ผบ.ทบ. รับเหตุระเบิดในรพ.พระมงกุฎฯ เป็นชนิดเดียวกับที่หน้ากองสลาก-โรงละครแห่งชาติ ขอจนท.ทำงานเชื่อจับคนร้ายได้ วอนประชาชนแจ้งเบาะแสคนร้าย ย้ำทุกส่วนบูณาการดูแลความปลอดภัย เช็คประสิทธิภาพกล้องวงจรปิด ติดตั้งจุดเสี่ยง เข้มงวดสถานที่ท่องเที่ยว-คมนาคม-สาธารณูปโภค ประณามผู้ก่อเหตุไร้มนุษยธรรม

อ่านข่าว ตร.สรุปแล้ว! ลอบวางระเบิดร.พ.พระมงกุฎเกล้า ตรวจเจอเศษถ่านไฟฉาย-สายไฟ

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรียกประชุมหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วนถึงเหตุระเบิดภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบ พระชนมพรรษา รพ.พระมงกุฎเกล้าว่า เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงต้องไม่ประมาท จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่าที่ดูจากพยานหลักฐาน ผู้ก่อเหตุมีจำนวนไม่มาก และวัตถุพยานคาดว่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุบริเวณด้านหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถ.ราชดำเนิน และบริเวณด้านหน้าโรงละครแห่งชาติ

ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อความมั่นใจของประชาชนที่เคยยอมรับคสช. ในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยหรือไม่นั้น ต้องมองในภาพการทำงาน เจ้าหน้าที่ไม่ได้หย่อนยาน ซึ่งยังคงทำงานอย่างหนัก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมาจากช่องโหว่ที่เล็กน้อยมาก และกำหนดเป้าหมายที่ค่อนข้างอ่อนไหวในแต่ละพื้นที่ ดังนั้น ไม่ชี้ชัดได้ว่าเป็นความบกพร่องของใคร แต่เป้าหมายของคนบางกลุ่มพยายามดำเนินการทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐและคสช. แต่เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเข้าใจและติดตามการทำงานของคสช. อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่พยายามทำทุกมาตรการเพื่อให้สังคมสงบและมีความเรียบร้อย ประชาชนสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสบายใจมากที่สุด

เมื่อถามว่า ด้านการข่าวมีรายงานจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกหรือไม่ พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ในทางการข่าวถือว่ายังมีความพยายามอยู่ แต่ผู้ไม่หวังดีจะสามารถทำได้มากหรือน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่นๆด้วย

ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช. เปิดเผยว่า พล.อ.เฉลิมชัย ได้เรียกประชุมประเมินสถานการณ์และแนวทางการรักษาความสงบเรียบร้อยในห้วงต่อไป โดยได้รายงานเหตุการณ์ที่มีผู้ไม่หวังดี ก่อเหตุและกระทำการให้เกิดความวุ่นวายและความไม่สงบเรียบร้อย ในพื้นที่ต่างๆที่ผ่านมา โดยล่าสุดคือการก่อเหตุที่รพ.พระมงกุฎ โดยให้เพิ่มมาตรการดังนี้ 1.ให้ทุกภาคส่วนบูรณาการและประสานการปฏิบัติโดยใกล้ชิด เพื่อดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในทุกพื้นที่

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า และ 2.ให้ตรวจสอบสถานการณ์กล้องวงจรปิด (ซีซีทีวี) และไฟฟ้าส่องสว่าง ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน รวมทั้งให้พิจารณาติดตั้งเพิ่มเติมในพื้นที่ จุดเสี่ยง และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ทั้งนี้ ให้วิเคราะห์ระบบที่มีอยู่ว่าบริเวณใดที่เป็นจุดอับของกล้องซีซีทีวี และระบบไฟฟ้าส่องสว่างด้วย 3.ให้เข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยว พื้นที่สาธารณะ แหล่งเศรษฐกิจ ย่านการค้า ระบบสาธารณูปโภค ปมคมนาคมและสถานบริการ สถานประกอบการที่มีประชาชนเข้าไปใช้บริการหรือรวมอยู่กันเป็นจำนวนมาก

รองโฆษก คสช. กล่าวว่า 4.ให้ทุกหน่วยทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหาร เพิ่มมาตรการป้องกัน การก่อเหตุ ก่อกวนของผู้ไม่ประสงค์ดีโดยเฉพาะพื้นที่ชุมชนและสถานที่สำคัญต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบตลอดจนที่ตั้งของหน่วย พร้อมจัดกำลังพลลงพื้นที่เพื่อประสานงานกับผู้ประกอบการให้เพิ่มความเข้มงวด ในการรักษาความปลอดภัยสถานที่ของตนเอง และขอความร่วมมือประชาชนช่วยเจ้าหน้าที่ดูแล รักษาความปลอดภัยสถานที่โดยการสังเกตวัตถุ และบุคคลต้องสงสัยหากพบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบโดยเร็ว ซึ่งขอประณามผู้ก่อเหตุที่กระทำอย่างไร้มนุษยธรรม ที่กระทำแม้แต่ในพื้นที่โรงพยาบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน