บิ๊กแดง สั่งจัดระเบียบกองทัพ-ลุยเปิดศูนย์ให้กำลังพลร้องเรียน 17ก.พ.นี้ ยอมรับเสียงวิจารณ์แถลงปม กราดยิงโคราช พร้อมน้ำตา เผย “ผมเป็นคนอ่อนไหวกับเรื่องละเอียดอ่อน”

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 12 ก.พ. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. กล่าวถึงกระแสภายหลังแถลงข่าวรายละเอียดเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้าเทอมินัล 21 อ.เมือง จ.นครรราชสีมา ว่า ตนคิดว่าสื่อมีความเข้าใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ข้าราชการทหาร ตำรวจให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ถือเป็นบทเรียนทั้งประเทศ และเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรกในโลก

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ในส่วนกองทัพบกก็แสดงความเสียใจ และความรับผิดชอบไปแล้ว แต่ในสื่อออนไลน์ก็ยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอยู่ก็เป็นเรื่องปกติ และเราก็ทำใจมานานแล้ว เพราะห้ามไม่ได้ ขอบคุณสื่อทีระมัดระวังเรื่องการตั้งคำถามมากกว่าให้เป็นเรื่องประเด็นทางการเมือง

บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ขณะเตรียมร่วมทดสอบสมรรถภาพร่างกายเช้าวันนี้

บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ขณะเตรียมร่วมทดสอบสมรรถภาพร่างกายเช้าวันนี้

  • สั่งเปิดศูนย์รับเรื่อง!

ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางไปร่วมพิธีศพ อีกทั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ได้พระราชทานพวงรีด และพระราชทานสวดอภิธรรมศพ รวมถึงพระราชทานเพลิงศพให้กับผู้เสียชีวิต ส่วนตนก็จะเดินทางไปร่วมงานศพของตำรวจที่เสียชีวิตที่วัดตรีทศเทพด้วย ขณะที่ส่วนอื่นเป็นเรื่องภายในที่กองทัพบกต้องแก้ไข

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า หลังจากได้ชี้แจงไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา แล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น แต่ทุกคนก็ต้องพร้อมรับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ในวันที่ 17 ก.พ.นี้ จะพยายามเปิดศูนย์คอลเซ็นเตอร์ให้ได้ โดยได้สั่งการให้ไปหาระบบมา และควบคุมโดยสำนักงานผู้บัญชาการทหารบก โดยจะจัดเจ้าหน้าที่ทำงานตามวันเวลาราชการ 08.00 น.- 16.30 น.

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวอีกว่า ส่วนนอกเวลาราชการ จะเป็นระบบตอบรับอัตโนมัติเพื่อบันทึกเป็นข้อมูลไว้ แต่รับรองว่ามีเจ้าหน้าที่มอนิเตอร์อยู่แน่นอน ยืนยันว่าสิ่งที่กำลังพลทุกนาย ถูกเอาเปรียบต้องมีการรายงาน ยศ ชื่อ ตำแหน่ง และสังกัด รวมถึงหมายเลขประจำตัว รับรองว่าทุกอย่างจะเป็นความลับ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี

ผบ.ทบ.ร่วมทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

ผบ.ทบ.ร่วมทดสอบสมรรถภาพร่างกาย

“เมื่อคืนมีคนส่งข้อความมาถึงผมเรื่องเบี้ยเลี้ยงต่าง ๆ ผมจึงส่งไปถามผู้บังคับหน่วยเพื่อให้ดำเนินการ ไม่ใช่ดูอย่างเดียว ขั้นต้นผมก็ได้มีการลงโทษ และในวงรอบต่อไปก็จะมีการปรับย้าย ยืนยันว่าทำจริงจัง ทั้งนี้ ขอร้องผู้ที่แจ้งข้อมูลว่าต้องแจ้งข้อความจริงที่เกิดขึ้นกับตนเอง เพื่อจะได้ตรวจสอบได้ว่าบุคคลที่แจ้งมีตัวตนจริง ถ้าโกหกต้องถูกดำเนินการตามกฎหมาย เพราะทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ถือว่าเป็นการให้ข้อมูลเท็จ” ผบ.ทบ. กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นอดีต ผบ.ทบ. ได้ให้ข้อแนะนำหรือไม่ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีบอกว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการปรับแก้ ให้ทันยุค ทันเหตุการณ์ซึ่งต้องยอมรับว่ากองทัพเป็นเป้าหมาย รวมถึงตนเองด้วย เพราะฉะนั้นการที่ผู้บังคับบัญชา ต้องทำตัวเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่บังคับแต่คนอื่น อย่างไรก็ตาม ก็พยายามทำหลายเรื่อง และได้ทำไปหลายเรื่องแล้วแต่ไม่อยากโฆษณา อย่างที่บอกแล้วว่า propaganda ไม่เก่ง

 

เมื่อถามถึงกรณีการลงนามกับกระทรวงการคลังในเรื่องทรัพย์สินราชพัสดุกับกระทรวงการคลัง พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ในส่วนของขั้นตอนจะนำเรื่องที่เป็นสวัสดิการดั้งเดิมของกองทัพบก เช่น สนามกอล์ฟ โรงแรม และสนามมวย ไปหารือกับกระทรวงการคลัง ซึ่งขณะนี้ได้ข้อยุติแล้วว่าจะเริ่มดำเนินการที่ใดบ้าง เพราะต้องเริ่มเป็นเฟส หรือระยะ

  • บิ๊กแดง ขออย่าตีซ้ำ

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า โดยเฟสที่ 1 เริ่มต้นที่โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ สนามกอล์ฟ และสนามมวย โดยจะมีการบันทึกเอ็มโอยูกับกระทรวงการคลังเพื่อใช้สวัสดิการเชิงพาณิชย์และเป็นไปตามกฎหมาย หมายความว่าได้รับที่ไหนมาก็ต้องแบ่งให้กระทรวงการคลัง จากนั้นกระทรวงการคลังก็จะพิจารณาสัดส่วนคืนให้เป็นสวัสดิการของกองทัพบก ซึ่งก็จะทำไปเข้ากองทุนสวัสดิการต่อไป

ผบ.ทบ. กล่าวว่า การบริหารจัดการทั้งหมดจะให้เอกชนเข้ามาดำเนินการมากกว่าจะใช้ทหาร เพราะมีความเป็นมืออาชีพ เนื่องจากเราไม่ได้เรียนการโรงแรมมา เราไม่ได้เรียนการบริหารจัดการมา แต่เรามีบุคลากรที่ยังทำงานอยู่

ผบ.ทบ.ขณะวิ่งเพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่ทบ.เช้าวันนี้

ผบ.ทบ.ขณะวิ่งเพื่อทดสอบสมรรถภาพร่างกายที่ทบ.เช้าวันนี้

“อะไรที่ไม่ดีก็ยอมรับ แต่อย่ามาตีซ้ำ ตีซ้อน ผมแก้ไข ไม่ใช่ไม่ทำ ไม่ใช่ผมพูดอย่างเดียวแล้วไม่ทำ ไปถามดูได้ในกองทัพบกในสิ่งที่ทำ ผมก็ยอมรับ ไม่ใช่แค่สิ่งที่ผิดพลาด และที่เกิดขึ้นนอกกองทัพบก ผมพยายามแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาด และผมต้องแบกรับผลกระทบจากกำลังพลที่ทั้งไม่พอใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะวัตถุประสงค์คือกองทัพบกต้องอยู่” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว

ถามต่อว่า อาจจะเกิดผลกระทบกับกำลังพลที่ต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงาน พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า เป็นส่วนน้อย เช่นกำลังพลที่ไปช่วยราชการอยู่ที่โรงแรมสวนสนประดิพัทธ์ ก็มีตำแหน่งและเงินเดือนอยู่แล้ว ก็กลับมาทำงานที่เดิม ไม่ใช่ทำงาน 2-3 แห่ง ซึ่งจะทำทุกอย่างให้สะอาดและโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายมากขึ้น ดังนั้นสิ่งที่แก้ตนจะเป็นคนรับผิดชอบและแก้ไขให้ได้มากที่สุดก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ

