรม มีการกลั่นแกล้งกัน แต่ไม่ทำให้เสียกำลงใจ พวกเรากำลังใจเข้มแข็ง ไม่ว่าจะโดนกลั่นแกล้งหรืออย่างไร เราจะปกัหลักสู้จนกว่าประชาธิปไตยจะกลับคืนมา” นายธนากร กล่าว
เมื่อถามว่ากิจกรรมวิ่งไล่ลุงในวันที่ 12 ม.ค. ที่สวนรถไฟ จะไปร่วมด้วยหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า คงไปร่วมแน่นอน ในฐานะประชาชนธรรมดา
สำหรับข้อหาประกอบด้วย ร่วมกันเป็นผู้จัดการชุมนุมสาธารณะ โดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้ง , ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยกีดขวางทางเข้าออกหรือรบกวนการปฏิบัติงานหรือการใช้บริการสถานีรถไฟ , ร่วมกันจัดการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ดูแลและรับผิดชอบการชุมนุมสาธารณะไม่ให้เกิดการขัดขวางเกินสมควรต่อประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะฯ , ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่