  • รับผลวิจารณ์กระทบครอบครัว

เมื่อถามว่า มองภาพรวมผลตอบกลับจากการแถลงข่าวอย่างไร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนไม่มีอินสตาแกรมและเฟซบุ๊ก ได้รับแต่ข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ในส่วนของภริยาและบุตร ก็ต้องปิดโซเชียลมีเดียไปเลย เป็นผลกระทบจากตน ที่ทำให้บุคคลใกล้ชิดและครอบครัวได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดา

พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวต่อว่า ซึ่งตนมองว่าวิกฤตินี้ไม่ควรลืมไปง่าย ๆ เราควรหันมารักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกัน หันหน้าเข้าหากัน มองผลประโยชน์ของประเทศชาติและความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก อย่างมุ่งแต่ คนนั้นดี คนนั้นเก่ง คนโน่นไม่ดี สิ่งไม่ดีก็ช่วยกันแนะนำแก้ไข ตอนนี้มีกำลังใจดี เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมาได้ผ่อนคลายในสิ่งที่ตนรู้สึกตั้งแต่วันเกิดเหตุ และได้แสดงความรับผิดชอบ

ผบ.ทบ. กล่าวอีกว่า ตนพูดจากใจ อาจจะมีคนไปตีว่าเป็น emotional บ้าง อะไรบ้างแต่ทุกอย่างมาจากใจ สิ่งที่ตนทำเขียนมาจากใจกว่าจะลงมาเป็นตัวปากกา ขณะที่สื่อเองก็ได้รับบทเรียน โดยเฉพาะดิจิทัลทีวีที่ถูก กสทช.เรียกไปทำความเข้าใจ ว่าในต่างประเทศเขาบริหารจัดการกันอย่างไร หลายสื่อก็ได้ให้ข้อเสนอแนะที่ดี เพราะบางอย่างอาจทำให้เกิดพฤติกรรมลอกเลียนแบบขึ้นมา รวมถึงเอกอัครราชทูตหลายประเทศได้ส่งเอกสารมาถึงตนเอง ว่าประเทศเขาก็เคยเกิดขึ้นและได้แนะนำวิธีการบริหารจัดการในหลายๆ อย่าง

  • ผบ.ทบ.รับเป็นคนอ่อนไหว

ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ถูกมองเรื่องแถลงข่าวด้วยน้ำตา พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนเป็นคนมีอารมณ์อ่อนไหวกับเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะสิ่งที่เสียใจที่สุดคือการสูญเสียผู้ปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะพลทหารเมธา เลิศศิริ ที่ไม่มีใครกล่าวถึงว่าเขาเสียชีวิตระหว่างยืมยามรักษาการณ์แต่ไปมองว่ากองทัพหละหลวม

“ผมถามว่าถ้าหละหลวมจะมียืนยามรักษาการณ์อยู่ไหม เพราะคนที่เห็นหน้ากันทุกวันใครจะรู้ว่าจะเดินเข้ามาแล้วเอาปืนมายิง คนทำงานด้วยกันเห็นหน้ากันทุกวันใครจะไปรู้ ใครจะไปเฉลียวใจ อย่างไรก็ตาม ฝากขอให้คิดไปดูข้อความที่คนแชร์ในโซเชียลมีเดีย เรื่องเฉินหลง ที่บรรทัดแรก ๆเขียนว่าเฉินหลง 65 ปีได้นอนอย่างสงบที่ฮ่องกง ทำให้เข้าใจว่าเฉินหลงเสียชีวิต แต่พอไล่บรรทัดถัดมาเขาก็เขียนว่า เฉินหลงตื่นเช้ามาก็ตื่นเช้าออกกำลังกายปกติ จึงอยากให้คนไทยอ่านหนังสือมากกว่า 8 บรรทัด เวลาอ่านอะไรอย่าอ่านแค่ 3-4 บรทัดแล้วไม่อ่าน” ผบ.ทบ.กล่าว

______________________________________

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน